ทหารลั่นพิสูจน์แล้ว“คลิปฉาว”ของเก๊! นักวิชาการแนะรัฐเร่งทำให้ชาวบ้านอุ่นใจ
ทีมข่าวอิศรา
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
“สงครามคลิป” ที่ชายแดนใต้วุ่นวายไม่แพ้กรุงเทพฯ หลังจากมีการส่งต่อคลิปวิดีโอเป็นภาพกลุ่มชายฉกรรจ์ชุดดำกำลังละเมิดทางเพศสตรีนางหนึ่ง โดยผู้ส่งอ้างว่ากลุ่มชายฉกรรจ์คือทหารพรานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่เหยื่อสาวคือผู้หญิงมุสลิม จนเป็นที่โจษขานกันอย่างกว้างขวางในพื้นที่นั้น ล่าสุด กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าได้สรุปผลการตรวจสอบเรื่องนี้ออกมาแล้ว
พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) เปิดเผยกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า ได้ตรวจสอบทหารพรานจากทุกกรมที่ปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ย้อนหลังกลับไปถึง 2 ปี ไม่พบว่ามีทหารพรานคนใดหน้าตาเหมือนกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ปรากฏอยู่ในคลิปเลย
นอกจากนั้น จากการตรวจสอบคลิปวิดีโอชิ้นนี้อย่างละเอียด พบข้อน่าสงสัยถึง 7 จุดด้วยกัน จึงเชื่อว่าไม่น่าจะใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับกำลังพลในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ส่วนกรณีที่มีนักวิชาการออกมาให้สัมภาษณ์ผ่าน “ศูนย์ข่าวอิศรา” เรียกร้องให้หน่วยงานของทหารพรานซึ่งตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาออกมาแถลงข้อเท็จจริงเพื่อเคลียร์ตัวเองนั้น พ.อ.บรรพต กล่าวว่า อาจารย์ท่านนี้คงไม่เข้าใจระเบียบและหลักปฏิบัติของทหาร กล่าวคือระดับหน่วยจะไม่สามารถแถลงข่าวได้เอง ต้องให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เป็นผู้แถลง และแถลงโดยบุคคลที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายเท่านั้น
ขณะที่ พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 41 หนึ่งในกรมทหารพรานที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า คลิปที่อ้างว่าเป็นการกระทำของทหารพรานข่มขืนผู้หญิง และมีการส่งกระจายกันไปนั้น เป็นคลิปที่ปรากฏมาหลายปีมาแล้ว ที่ผ่านมาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบดู ก็ไม่พบว่ามีผู้เสียหายจากกรณีนี้แต่อย่างใด จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นคลิปปลอม
“จริงๆ แล้วเราอยากให้มีการร้องเรียนเรื่องนี้มาก เราจะได้มีโอกาสชี้แจง เพราะมันไม่จริงแน่นอน และนี่ก็ไม่ใช่การแก้ตัวแทนลูกน้อง เราแค่ต้องการความยุติธรรม คือประชาชนต้องการความยุติธรรม ทหารเราก็ต้องการความยุติธรรมด้วยเหมือนกัน ไม่ใช่ด่าเราอย่างเดียว ที่ผ่านมาชาวบ้านร่ำลือแล้วก็พูดต่อโดยไม่มีการตรวจสอบ ส่วนของเรามีการตรวจสอบ ทั้งเวลาการถ่ายทำ ลักษณะการถ่ายทำ อุปกรณ์ที่ใช้ มุมกล้อง เครื่องแบบ ชุดแต่งกายทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เราตรวจสอบก่อนจะตอบ นั่นแหละจึงทำให้ไม่รู้สึกกลัวเลยว่าจะเป็นของจริง เพราะมันไม่ใช่ของจริง 100%”
“อันที่จริงผมไม่อยากจะพูด และไม่ใช่ว่าพูดเพราะเข้าข้างกัน แต่ผมต้องการพูดเพื่อชี้แจง จุดสังเกตมีกี่ข้อที่ไม่น่าเป็นไปได้ เราตรวจสอบหมดแล้ว เช่น ผู้เสียหายไม่มี เห็นหน้าชัดขนาดนั้นยังหาผู้เสียหายไม่ได้ การแต่งกายและอาวุธที่ถือก็ไม่ใช่ที่กองทัพบกใช้ เป็นปืนที่มีขายตามห้าง ผู้ชายก็ผมยาว คลิปนี้จึงดูเป็นการแสดงมากกว่า เป็นการทำขึ้นเพื่อต้องการทำลายชื่อเสียง เครื่องแต่งกายที่เห็นเป็นสีดำ จริงๆ คือกางเกงยีนส์เปียกน้ำ เห็นอะไรสีดำต้องเป็นทหารพรานหมดหรือ มันไม่ใช่”
