มติวิปฝ่ายค้านยื่นตีความคุณสมบัติ'ยงยุทธ'2ตค.
มติวิปค้านเข้าชื่อ ส.ส.ยื่นตีความคุณสมบัติ ส.ส. “ยงยุทธ” พรุ่งนี้ บี้รัฐเอาที่ดินอัลไพน์กลับเป็นของหลวง ดักคอรัฐอย่าแอบโหวตแก้ รธน. วาระ 3
เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติให้ ส.ส.ของฝ่ายค้านเข้าชื่อ 50 คน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 เพื่อยื่นเรื่องต่อประธานสภาฯ ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยคุณสมบัติความเป็น ส.ส. ของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยคาดว่าจะรวบรวมรายชื่อได้ครบและยื่นต่อประธานสภาฯ ได้ในวันพรุ่งนี้ (2 ต.ค.) ซึ่งมีเหตุผลทางข้อกฎหมายว่าเมื่อนายยงยุทธถูกไล่ออกจากราชการก็ต้องถือว่า ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีและ ส.ส. รวมทั้งไม่เข้าข่ายการใช้ พ.ร.บ.ล้างมลทิน แต่เมื่อนายยงยุทธ ยืนยันว่าจะอยู่ในตำแหน่ง ส.ส.ต่อไป ก็ถือว่าขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 102 (6 และ) มาตรา 174 (4) เรื่องคุณสมบัติความเป็น ส.ส.และรัฐมนตรี
ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยระบุว่า ฝ่ายค้านดำเนินการเรื่องนี้เป็นเพียงเกมการเมือง เพราะมีผู้ที่ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตีความแล้วนั้น ฝ่ายค้านยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องข้อกฎหมาย และผู้ที่ยื่นเรื่องให้ กกต. ก็คือนายยงยุทธ ที่เป็นการยื่นเรื่องแก้เกี้ยวเท่านั้น รวมทั้งยังไม่มีใครทราบว่านายยงยุทธ ได้ยื่นข้อมูลอะไรให้ กกต. พิจารณา ทั้งนี้ วิปฝ่ายค้านได้วิเคราะห์ว่าการที่นายยงยุทธ ลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทยนั้น เพราะต้องการตัดปัญหาให้พ้นจากตัวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาเท่านั้น ที่ปล่อยปละละเลยที่ปล่อยให้คนที่ขาดคุณสมบัติทำหน้าที่ ส่วนกรณีที่คณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วินิจฉัยว่าการนำที่ดินธรณีสงฆ์ไปทำเป็นสนามกอล์ฟอัลไพน์ มีการทุจริตนั้น ฝ่ายค้านมีมติว่าเรื่องนี้ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องนำที่ดินดังกล่าว กลับมาเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งฝ่ายค้านจะติดตามต่อให้เกิดความถูกต้องและให้มีการดำเนินการที่สอดคล้องกับมติของ ป.ป.ช. ด้วย
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่าการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบกรอบสนธิสัญญาต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ ม.190 ในวันพรุ่งนี้ (2ต.ค.) ซึ่งมีหลายฝ่ายกังวลว่ารัฐบาลอาจจะสอดแทรกวาระให้รัฐสภา โหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.291 ในวาระ 3 เห็นว่าเรื่องนี้ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะไม่ได้บรรจุอยู่ในวาระการประชุม และหากจะมีการโหวตจริง ก็ต้องมีการบรรจุในวาระการประชุมและนัดหมายเป็นกิจจะลักษณะ แต่หากมีการโหวตจริงนั้น ยืนยันพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ร่วมโหวตด้วยอย่างแน่นอน สำหรับเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีนั้น ฝ่ายค้านเห็นว่ารัฐบาลไม่ควรเอาเรื่องนี้มาเล่นเกมการเมืองว่าจะปรับก่อน หรือหลังการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ควรคำนึงถึงผลประโยชน์โดยรวมของประเทศ และควรมีการปรับรัฐมนตรีที่ไม่มีผลงานการบริหารหรือรัฐมนตรีโลกลืมออก ไม่ใช่จะรอการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
นอกจากนี้ ที่ประชุมวิปฝ่ายค้าน ยังมีการหารือถึงเรื่อง รัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1 ปี โกหกสีขาว 19 เรื่อง ซึ่งในวันนี้เป็นลอตสุดท้ายเรื่องที่ 17-19 ซึ่งนางผุสดี ตามไท ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องที่ 17 เรื่องเพิ่มเงินเดือนปริญญาตรีหมื่นห้า กลายเป็นเพิ่มค่าครองชีพ ว่าขณะนี้คณะรัฐมนตรียังไม่สามารถทำเรื่องนี้ โดยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 ก.ย.2554 ก็อนุมัติปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ 15,000 บาท ให้มีผล 1 ม.ค. 2555 แต่ขณะนี้ก็ได้เลื่อนการจ่ายออกไปเป็นวันที่ 1 ม.ค. 2557 ซึ่งรัฐบาลคิดแต่เพียงอยากได้คะแนนเสียง เพื่อเป็นรัฐบาล ขณะเดียวกันเป็นการสร้างสังคมให้มีการโกหกพูดเท็จได้
ด้านนายยุพราช บัวอินทร์ ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องที่ 18 จำนำมันสำปะหลัง 2.75-2.90 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งโม้ทั้งโกง เนื่องจากการจำนำมันสำปะหลังผลประโยชน์ตกอยู่ที่ลานมัน แต่เกษตรกรกลับจน รวมทั้งสามารถจำนำได้เพียง 1.50 บาทต่อกิโลกรัมด้วย นอกจากนี้ มีการสวมสิทธิ์ ทำสต๊อกลม มีการลักลอบนำมันเข้ามาจากเพื่อนบ้าน และในวันนี้ (1 ต.ค.) ก็จะมีการเปิดรับจำนำมันสำปะหลัง ในราคา 2.50 บาทต่อกิโลกรัมนั้น ทำให้ไม่เข้าใจว่ารัฐบาลคิดได้อย่างไร จึงมีการปรับลดราคา จากเดิม 2.90 บาทต่อกิโลกรัมและลดจำนวนการรับจำนำจาก 250 ตันเหลือเพียง 200 ตันต่อราย ขณะที่นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องที่ 19 เรื่องเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ตัดตอนไม่ทำประชามติ ว่าการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย เคยกล่าวว่าจะใช้รัฐธรรมนูญ ปี 2540 เป็นฐานการยกร่างฉบับใหม่และจะให้มีการทำประชามติ 2 ครั้ง คือก่อนและหลังแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ความจริงคณะรัฐมนตรี เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เข้าสู่สภาฯ โดยไม่ให้มีการทำประชามติเลย.
ขอบคุณข่าวจาก

