เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคกลาง
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ล่าสุด (25 ก.ย. 55) มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ 1,469 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (รับน้ำได้สูงสุด 3,590 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 3.69 เมตร ลดลงจากวานนี้ ส่วนที่เขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,517 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (รับน้ำได้สูงสุด 2,840 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาต่ำกว่าตลิ่ง 3.09 เมตร ในขณะที่มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในเกณฑ์เฉลี่ยประมาณ 1,776 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (รับน้ำได้สูงสุด 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจุดนี้ยังเป็นจุดวัดปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะไหลผ่านเข้าสู่กรุงเทพฯและปริมณฑลด้วย) ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.36 เมตร
สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทางตอนบนของลุ่มน้ำมีฝนตกลดลงประกอบกับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กรมชลประทาน ได้พร่องน้ำเพื่อดึงน้ำจากทางตอนบนของแม่น้ำเจ้าพระยา ระบายลงสู่ทะเลอ่าวไทยให้เร็วที่สุด เพื่อลดการสะสมของปริมาณน้ำที่อาจจะส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งได้
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคกลางในระยะนี้ อาจจะส่งผลให้มีน้ำท่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างมากขึ้น ซึ่งกรมชลประทาน ได้เตรียมพร้อมทั้งในด้านของกำลังคน เครื่องจักรเครื่องมือ และเครื่องสูบน้ำที่พร้อมจะดำเนินการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดด้วย