สื่อเทศตีข่าว 5แกนนำป่วนใต้กบดานชายแดนไทย-มาเลย์
กัณหา แสงรายา
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
หนังสือพิมพ์บริตา ฮาเรียน ของมาเลเซีย รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยว่า นายมะแซ อูเซ็ง นายอารีฟ เจ๊ะโก๊ะ นายสปารออิง (สะแปอิง) บาซอ นายอิสมาแอ ระยะหลง และนายกาเรนา ยาลาปาร์ ซึ่งถูกระบุว่าเป็นสมาชิกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้กำลังหลบหนีอยู่ในประเทศมาเลเซีย
ทั้งนี้ บริตา ฮาเรียน ออนไลน์ เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา นำเสนอข้อมูลที่อ้างว่ามาจากแหล่งข่าวความมั่นคงของไทยที่เข้าไปสืบหาข่าวเชิงลึกในมาเลเซียว่า พลเมืองไทยทั้ง 5 คนซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มาตั้งแต่ พ.ศ.2547 ได้หลบไปกบดานอยู่บริเวณชายแดนไทย-มาเลเซียในรัฐกลันตันและรัฐเปอร์ลิส (ปะลิส) โดยถือบัตรประจำตัวประชาชนมาเลเซีย หรือ "เอ็มวายก๊าด" (MyKad) และพาสปอร์ตหลายเล่มในชื่อแฝงต่างๆ กัน ทำให้สามารถเดินทางไปไหนมาไหนในมาเลเซียได้ รวมทั้งเดินทางเข้าออกประเทศได้ง่ายดายและสะดวก ซึ่งทางการไทยสืบรู้มานานแล้ว แต่ไม่ทราบว่าใช้ชื่ออะไรบ้าง ถ้าสืบทราบได้เมื่อไหร่ ทางการไทยก็จะแจ้งขอความร่วมมือจากทางการมาเลเซียให้ช่วยจับกุม เพราะถือว่าเป็นบุคคลที่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อความมั่นคงของไทย
สมาชิกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนทั้ง 5 คนซึ่งมีอายุระหว่าง 35-50 ปี ถูกระบุว่าเกี่ยวพันกับการระเบิดและการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ไทยมานาน ในจำนวนนี้ 3 คนเป็นผู้บริหารโรงเรียนปอเนาะ ส่วนอีก 2 คนเป็นครูหรืออุสตาซในปอเนาะ (หรือโรงเรียนศาสนา)
“จากการข่าวที่เราสืบทราบในประเทศไทย เราทราบเพียงชื่อจัดตั้งของทั้ง 5 คนเท่านั้น ขณะนี้เรากำลังพยายามอย่างหนักเพื่อสืบทราบชื่อที่พวกเขาใช้ใน ‘เอ็มวายก๊าด’ และพาสปอร์ต ว่าใช้ชื่ออะไรบ้าง เพื่อให้ง่ายต่อการที่เราจะได้ติดตามไล่ล่าตัวต่อไป” แหล่งข่าวคนเดียวกัน ระบุ
“เราจะติดต่อกับทางการมาเลเซียให้ช่วยติดตามสืบหาบุคคลกลุ่มนี้ ถ้าหากพวกนั้นยังคงกบดานอยู่บริเวณชายแดนตามที่เราได้รับข้อมูลมาก่อนหน้านี้อยู่อีก” เจ้าหน้าที่คนเดิมกล่าว
อนึ่ง ยังมีคำถามว่า รายงานของบริตา ฮาเรียน อ้างแหล่งข่าวจากประเทศไทยแน่หรือ หรืออ้างรายงานข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงของมาเลเซียเอง เพราะตามที่เข้าใจมาตลอด สมาชิกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนทั้ง 5 คนซึ่งทางการไทยได้ออกหมายจับ โดยเฉพาะ นายสะแปอิง บาซอ และ นายมะแซ อูเซ็ง น่าจะยังอยู่ในประเทศอินโดนีเซียมากกว่า แต่ถ้าหากข้อมูลที่ บริตา ฮาเรียน ได้รับมีความถูกต้อง ก็แสดงว่าสมาชิกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนดังกล่าวซึ่งทางการไทยถือว่าเป็นแกนนำคนสำคัญ มีรางวัลนำจับถึงรายละ 5-10 ล้านบาท ได้กลับมาบัญชาการรบใกล้พรมแดนไทย-มาเลเซียแล้ว ซึ่งก็น่าสังเกตว่าสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดและ 4 อำเภอของ จ.สงขลา เกิดขึ้นอย่างถี่ยิบในช่วงนี้พอดี
อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้อีกทางหนึ่งคือ อาจมีกลุ่มคนอ้างชื่อแกนนำทั้ง 5 คนนี้ไปฝึกคนเพื่อสร้างนักรบรุ่นใหม่เข้าปฏิบัติการในพื้นที่ทดแทนนักรบรุ่นเก่าที่เริ่มร่อยหรอลงไป เป็นที่ทราบกันดีว่าแกนนำทั้ง 5 เป็นระดับ "บิ๊ก" จริงๆ จึงไม่น่าเสี่ยงขยับตัวเข้ามาอยู่ใกล้ๆชายแดนไทยซึ่งมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากทางการมาเลเซียไม่ว่าในสมัยไหนๆ มักมีนโยบายปรับตัวผ่อนคลายและยืดหยุ่นเอาแน่ไม่ได้ เผลอๆ ก็หักหลังใครได้ง่ายๆ เหมือนกัน ยิ่งในปัจจุบันรัฐบาลของ นายนาจิ๊บ ราซัก เอง ก็เห็นได้ชัดว่าต้องการสนิทสนมกับไทยให้มาก เนื่องจากต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น
เท่าที่มีข้อมูลปรากฏมาตลอด น่าเชื่อว่าหน่วยข่าวกรองของไทยก็อยู่ในมาเลเซียเต็มพื้นที่ ไม่ต้องพูดถึงหน่วยข่าวกรองของมาเลเซีย ซึ่งมีข่าวว่าสามารถแทรกซึมเข้าไปนั่งกลางที่ประชุมของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนแทบทุกครั้ง การเคลื่อนไหวของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในมาเลเซียเรียกว่าไม่เคยพ้นสายตาของทางการมาเลเซียหรือแม้แต่ของไทยแม้แต่น้อย รัฐบาลประชาธิปัตย์สมัย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็เคยใช้ "กำลังภายใน" หรือ "แทคติคพิเศษ" จนสามารถจับแกนนำระดับ "บิ๊ก" อย่างสองคนพี่น้องตระกูลท่าน้ำมาขังคุกไทยตลอดชีวิตได้สำเร็จมาแล้ว
ก่อนหน้านี้ บริตา ฮาเรียน เคยรายงานว่า พลเมืองมาเลเซีย 4 คนถูกเจ้าหน้าที่ไทยจับกุมในฝั่งไทย เนื่องจากต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยทั้ง 4 คนประกอบด้วย นายซุลกิฟลี อาหมัด อายุ 26 ปี นายราฟ ชามีร์ หรือ อามีร รุสลี อายุ 25 ปี นายมุฮะมัดฟัดลี ซัยนุลอาบีดิน อายุ 25 ปี และ นายโอมาร์ ฮานีฟ ซัมซุล กามาล อายุ 18 ปี
จากรายงานที่สื่อมาเลย์ได้รับระบุว่า พลเมืองมาเลเซียทั้ง 4 คนถูกจับจากปฏิบัติการกวาดจับกลุ่มแบ่งแยกดินแดน 3 ครั้งใน จ.สงขลาและนราธิวาสเมื่อวันที่ 15 พ.ย.2550 11 ม.ค.และ 28 มิ.ย.2551 ปฏิบัติการทั้ง 3 ครั้งมาจากการสืบทราบของหน่วยข่าวกรองของไทยในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม กรณีของ นายโอมาร์ ฮานีฟ ซัมซุล กามาลนั้น ทางการไทยได้ปล่อยตัวไปแล้วเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ปีที่แล้ว จากคำพิพากษาของศาลนราธิวาสที่ไม่พบความผิดใดๆ ของเขา แต่เขาก็ถูกขังคุกฟรีไป 1 ปี ขณะนี้เชื่อว่าน่าจะเดินทางกลับมาเลเซียไปแล้ว
บริตา ฮาเรียน รายงานว่า แหล่งข่าวความมั่นคงของไทยปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดถึงจำนวนพลเมืองมาเลเซียทั้งหมดที่ถูกจับในคดีมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ในคุกไทย
“เรายอมรับว่ามีชาวมาเลเซียถูกจับในคดีความมั่นคงของไทย แต่ตัวเลขกลมๆ คงบอกไม่ได้ มันเป็นความลับของทางราชการ...” แหล่งข่าวซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทย กล่าวทิ้งท้าย
--------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : หน้าเว็บของ บริตา ฮาเรียน ออนไลน์ ในวันที่นำเสนอข่าว 5 แกนนำขบวนการก่อความไม่สงบของไทย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
http://www.bharian.com.my/bharian/articles/Thailandburu5anggotapemisahmilikiMyKad/Article/>