ปลัดพาณิชย์อ้างนายกฯ ขอดูเงินจำนำ 4.05 แสนล.
‘ยรรยง’ อ้าง ‘ยิ่งลักษณ์’ ขอดูเงินจำนำข้าวฤดูกาล 55/56 วงเงิน 4.05 แสนล้านบาทเอง
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) จะนำผลสรุปปริมาณผลผลิตการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังรอบพิเศษ ที่จะรับจำนำจนถึงสิ้นเดือนก.ย. เพิ่มเติมอีก 3.3 ล้านตัน ภายใต้วงเงิน 4.95 หมื่นล้านบาท ตามมติของกขช. เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวันนี้ (25 ก.ย.)
สำหรับข้อสรุปผลผลิตข้าวเปลือกในโครงการรับจำนำข้าวฤดูกาล 55/56 จะเสนอต่อที่ประชุมครม. พิจารณาวันที่ 2 ต.ค. เนื่องจากต้องรอน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาสหประชาติ (ยูเอ็น) ที่ประเทศสหรัฐฯ เสียก่อน เพราะนายกรัฐมนตรีต้องการพิจารณาโครงการรับจำนำข้าวเปลือกผลผลิตปี55/56 ด้วยตนเอง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะยังไม่เสนอผลผลิตคาดการณ์ข้าวเปลือกฤดูกาลใหม่ให้ครม.ได้ แต่ก็สามารถเปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกได้ทันทีในวันที่ 1 ต.ค. เพราะในหลักการโครงการรับจำนำข้าวเปลือกฤดูกาลใหม่ ครม.ได้เห็นชอบหมดแล้ว เว้นเพียงตัวเลขคาดการณ์ปริมาณผลผลิต ซึ่งสามารถอนุมัติย้อนหลังได้
อีกทั้งโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำก็สามารถใช้โรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำนาปรังรอบพิเศษมาดำเนินการเปิดจุดรับจำนำให้กับเกษตรกรต่อเนื่องได้ทันที
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า มติของกขช. เมื่อ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติให้เพิ่มปริมาณข้าวเปลือกนาปรังรอบพิเศษเพิ่มเติมอีก 3.3 ล้านตัน ภายใต้วงเงิน 4.95 หมื่นล้านบาท ตามข้อเสนอของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมผลผลิตข้าวเปลือกนาปรัง 16 ล้านตัน ขณะที่ ผลผลิตข้าวเปลือกปี 55/56 ปริมาณจะลดลงเหลือประมาณ 34 ล้านตัน จากคาดการณ์เดิม 37 ล้านตัน ซึ่งตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกรอบใหม่จะยังคงใช้หลักการเดิม คือ รับจำนำทุกเม็ด ภายใต้วงเงินหมุนเวียนในโครงการฯ 4.05 แสนล้านบาท
ส่วนคืบหน้าการพิจาณาประมูลข้าวสารในโครงการรับจำนข้าวปี 54/55 จำนวน 586,000 ตัน ซึ่งเปิดประมูลเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา มีเอกชนร่วมยื่นซอง 9 ราย ผ่านเกณฑ์ทั้งหมดและคณะอนุกรรมการระบายข้าวที่มีอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเป็นประธานได้เสนอผลการต่อรองให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์พิจารณาแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ลงนามส่งกลับมาเนื่องจากรมว.พาณิชย์ติดราชการติดตามนายกรัฐมนตรีที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งผลการประมูลไม่จำเป็นต้องให้ครม.พิจารณาด้วยอีกชั้น เนื่องจากกขช.ได้ขออนุมัติกรอบการระบายข้าวไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งกรอบระบายเบื้องต้นระบุให้ระบายผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ตสล.) ประมูลเป็นการทั่วไปและการขายแบบรัฐต่อรัฐ
กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า สำหรับโครงการรับจำนำนาปี 54/55 เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการมีรายได้เพิ่มขึ้น 142,933 ล้านบาท เกษตรกรที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการมีรายได้เพิ่มขึ้น 57,291 ล้านบาทจากราคาตลาดข้าวในประเทศสูงขึ้น รวมเกษตรกรได้รับประโยชน์จากการรับจำนำเพิ่มขึ้น 200,224 ล้านบาท ทั้งนี้การรับจำนำทำให้รัฐบาลมีข้าวในมือ เพื่อระบายส่งออกตามความต้องการตลาดโลกได้อย่างคล่องตัว ดังนั้น ปริมาณข้าวเปลือก 19.047 ล้านตัน มูลค่าข้าวเปลือก 267,438 ล้านบาท ซึ่งข้าวจำนวนดังกล่าวมีราคาสูงขึ้นทำให้ประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้น 28,320 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีภาระค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ของประเทศชาติทั้งระบบจากโครงการรับจำนำ ดังนี้ 1.ภาระค่าใช้จ่ายของการรับจำนำ แบ่งเป็น เงินทุนหมุนเวียนรับจำนำข้าว 267,438 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการรับจำนำทุกหน่วยงาน 9,919 ล้านบาท รวมภาระค่าใช้จ่ายของการรับจำนำ 277,357 ล้านบาท ส่วนผลประโยชน์จากโครงการรับจำนำ มูลค่าสต๊อกข้าวของรัฐ 267,438 ล้านบาท มูลค่าข้าวในประเทศทั้งระบบเพิ่มขึ้น 200,224 ล้านบาท มูลค่าการส่งออกข้าวของประเทศเพิ่มขึ้น 28,320 ล้านบาท รวม 495,928 ล้านบาท.