กรมชลฯ ปรับแผนบริหารจัดการน้ำเจ้าพระยา รับมือฝนตกหนักภาคกลาง
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำกรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา (21 ก.ย. 55) มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ 1,762 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (รับน้ำได้สูงสุด 3,590 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 3.03 เมตร ส่วนที่เขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,725 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (รับน้ำได้สูงสุด 2,840 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาต่ำกว่าตลิ่ง 2.54 เมตร ในขณะที่มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในเกณฑ์เฉลี่ยประมาณ 1,596 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (รับน้ำได้สูงสุด 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจุดนี้ยังเป็นจุดวัดปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะไหลผ่านเข้าสู่กรุงเทพฯและปริมณฑลด้วย) ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.31 เมตร
ทั้งนี้ ตั้งแต่ในช่วงกลางเดือนกันยายนเป็นต้นมา เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ภาคกลางเป็นบริเวณกว้าง ทำให้มีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำท่าจีนบริเวณอำเภอบางเลน และอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม แนวโน้มระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนยังคงสูงขึ้น ประกอบกับที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 24 – 25 ก.ย. 55 มีแนวโน้มว่าจะเกิดฝนตกชุกหนาแน่นในพื้นที่ภาคกลางไปจนถึงวันที่ 29 ก.ย. นี้
จากสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น กรมชลประทาน ได้ปรับแผนการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ด้วยการลดระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลง เพื่อรองรับน้ำฝนที่จะตกลงมาในพื้นที่ตอนบนบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาสูงขึ้นเล็กน้อย แต่จะไม่กระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยามากนัก
ส่วนแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำน้อย และคลองชัยนาท-ป่าสัก จะลดการรับน้ำเข้าไป เนื่องจากในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำดังกล่าวได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม อีกทั้งหากเกิดฝนตกหนักตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ไว้ พื้นที่ฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกจะสามารถรองรับน้ำได้
นอกจากนี้ กรมชลประทาน จะลดการรับน้ำจากแม่น้ำป่าสักเข้าสู่คลองระพีพัฒน์ ให้อยู่ในเกณฑ์ 15 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเตรียมพื้นที่บริเวณทุ่งฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างไว้รอง รับน้ำฝนที่จะตกลงมาในพื้นที่ ทั้งนี้ แม่น้ำป่าสักมีศักยภาพในการรับน้ำได้สูงสุด 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มน้ำริมตลิ่ง ในขณะที่วันนี้(21 ก.ย.)เขื่อนพระรามหก มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 347 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประกอบกับมีการลดปริมาณน้ำเข้าสู่คลองชัยนาท – ป่าสัก ทำให้แนวโน้มสถานการณ์น้ำในแม่น้ำป่าสักมีระดับน้ำลดลง อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์น้ำในแม่น้ำป่าสักมีแนวโน้มสูงขึ้น จนส่งผลกระทบกับพื้นที่ชุมชนลุ่มต่ำริมตลิ่ง กรมชลประทน จะได้ลดการพร่องน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อลดผลกระทบต่อชุมชน หากเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จะแจ้งให้ทราบต่อไป
ภาพโดย : เสกสรร โรจนเมธากุล (Seksan Rojjanametakul)