แค่ 24 ชม. “เสียงชม-เสียงด่า” รายงาน คอป.ก็กระหึ่ม ..เขาพูดอะไรกันบ้าง?
สำรวจความเห็นฝ่ายต่างๆ 24 ชั่วโมง หลัง คอป.เปิดรายงานฉบับสมบูรณ์ ปรากฎว่าได้รับทั้ง "ก้อนอิฐ-ดอกไม้" ทำไม?

ผู้สื่อข่าว “สำนักข่าวอิศรา” สำรวจปฏิกิริยาจากฝ่ายต่างๆ หลังจาก “คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.)” เปิดเผยรายงานฉบับสมบูรณ์อย่างเป็นทางการ ในเวลา 14.00 น.ของวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา
ซึ่งปรากฎว่า ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง ความเห็นต่อรายงานหนา 500 กว่าหน้าดังกล่าว ก็กระหึ่มไปทั้งเมือง !
มีทั้งเห็นด้วยและเห็นแย้งต่อประเด็นต่างๆ ที่ คอป.นำเสนอ โดยเฉพาะเรื่องชายชุดดำ การตายของ เสธ.แดง ใครเผาห้างเซ็นทรัลเวิร์ลด์ และข้อเสนอของ “นายคณิต ณ นคร” ประธาน คอป.ที่ให้ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” วางเมืองทางการเมือง แล้วไม่ต้องกลับประเทศไทยอีก เช่นเดียวกับ “นายปรีดี พนมยงค์” ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น “รัฐบุรุษ (statesman)”
(อ่าน รายงานคอป. ฉบับสมบูรณ์ (กรกฎาคม ๒๕๕๓ – กรกฎาคม ๒๕๕๕)จากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org)
-ความเห็นในเวทีแถลงข่าว เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา
นายประวิทย์ โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเนชั่น ถามว่า มีหลักฐานอะไรสรุปเจตนาว่าชายชุดดำในกลุ่มผู้ชุมนุม นปช.ใช้อาวุธโจมตีใส่ทหารเพื่อหวังให้ตอบโต้จะได้เกิดการสูญเสีย, มีหลักฐานอะไรที่เชื่อมโย่งชายชุดดำเหล่านั้น กับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง แล้วถ้ามีชายชุดดำจริงทำไมนอกจากคนที่ยิงจรวดอาร์พีจีใส่กระทรวงกลาโหมถึงจับชายชุดดำคนอื่นไม่ได้เลย
ตัวแทนศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุม กรณี เม.ย.-พ.ค.53 (ศปช.) แย้งว่า แนวทางการแสวงหาข้อเท็จจริงของ คอป.กำกวม ส่วนใหญ่อิงคำสัมภาษณ์ของทหาร และอยากให้แจกแจงพฤติกรรมชายชุดดำให้ชัดเจนกว่านี้
นางจิตรา คชเดช อดีตประธานสหภาพไทรอัมพ์ แนวร่วม นปช .กล่าวว่า การทำงานของ คอป.เป็นไปเพื่อการปรองดองอย่างเดียวหรือ แล้วมีข้อบ่งชี้อะไรว่า เสธ.แดงเกี่ยวข้องกับชายชุดดำ นอกจากนี้ ยังอยากให้ คอป.ชี้แจงเรื่องการใช้งบประมาณ
เลขาธิการพรรคขัตติยะธรรมคนใกล้ชิด พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าในเหตุการณ์ 10 เม.ย.2553 พล.ต.ขัตติยะไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ และอยากให้ คอป.เปิดโอกาสให้ผู้ที่ถูกพาดพิงได้ชี้แจง
นางสุดา รังกุพันธ์ อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แนวร่วม นปช. กล่าวว่า สิ่งที่ได้จากรายงานฉบับนี้มีแต่ความคลุมเครือเรื่องชายชุดดำ อยากถามว่าเหตุใดไม่ได้ยินพฤติกรรมของชายชุดเขียวที่มีส่วนในการฆ่าประชาชนอีก 92 ศพบ้าง
-น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชี บุตรสาวของ พล.ต.ขัตติยะ ซึ่งรายงาน คอป.ระบุว่ามีความเชื่อโยงกับชายชุดดำที่ใช้อาวุธสงครามยิงตอบโต้ทหาร เขียนข้อความผ่านทวิตเตอร์
