กบอ. อนุมัติก.เกษตรฯ ติดตั้งสถานีสูบน้ำคลองพระพิมล 2 วงเงิน 170 ล.
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและเห็นชอบตามที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ครั้งที่ 10/2555 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประธานกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย เสนอดังนี้
1. อนุมัติข้อเสนอของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) การติดตั้งสถานีสูบน้ำคลองพระพิมล 2 วงเงิน 170 ล้านบาท โดยให้ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดในอำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 (350,000 ล้านบาท)
2. เห็นชอบในหลักการข้อเสนอ 2 โครงการ ดังนี้
2.1 การปรับปรุงคันคลองชัยนาท – ป่าสัก ฝั่งซ้าย (กม. 91+100 ถึง กม. 121+383) ของ กษ.
2.2 แผนงานการขุดลอกบึงสีไฟของจังหวัดพิจิตร ทั้งนี้ให้มีการดำเนินการตามกฎหมายการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้เรียบร้อยก่อนดำเนินการ โดยให้ใช้กรอบการศึกษา EIA ที่กรมทรัพยากรน้ำร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ศึกษาไว้แล้ว
3. เห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กษ. และจังหวัดพิจิตร รับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามข้อ 2 ต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประธานกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยรายงานว่า กบอ. ในการประชุมครั้งที่ 10/2555 เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2555 ได้มีมติ ดังนี้
1. เห็นชอบตามข้อเสนอของ กษ. การติดตั้งสถานีสูบน้ำคลองพระพิมล 2 วงเงิน 170 ล้านบาท โดยให้ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 (350,000 ล้านบาท) เป็นโครงการตามแผนงานฟื้นฟูและปรับปรุงประสิทธิภาพสิ่งก่อสร้าง โดยเป็นการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำลุ่มน้ำท่าจีน จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาให้ระบายน้ำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
2. อนุมัติหลักการข้อเสนอ 2 โครงการ ดังนี้
2.1 การปรับปรุงคันคลองชัยนาท – ป่าสัก ฝั่งซ้าย (กม. 91+100 ถึง กม. 121+383) ของ กษ. เป็นการดำเนินการตามแผนงานฟื้นฟูและปรับปรุงประสิทธิภาพสิ่งก่อสร้างเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในลุ่มน้ำป่าสักและพื้นที่ใกล้เคียงให้สามารถป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เศรษฐกิจพื้นที่ชุมชนและพื้นที่การเกษตรบริเวณทั้ง 2 ฝั่งคลองและพื้นที่ใกล้เคียง
2.2 แผนงานการขุดลอกบึงสีไฟของจังหวัดพิจิตร ทั้งนี้ ให้มีการดำเนินการตามกฎหมายการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้เรียบร้อยก่อนดำเนินการ โดยให้ใช้กรอบการศึกษา EIA ที่กรมทรัพยากรน้ำร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ศึกษาไว้แล้ว เป็นการดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำและใช้เป็นพื้นที่รับน้ำขนาดใหญ่จากลุ่มน้ำน่านและแม่น้ำพิจิตรสายเก่า ซึ่งเป็นการป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนและพื้นที่การเกษตร
3. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กษ. และจังหวัดพิจิตรรับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามข้อ 2 ต่อไป