รวบผู้ต้องสงสัยบึ้มข้างโรงพักปัตตานี กับปฏิบัติการไล่บี้ของ “บิ๊กสีกากี”และฝ่ายปกครอง
ทีมข่าวอิศรา
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
หนึ่งเดือนกับอีก 6 วัน ฝ่ายความมั่นคงก็สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยรายแรกในเหตุการณ์ “คาร์บอมบ์” ข้างโรงพัก สภ.เมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2553 ได้สำเร็จ โดยเหตุการณ์ในวันนั้น นอกจาก “คาร์บอมบ์” แล้ว ยังมีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ปาระเบิดขว้างแบบ 67 บริเวณลานหน้าโรงพัก ขณะตำรวจนับร้อยนายกำลังเข้าแถวเคารพธงชาติและปฏิญาณตนด้วย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บราว 60 คน
คราวนั้น “โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา” พาดหัวข่าวว่าเป็น “วันโลกถล่มของตำรวจปัตตานี” ซึ่งก็คงไม่เกินความจริงนัก เพราะเหตุระเบิดหน้าโรงพักแม้จะเกิดมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยสร้างความเสียหายมากมายขนาดนี้
และกลายเป็นชนวนย้ายด่วน พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต จากผู้กำกับการ สภ.เมืองปัตตานี ไปนั่งตบยุงที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 27 เม.ย.
ล่าสุด วันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ค. หรือ 1 เดือนหลังจากมีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.มนัส และ 1 เดือนกับอีก 6 วันหลังเหตุระเบิด นายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐ์พันธ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (ผบก.ภ.จว.ปัตตานี) และเจ้าหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา
ข้อมูลที่แถลงต่อสื่อมวลชนก็คือ จากการสืบสวนสอบสวนติดตามกลุ่มคนร้ายโดยอาศัยหลักฐานเป็นภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ทราบเบาะแสว่าผู้ต้องสงสัยได้เข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่หมู่ 6 บ้านปะกาลือสง ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จากนั้นเวลา 06.00 น.วันที่ 27 พ.ค. เจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังทุกฝ่ายเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านไม่มีเลขที่ในหมู่บ้านปะกาลือสง และพบตัวผู้ต้องสงสัยตามภาพ จึงควบคุมตัวไว้
ผู้ต้องสงสัยรายนี้คือ นายมอฮามะ การเดร์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 8 บ้านตุยง ต.ตุยง อ.หนองจิก มีหมายจับ จ.462/2553 ลงวันที่ 7 พ.ค.2553 ในคดีลอบวางระเบิดข้างโรงพัก สภ.เมืองปัตตานี โดยมีพฤติการณ์เป็นผู้ขับรถยนต์บรรทุกระเบิดเข้าไปในซอยข้าง สภ.เมืองปัตตานี ก่อนจะเกิดระเบิดครั้งรุนแรง
จากการตรวจค้นบ้านที่ นายมอฮมมะ พักอยู่ พบของกลางทั้งเสื้อผ้า กางเกง กระเป๋า แผ่นซีดี ซิมการ์ดโทรศัพท์ สมุดบัญชีธนาคาร จึงยึดไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง
สอบประวัติเบื้องต้นพบว่า นายมอฮามะ เคยถูกจับในคดีอั้งยี่ ซ่องโจร และสะสมอาวุธ สมคบกันเพื่อก่อการร้าย ตามหมายจับ จ.611/2550 ลงวันที่ 11 ธ.ค.2550 คดีลอบวางระเบิด สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการประกันตัวในชั้นศาล
หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้นำภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดให้ นายมอฮามะชี้ว่าบุคคลในภาพเป็นตนเองหรือไม่ แต่ นายมอฮามะ ยังให้การวกวน ยอมรับบ้างไม่ยอมรับบ้าง แต่ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการวางระเบิด เพราะในวันเกิดเหตุเขาพักผ่อนอยู่ที่บ้าน
กระนั้น นายมอฮามะ ยอมรับว่าเป็นแนวร่วมของกลุ่มติดอาวุธ อาร์เคเค (หน่วยรบขนาดเล็กที่ผ่านการฝึกรบแบบจรยุทธ์) เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ จ.ปัตตานี โดยอยู่ในกลุ่มของ นายแวฮาเล็ง แวสุหลง หัวหน้าอาร์เคเคปัตตานี ซึ่งเพิ่งถูกยิงเสียชีวิตที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เมื่อไม่นานมานี้
นายมอฮามะ ให้การด้วยว่า เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบมาตั้งแต่ปี 2547 ทำหน้าที่ดูต้นทาง โดยอ้างว่าสาเหตุที่ต้องเข้าเป็นแนวร่วมเพราะถูกข่มขู่จากขบวนการ
สำหรับผู้ต้องสงสัยคดีลอบวางระเบิดครั้งนี้ ยังมีอีก 1 คนที่มีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสแล้ว คาดว่าจะจู่โจมจับกุมในเร็ววันนี้
เปิดแถลงถี่ยิบ-ตั้งรางวัลนำจับ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าคดีลอบวางระเบิด 2 จุดอย่างรุนแรงใกล้กับโรงพัก สภ.เมืองปัตตานี เป็นคดีร้อนที่สะเทือนเก้าอี้ข้าราชการระดับสูงที่รับผิดชอบพื้นที่ เห็นได้จากคำสั่งย้ายด่วน พ.ต.อ.มนัส และส่งผู้กำกับฯมือดีจาก สภ.ปะนาเระ มารักษาราชการแทน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ พล.ต.ต.พิเชษฐ์ และฝ่ายปกครองที่บทบาทค่อนข้างจะนิ่งเงียบมาโดยตลอดอย่าง ผู้ว่าฯธีรเทพ ต้องเปิดแถลงข่าวความคืบหน้าของคดีอย่างถี่ยิบ
ก่อนจับกุมนายมอฮามะ ผู้ว่าฯธีรเทพ และผู้การฯพิเชษฐ์ เพิ่งร่วมกันแถลงข่าวการออกหมายจับผู้ต้องหา 3 คนที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดทั้ง 2 เหตุการณ์ โดยผู้ต้องหาที่ศาลจังหวัดปัตตานีอนุมัติหมายจับประกอบด้วย
1.นายมูฮำหมัด จิใจ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83/2 หมู่ 1 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้ต้องหาชุดที่ปฏิบัติการขว้างระเบิดถล่มลานหน้าโรงพัก
2.นายอับดุลฮากิม ปูตะ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 6 ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้ต้องหาวางระเบิดคาร์บอมบ์ร่วมกับนายมอฮามะที่เพิ่งถูกจับกุมได้
3.ชายไม่ทรายชื่อ
คดีนี้เป็นคดีนโยบายที่ฝ่ายความมั่นคงจำเป็นต้อง “ปิดให้ได้” ถึงกับตั้งรางวัลนำจับ 100,000 บาทสำหรับผู้ที่ชี้เบาะแสมือระเบิด!