สุดท้ายรายงานของ คอป.ที่นั่งเทียนเขียนมาตั้งนาน ก็ออกมาในรูปแบบนี้ เดาไม่ยาก...เพราะ คอป.เกิดจากการแต่งตั้งของรัฐบาลอภิสิทธิ์ มีคณิตกับสมชายนำ
เป็นรายงานที่เขียนด้วยเท้ามากๆ
-นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พท. และแกนนำ นปช. แสดงความเห็นผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊ก
ที่นายสมชาย หอมลออ กรรมการ คอป. แถลงเกี่ยวกับชายชุดดำนั้นไม่มีหลักฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์เพียงพอว่ามีชายชุดดำอยู่จริง โดยเฉพาะกรณีที่วัดปทุมวนารามที่บอกว่ามีรอยแตกที่ขอบรถไฟฟ้าพยายามโน้มน้าวว่านั่นเป็นการยิงของชายชุดดำก็เลยทำให้ทหารต้องยิงคนในวัดปทุมฯ จึงตั้งข้อสงสัยว่ารับงานใครมาหรือไม่
ทั้งนี้ นายสมชายอธิบายว่า ล้วนมุ่งยืนยันว่ามีชายชุดดำทุกจุดที่เกิดการตาย แต่ในสำนวนสอบสวนของตำรวจแม้ในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับไม่ปรากฏ และไม่เห็นอธิบายการตายของคนเสื้อแดงแม้แต่รายเดียว ทั้งนี้ หวังว่า คอป.จะส่งหลักฐานต่างๆ มาให้ตนพิจารณาด้วย
-นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และแกนนำ นปช.
คอป.มีเพียงข้อมูลระดับพื้นผิว ซึ่งเป็นข้อมูลที่หาอ่านได้ตามสื่อ คงไม่กล้าไปบอกว่ารู้สึกผิดหวัง เพียงแต่เห็นว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตลอด 6 ปีที่ผ่านมา มีความลึกซึ้งและละเอียดอ่อนกว่าที่ คอป.รายงานมา เพราะจากการรายงานดูเหมือนว่าจะมีการมุ่งเน้นถึงสถานการณ์ช่วงเดือน เมษายน-พฤษภาคม 2553 คอป.พยายามที่จะไปเจาะลึกความมีตัวตนของชายชุดดำ แต่ก็ไม่ได้ลึกไปเกินกว่านักการเมืองบางฝ่ายต้องการอธิบาย ไม่มีอะไรลึกซึ้งเกินกว่าคนของพรรคประชาธิปัตย์ได้อธิบายมา และไม่ปรากฏตามเอกสารราชการว่า มีสไนเปอร์กี่กระบอก เจ้าหน้าที่กี่คน และคำสั่งออกยังไง จริงๆ ไม่น่าจะหายากเลยแค่เอาเอกสารราชการมาเรียงประชาชนก็จะได้เห็น
ผมไม่เคยสัมผัส และไม่เคยทราบข้อมูลของชายชุดดำ หากใครก็ตามที่บอกว่ามีชายชุดดำก็ต้องยืนยัน เพราะผมก็อยากรู้เช่นกันว่าชายชุดดำที่ว่านั้นเป็นใคร หน้าตาเป็นอย่างไร ทำงานแบบไหน และใครเป็นผู้สั่งการ เวลาผ่านมา 2 ปีกว่าๆ คอป.พูดได้แค่เพียงข้อมูลที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่า คอป.ควรที่จะได้ข้อมูลที่มากกว่านี้ เพราะจนถึงวันนี้ตนก็ยังไม่ทราบว่าใครคือชายชุดดำ
หลังจากเห็นรายงานของ คอป.แล้วคิดว่าสังคมไทยน่าจะรอความจริงรอบด้านในชั้นศาล ส่วนแกนนำเสื้อแดงก็จะไม่มีการเคลื่อนไหวแต่อย่างไร เพราะเคารพใน คอป. แต่ว่าจากรายงานดังกล่าวนั้น ไม่น่าจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำประเทศไทยออกจากความขัดแย้งได้ เพราะ คอป.ไม่มีการเข้าไปแตะต้องรากแก้วของปัญหาเลยแม้แต่น้อย
ส่วนการเผาห้างเซ็นทรัลเวิร์ลด์ ผมได้มีโอกาสสนทนากับนักผจญเพลิงเหล่านั้น ซึ่งเขาได้พูดชัดว่ามีกองกำลังติดอาวุธ เป็นเจ้าหน้าที่ที่ปักหลักอยู่บนห้าง และเมื่อออกมาก็เกิดเหตุไฟไหม้ และชุดผจญเพลิงก็ได้มีการยืนยันว่าผู้เผาห้างไม่ใช่ฝีมือของคนเสื้อแดง ก็ไม่ทราบว่า 2 ปีกว่า คอป.มองข้ามคนพวกนี้ไปได้อย่างไร
