ม่านหมอกความรุนแรงที่บ้านกูจิงลือปะ (จบ) 58 หมายจับกับคดีครูจูหลิงที่ยังไม่คืบหน้า
สุเมธ ปานเพชร
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
เหตุการณ์คนร้ายยิงสองแม่ลูก นางเจ๊ะแมะ หะแย วัย 50 ปี และ น.ส.บาราตี ลาบอ อายุ 25 ปี ขณะกรีดยางอยู่ภายในสวนยางพาราหลังหมู่บ้านกูจิงลือปะ เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยที่ทั้งคู่ตกเป็นผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยในคดีทำร้าย ครูจูหลิง ปงกันมูล ครูสาวแห่งโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะจนเสียชีวิตเมื่อปี 2549 นั้น ทำให้เรื่องราวของครูจูหลิงหวนกลับมาอยู่ในความสนใจของสังคมอีกครั้งหนึ่ง
ย้อนรอยโศกนาฏกรรมทำร้ายครูจูหลิง เหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 19 พ.ค.2549 หลังจากเจ้าหน้าที่กองกำลังผสมตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง จำนวนกว่า 50 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่บ้านกูจิงลือปะ เพื่อค้นหาผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุซุ่มยิงทหารเสียชีวิต 2 นายที่สถานีรถไฟลาโล๊ะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
บุคคลเป้าหมายเป็นผู้ต้องสงสัยที่ถูกออกหมาย พ.ร.ก. (อาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉิน พ.ศ.2548) โดยเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสว่าผู้ต้องสงสัยหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านกูจิงลือปะ
จากการตรวจค้นบ้านเลขที่ 47 หมู่ 4 บ้านกูจิงลือปะ เจ้าหน้าที่พบ นายอับดุลการีม มาแต อายุ 24 ปี กับ นายมูหะมะสะแปอิง มือลี อายุ 32 ปี ซึ่งทั้งสองถูกออกหมาย พ.ร.ก. และยึดอาวุธปืนพกสั้นขนาด .45 จำนวน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน จึงคุมตัวไปสอบสวน
ปฏิบัติการของฝ่ายความมั่นคงดูจะประสบความสำเร็จด้วยดีแบบไร้อุปสรรค ทว่าหลังจากเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกไปประมาณ 2 ชั่วโมง เรื่องราวเลวร้ายที่ไม่มีใครคาดฝันก็เกิดขึ้น
เวลาประมาณเที่ยง มีเสียงประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงในหมู่บ้านกูจิงลือปะ ให้ผู้หญิงในหมู่บ้านไปรวมตัวกันที่หน้าโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ ทำให้มีกลุ่มผู้หญิงเกือบ 100 คนออกไปร่วมตัวกัน
จังหวะเดียวกันนั้น ครูจูหลิง ปงกันมูล และ ครูสิรินาถ ถาวรสุข สองครูสาวชาวไทยพุทธของโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ กำลังแวะทานอาหารอยู่ที่ร้านข้างๆ มัสยิด แล้วจู่ๆ ก็มีหญิงชาวบ้านที่ออกมารวมตัวกันประมาณ 10 คน เดินเข้าไปจับตัวครูทั้งสอง แล้วนำไปกักขังไว้ในห้องเก็บของของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ห่างจากโรงเรียนประมาณ 300 เมตร
การจับตัวสองครูสาว ได้รับการอธิบายในภายหลังว่า เพื่อเป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยนให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัว นายอับดุลการีม มาแต และ นายมูหะมะสะแปอิง มือลี ซึ่งเจ้าหน้าที่เพิ่งควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน
นอกจากกลุ่มชาวบ้านที่เป็นสตรีจะจับตัวครูสาวทั้งสองคนไปขังไว้แล้ว ระหว่างเส้นทางเข้าหมู่บ้านกูจิงลือปะ ยังมีกลุ่มบุคคลอีกกลุ่มหนึ่งตัดต้นไม้และโปรยตะปูเรือใบเพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่เข้าไปยังพื้นที่อีกด้วย
ระหว่างที่ถูกกักขัง ผู้หญิงในหมู่บ้านอีกกลุ่มหนึ่ง รวมทั้งเพื่อนครู ได้พยายามขอร้องให้กลุ่มที่จับตัวครูจูหลิงและครูสิรินาถ ยอมปล่อยตัวครูทั้งสอง แต่ยังไม่ทันเป็นผล ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ใช้ผ้าคลุมปิดบังใบหน้า บุกเข้าไปภายในห้อง และใช้ไม้ทุบตีครูสาวทั้งสองจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเฉพาะครูจูหลิงถึงขั้นสลบ
เวลาผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง นายฮารง ยูโซ๊ะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ให้เข้าไปขอร้องชาวบ้านให้หยุดทำร้ายครู ผู้ใหญ่บ้านใช้เวลาร่วมชั่วโมงจึงสามารถพาร่างครูสาวออกมาจากห้องในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้ และเจ้าหน้าที่ก็รีบนำครูจูหลิงกับครูสิรินาถส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.ยะลา ก่อนจะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในวันต่อมา