“สัญชาตญาณของมนุษย์ชอบนักเรื่องไม่ดี ข่าวเสียหายชอบกันจัง จริงหรือไม่จริงค่อยว่ากันอีกที แต่เมื่อมีการพูดกันปากต่อปากก็ทำให้คนอยากรู้ แต่ตอนนั้นชื่อเสียงมันเสียไปแล้ว เหมือนเสื้อแดง-เสื้อเหลือง มีการส่งคลิปกัน ถือเป็นเรื่องปกติที่ฝ่ายตรงข้ามจะทำ เป็นวิธีการของเขา ไม่ส่งถึงจะประหลาด ถ้าส่งมันเป็นเรื่องปกติ คนเราจะรบกับใครก็ต้องทำลายชื่อเสียงศัตรูก่อน ตำราของขงเบ้ง ขั้นแรกต้องทำลายชื่อเสียงให้ย่อยยับก่อนเลย นี่คือวิธีการต่อสู้ คือสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามทำมาโดยตลอด”
พ.อ.คมกฤช ยืนยันว่า ได้ทำงานเชิงรุกเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเรื่องนี้ตลอดมา ไม่ได้นิ่งนอนใจแม้แต่น้อย
“อันดับแรกคือชี้แจงไปยังหน่วยงานที่สงสัย และตรวจสอบดูว่ามีผู้เสียหายหรือเปล่า จากนั้นก็ไปพบปะผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น เช่น คลิปนี้ที่บอกว่าเหตุเกิดที่ อ.ยะหา จ.ยะลา ก็ส่งไปยังหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่รับผิดชอบ แล้วไปชี้แจงทำความเข้าใจตามร้านน้ำชา อบต. (องค์การบริหารส่วนตำบล) อบจ. (องค์การบริหารส่วนจังหวัด) เราต้องทำความเข้าใจกับประชาชน แต่พยายามไม่พูดถึง”
พ.อ.คมกฤช ยังเปิดใจถึงภาพพจน์ของทหารพรานที่มักถูกมองในแง่ลบก่อนเสมอ
“ทหารพรานที่พูดจาไม่ดีอาจจะมีบ้าง แต่โดยนโยบายแล้วต้องไม่มี หากจะมีก็เป็นเปอร์เซ็นต์แค่ 2 ใน 100 เท่านั้น อาจจะมีทหารพรานขี่มอเตอร์ไซค์เสียงดัง แอบยิงปืนขึ้นฟ้า แต่เมื่อเราพบก็จะไล่ออกทั้งหมด เพราะเราเลือกได้ ทุกวันนี้เงินเดือนรวมทั้งหมดของทหารพรานประมาณหมื่นกว่าบาท ใครๆ ก็อยากมาเป็น แล้วเราจะมาเก็บคนไม่ดีไว้ทำไม ถ้าพบเห็นทหารพรานที่ไม่ดี สามารถแจ้งมายังผู้บังคับบัญชาได้เลย จะยินดีมาก ทุกวันนี้ทหารพรานมีบทบาทสูงเรื่องงานมวลชน ซึ่งแตกต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิง”
“แต่แน่นอนที่ฝ่ายตรงข้ามต้องการทำลายความไม่น่าเชื่อถือ จึงต้องนำเรื่องในอดีตมาทำลาย แต่ตอนนี้ทหารพรานมีความสุขที่ได้ช่วยชาวบ้าน เข้าใจชาวบ้าน เพราะถือว่างานมวลชนเป็นงานพักผ่อน งานช่วยชาวบ้านได้บุญ ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านหรือโจร ต่างฝ่ายต่างมีความสุข จึงทำให้ภาพทหารพรานทุกวันนี้ดีกว่าในอดีต” พ.อ.คมกฤช ระบุ
ด้าน นายอัฮหมัดสมบูรณ์ บัวหลวง นักวิชาการด้านสันติวิธี กล่าวว่า ได้รับคลิปฉาวที่ตกเป็นข่าวนี้เหมือนกัน แต่ไม่ได้เปิด เพราะถือว่าเป็นงานทางการเมือง อาจเป็นจริงหรือไม่จริงก็ได้ การที่ทหารไม่โต้ตอบอะไรมากนั้น อาจเป็นเพราะมองเป็นเรื่องไร้สาระ การวางตัวเฉยน่าจะดีที่สุด สิ่งสำคัญที่ กอ.รมน.สมควรทำคือเร่งเร้าให้หน่วยราชการทุกหน่วยทำความเข้าใจและสร้างความรู้สึกดีๆ ให้กับประชาชนมากกว่า เพื่อต่อสู้งานทางการเมืองของกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ให้เกิดสันติสุขในพื้นที่ ซึ่งคนกลุ่มนี้ทำได้ทุกอย่าง
“การส่งคลิปต่อๆ กันเพื่อโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นสัญญาณว่าปัญหายังมีอยู่จริงในพื้นที่ รัฐต้องก้าวข้ามให้ได้ และไม่ต้องเน้นการอธิบายมาก เพราะการอธิบายของราชการคือการโฆษณา ฉะนั้นควรไปสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นจริงดีกว่า และดูแลความปลอดภัยของประชาชนให้ได้ ต้องทำงานหนักขึ้น ทำให้ประชาชนอุ่นใจ ไม่ต้องไปโต้ตอบใดๆ ผมไม่เห็นด้วยเลยกับวิธีการโต้ตอบหรือออกแถลงการณ์ เพราะทุกครั้งที่มีแถลงการณ์ ความจริงมันเป็นคนละด้านเลย” อัฮหมัดสมบูรณ์ กล่าว
และทั้งหมดนี้คือความคืบหน้าล่าสุดของ “สงครามคลิป” ที่ชายแดนใต้!
----------------------------------------------------------------
อ่านประกอบ :
- "สงครามคลิป"ยังไม่จบ...นักวิชาการแนะไขข้อข้องใจด้วยข้อเท็จจริง
- "คลิปฉาว"ระบาดใต้...อีกหนึ่งปฏิบัติการข่าวลือในสงครามชิงมวลชน