กรณี พ.ต.ท.ทักษิณที่ประธาน คอป.เสนอให้วางมือทางการเมือง ความจริงแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหนึ่งในเหยื่อของความขัดแย้ง และโครงสร้างอำนาจในสังคมไทย
-นายพิภพ ธงไชย แกนนำ พธม.กล่าวในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ASTV
การแถลงผลสอบของ คอป.ไปเน้นที่เรื่องความรุนแรง ตนเกรงว่าจะทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ไปดูในส่วนของรากเหง้าของปัญหา นี่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่มีการตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาสอบสวนเหตุการณ์รุนแรงในประเทศ เพราะ 14 ต.ค.2516 6 ต.ค.2519 พฤษภาทมิฬปี 2535 และความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ล้วนแต่ไม่ได้ตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลางเพื่อสอบสวน แล้วพอนำเรื่องไปสู่ศาล ศาลก็มักเข้าข้างข้าราชการ จึงหวังว่าการทำรายงานครั้งนี้จะสามารถยับยั้งความรุนแรงได้ในอนาคต เพราะจะเกิดเป็นประเพณีปฏิบัติ ถ้ามีเหตุรุนแรงขึ้นอีกก็จะต้องตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาสอบ
น่าแปลกที่ทำไมรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ยุบ คอป.ทิ้ง ทั้งๆ ที่รู้ว่านายคณิต ณ นคร ปฏิเสธ พ.ต.ท.ทักษิณ แม้จะร่วมกันตั้งพรรคไทยรักไทย ส่วนนายสมชาย หอมลออ ก็เป็นนักสิทธิมนุษยชนและต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณที่ได้ทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งประโยชน์อีกอย่างของรายงานนี้จะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับไทยไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงเต็มไปหมดที่จะนำไปใช้อ้างอิงในชั้นศาลได้ อันนี้จะเป็นความผิดพลาดโดยตั้งใจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์หรือเปล่า
-พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพ ในฐานะอดีตโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “News Hour” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ASTV
การชุมนุมนั้น แกนนำก็อ้างว่าเป็นการชุมนุมที่ถูกต้อง ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีความรุนแรง สันติ อหิงสา แต่ภาพที่ปรากฏ คำสั่งศาลก็ออกมาในช่วงนั้นว่าเป็นการชุมนุมที่มิชอบด้วยกฎหมาย แล้วก็เป็นที่ปรากฏซึ่งวันนี้ในคำแถลงของ คอป. ก็สรุปใจความโดยรวมได้ว่า มีชายชุดดำอยู่จริง
ชายชุดดำที่ว่า บางทีอาจจะไม่ได้ใส่ชุดดำ อาจใส่ชุดอย่างอื่นแทน ก็เรียกกันในนามว่าชายชุดดำ มีการใช้อาวุธสงคราม ยิงทำร้ายเจ้าหน้าที่ ทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ไปในที่ต่างๆ แล้วก็แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ถามว่าเจ้าหน้าที่จะปฏิบัติอะไรได้อีกที่ดีไปกว่านี้ เราก็พยายามทำตามขั้นตอนของกฎหมาย พยายามควบคุมทุกอย่างโดยใช้ขั้นตอนการควบคุมฝูงชนตามหลักสากล 7 ขั้นตอนที่ผมเคยอธิบายความจนน้ำลายแห้งเนี่ย ในขณะเดียวกันเมื่อมีการใช้อาวุธสงคราม เจ้าหน้าที่ก็ต้องพยายามที่จะปกป้องตัวเองด้วย เพราะเขาก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน เขาก็มีสิทธิ์ที่จะปกป้องตัวเอง ในขณะเดียวกันเขาก็ต้องปกป้องพี่น้องประชาชนแล้วก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนด้วย