ทว่าอาการของครูจูหลิงสาหัสมาก เนื่องจากถูกรุมทำร้ายและทุบตีด้วยไม้อย่างรุนแรงจนสมองกระทบกระเทือนอย่างนั้น เธอกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา แต่ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชินูปภัมถ์
ตลอดระยะเวลาที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ครูจูหลิงได้รับกำลังใจมากมายจากผู้คนทั่วทั้งประเทศ โดยเฉพาะเมื่อได้ทราบประวัติและปณิธานของครูจูหลิงซึ่งเป็นชาว จ.เชียงราย แต่สมัครใจไปเป็นครูสอนหนังสือที่ชายแดนใต้ในพื้นที่สีแดง
อย่างไรก็ดี เมื่อเวลา 16.00 น.ของวันที่ 8 ม.ค.2550 ครูจูหลิงก็สิ้นใจ สุดกำลังที่คณะแพทย์จะยื้อชีวิตเอาไว้ได้ กลายเป็นอีกหนึ่งโศกนาฏกรรมในหน้าประวัติศาสตร์ความรุนแรงที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เกือบ 4 ปีแล้ว การดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่ทำร้ายครูจูหลิงเงียบหายไปกับกาลเวลา “ทีมข่าวอิศรา” เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความคืบหน้า กระทั่งทราบจาก พ.ต.ท.เฉลิม ยิ่งคง พนักงานสอบสวน สภ.ระแงะ นายตำรวจผู้รับผิดชอบคดีนี้มาตั้งแต่หลังเกิดเหตุว่า ได้มีการออกหมายจับ ป.วิอาญา (ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา) กับกลุ่มผู้ต้องหาที่ร่วมกันทำร้ายครูจูหลิงและครูสิรินาถทั้งสิ้น 58 ราย เข้ามอบตัวและจับกุมได้ 27 ราย ส่วนที่เหลืออีก 31 รายยังคงหลบหนี
“กลุ่มผู้ต้องหาที่หลบหนีนั้น มีบางรายที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ และบางส่วนก็เสียชีวิตไป อย่างเหตุการณ์ปิดล้อมตรวจค้นที่ปอเนาะบ้านทำนบ ในพื้นที่ ต.เฉลิม อ.ระแงะ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2551 เจ้าหน้าที่ยิงปะทะกับคนร้าย ทำให้ นายกามาล เจ๊ะแน เสียชีวิต โดย นายกามาล เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีรุมทำร้ายครูจูหลิงเสียชีวิต นอกจากนั้นก็สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีได้ 1 ราย คือนายมะรูวัน บากา”
พ.ต.ท.เฉลิม กล่าวอีกว่า ได้สรุปสำนวนคดีส่งให้อัยการ และอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดไปแล้ว คดีอยู่ในศาลจังหวัดนราธิวาส ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการสืบพยานฝ่ายโจทก์ของศาลชั้นต้น
คำถามที่ดูจะค้างคาใจผู้คนก็คือ ผ่านมาเกือบ 4 ปีแล้ว ทำไมคดีถึงคืบหน้าน้อยเหลือเกิน ประเด็นนี้ พ.ต.ท.เฉลิม ไขข้อข้องใจว่า สาเหตุที่การดำเนินคดีล่าช้า เนื่องจากผู้ต้องหาบางคนไม่ได้เป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับในคดีครูจูหลิงเพียงคดีเดียว แต่มีหมายจับในคดีอื่นควบอยู่ด้วย จึงต้องอายัดตัวไปดำเนินคดีอื่นๆ ที่ถูกออกหมายจับไปพร้อมกัน
อย่างไรก็ดี จากจำนวนผู้ต้องหาทั้งหมด มีอยู่ 1 คนที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแล้ว คือ นายยาการียา สะแปอิง โดยศาลลงโทษจำคุก 3 เดือนฐานเป็นผู้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงของมัสยิดในหมู่บ้านปลุกระดมคนให้ไปรวมตัวกัน ปัจจุบัน นายยาการียา อยู่ระหว่างยื่นฎีกา
ส่วนกรณีของ นางเจ๊ะแมะ หะแย และ น.ส.บาราตี ลาบอ สองแม่ลูกที่เพิ่งถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น พ.ต.ท.เฉลิม บอกว่า จากการตรวจสอบพบว่า นางเจ๊ะแมะ เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีทำร้ายครูจูหลิงด้วย เพราะมีชื่ออยู่ในหมายจับ ป.วิอาญา ที่ออกพร้อมกับพวกอีก 57 คน (รวม 58 คน) ส่วน น.ส.บาราตี ลูกสาวนั้น มีเพียงหมาย พ.ร.ก. อันเป็นผลมาจากคดีที่สามีของเธอเคยถูกออกหมายจับและยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิตเมื่อราว 2 ปีที่ผ่านมา
เรื่องราวร้ายๆ ที่บ้านกูจิงลือปะคือกรณีตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่า ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้นแต่ละเหตุการณ์ไม่ได้ปิดฉากหรือคลี่คลายไปตามกาลเวลา ทว่ายังคงตกตะกอนสะสมอยู่ในพื้นที่...
และพร้อมจะระเบิดตูมตามขึ้นมาทุกเมื่อหากสถานการณ์เอื้ออำนวย!
-------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ชาวบ้านกูจิงลือปะมุงดูหมายจับคดีทำร้ายครูจูหลิงที่ตำรวจนำไปติดไว้ที่หมู่บ้าน
2 ห้องในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ใช้ขังและทำร้ายครูจูหลิงกับครูสิรินาถ
3 แม่ของครูจูหลิงขณะเคลื่อนศพลูกสาวกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด
อ่านประกอบ :
- ม่านหมอกความรุนแรงที่บ้านกูจิงลือปะ (2)...ตราบาปในหัวใจที่ยากจะเลือน
- ม่านหมอกความรุนแรงที่บ้านกูจิงลือปะ (1)...จากสังหารครูจูหลิงถึงฆ่าโหดสองแม่ลูก!