ไล่บี้คดีความมั่นคง-ยาเสพติด
แม้ปัตตานีจะยังคงเกิดเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องยอมรับว่าในระยะหลังมีการ “ไล่บี้” จากระดับนโยบายเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีมากเป็นพิเศษ อย่างเช่นคดีสำคัญที่หลายฝ่ายจับตามอง เพราะเป็นการประกบยิงทหารหญิงยศถึง “พันตรี” และยังเป็นบุคลากรทางการแพทย์ คือเป็นพยาบาลประจำโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ด้วย ผลของการสืบสวนสอบสวนก็พบความคืบหน้าเป็นระยะ
ในการแถลงข่าวคราวเดียวกัน ผู้การฯพิเชษฐ์ และผู้ว่าฯธีรเทพ ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดียิง พ.ต.หญิง นราทิพย์ แก้วถาวร พยาบาลประจำโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า จากการสืบสวนสอบสวนพบว่าน้ำหนักการก่อเหตุน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับการจัดซื้อที่อยู่อาศัยมากกว่าการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ
โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบเบาะแสของกลุ่มที่ก่อเหตุ ทั้งมือปืนและผู้จ้างวานแล้ว แต่ยังไม่มีสามารถเปิดเผยได้
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (บก.ภ.จว.ปัตตานี) ทั้งผู้ว่าฯธีรเทพ และผู้การฯพิเชษฐ์ ก็ได้ร่วมกันเปิดแถลงผลงานการจับกุมนักค้ายาเสพติด 3 ราย ผู้ต้องหารวมกันถึง 6 คน พร้อมของกลางยาบ้า 5,500 เม็ด อาวุธปืน เงินสด 200,000 บาท รถบรรทุกสิบล้อ รถยนต์ และรถแบ็คโฮ
โดยทั้งหมดเป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีพฤติการณ์ลักลอบนำยาเสพติดจากภาคเหนือเข้ามาจำหน่ายให้กับเครือข่ายในพื้นที่ จึงมีการวางแผนล่อซื้อ จับกุม และขยายผลจนได้ผู้ต้องหา 6 คน และของกลางอีกจำนวนมาก
พล.ต.ต.พิเชษฐ์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นเครือข่ายของ นายอุสมาน สะแลแมง ซึ่งเป็นแกนนำเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเชื่อมโยงอีกหลายกลุ่มทั้งในพื้นที่ภาคใต้และภาคเหนือ ขณะนี้ได้ประสานข้อมูลกับชุดปราบปรามยาเสพติดหลายจังหวัดเพื่อขยายผลต่อเนื่อง
“ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหายาเสพติดที่เชื่อมโยงใยถึงสถานการณ์ความรุนแรงด้วย” พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ระบุ
เป็นข้อสมมติฐานที่ชัดเจนซึ่งภาครัฐต้องบูรณาการสรรพกำลังทุกหน่วยเพื่อยุติวงจรของปัญหา…ทั้งอิทธิพลมืดและความไม่สงบ!
--------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 เหตุระเบิดคาร์บอมบ์ไม่ห่างจากโรงพัก สภ.เมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 21 เม.ย.
2 พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐ์พันธ์ (ขอบคุณภาพจากบล็อคโอเคเนชั่น)
อ่านประกอบ :
- ผ่าปมบึ้มปัตตานี-เด้งผู้กำกับ...ความไร้เอกภาพในเมืองมากผลประโยชน์
- วิเคราะห์บอมบ์ปัตตานี จุดระเบิด 2 ระบบ-หวังฆ่าหมู่เจ้าหน้าที่
- เด้ง ผกก.เมืองปัตตานีเซ่นระเบิด จับอาวุธล็อตใหญ่จ่อป่วน 6 ปีกรือเซะ
- วันโลกถล่มของตำรวจปัตตานี บึ้มหน้าโรงพัก-คาร์บอมบ์ซ้ำดับ 1 เจ็บกว่าครึ่งร้อย