บทเรียนที่ได้ คงไม่ใช่แค่ผู้ปฏิบัติอย่างเดียว เป็นบทเรียนของทุกฝ่าย ทั้งผู้ชุมนุม ตำรวจ และทหาร
-นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก
พูดจริงๆนะ หลังๆเวลาได้ยิน คณิต หรือพวกนิยมเจ้า ใช้ "มุข" ที่ว่า
"ปรีดี เสียสละ ไม่กลับประเทศ" อะไรนี่ ผมโกรธมากขึ้นๆทุกครั้ง
คือมัน ทุเรศน่ะครับ เพราะมันไม่เป็นความจริง ในลักษณะที่พวกนี้พูดเลย
ที่ผมเขียนในสไลด์ว่า "เลิก 112 สิครับ แล้วผมจะเล่าให้ฟัง" นี่ ไม่ใช่ล้อเล่นนะ เรื่องจริง - - มีอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับปรีดี ที่ยังเล่าไม่ได้ เพราะมี 112 และสิ่งที่องค์ประกอบอื่นๆของระบอบกษัตริย์นิยม อยู่ นี่แหละ
ผมน่ะหวังว่าตัวเองจะอยู่ยาวพอ ได้เห็นวันที่ ระบอบอุดมการณ์และกฎหมายแบบนี้ หมดไป จะได้ดูบรรดา คนรักเจ้า ที่อ้างๆ ปรีดี "หน้าแตก" ชนิดยับเยิน
…

-ความเห็นในเว็บบอร์ดพันทิป ห้องราชดำเนิน
ที่เลวร้ายกว่านั้น ข้อเสนอของ คอป. ก็ดันกลายเป็นข้อเสนอไปในทิศทางเดียวกับฝ่ายผู้ทำการกบฏ ผู้ทำผิดกฏหมาย ม.113 คณะรัฐประหาร และผู้นิยมเผด็จการ คือ เสนอให้ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณยุติบทบาท เพื่อให้ประเทศไทยสงบ
นั่นก็กลายเป็นเรื่องเดียวกับฝ่ายโค่นล้มประชาธิปไตย เผด็จการคมช. พรรคประชาธิปัตย์ พันธมิตร สลิ่ม และแนวร่วมเผด็จการโค่นล้มประชาธิปไตยทั้งหลาย
...
คอป.แถลงว่ามีหลักฐานว่าชายชุดดำมีความไกล้ชิดกับเสธแดง แต่ไม่มีหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับนปช. นั่นไม่ใช่สาระสำคัญ ประเด็นอยู่ที่ว่าเหตุไฉนรัฐบาลขณะนั้นไม่เคยจับชายชุดดำมาดำเนินคดีได้แม้แต่คนเดียว
มันยิ่งทำให้เชื่อได้ว่าชายชุดดำและทหารคือคนกลุ่มเดียวกันเพียงแค่เปลี่ยนชุดทหารมาใส่ชุดดำเพื่อสร้างสถานการณ์ว่าผู้ชุมนุมมีกองกำลังติดอาวุธเพื่อสร้างเงื่อนไขในการสังหารประชาชน
กรณีเผาเซ็นทรัลเวิร์ด ทั้งๆ ที่ทหารระดมกำลังหลายหมื่นเข้าสลายการชุมนุม โดยการล้อมยิงประชาชนกลางเมืองหลวงเข้ายึดพื้นที่ทั้งหมด กวาดต้อนจับกุมเสื้อแดง ขับไล่ รปภ. และเจ้าหน้าที่ทั้งหมดออกจากห้าง แต่กลับปล่อยให้มีชายชุดดำไม่กี่คนเข้ามาเผา ขัดขวางการเข้ามาเข้ามาดับเพลิงของเจ้าหน้าที่ ยิ่งทำให้คิดได้ว่าใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายเผา หรือเผาเพื่อกลบเกลื่อนการสังหารหมู่ประชาชน
…
(จากคุณ : ที่นี่อยุธยาป้ายหน้าวังน้อย)
ถ้าให้ทักษิณไม่กลับไทย ต้องให้มาร์คทำด้วย ให้ออกนอกประเทศไปไม่ให้กลับมาอีก
จริงๆมาร์คความผิดร้ายแรงกว่าทักษิณมาก เพราะเป็นความผิดฐานสั่งฆ่าคนไทยด้วยกัน ถ้าตัดสินแล้วต้องติดคุก ก็ให้ติดคุกไปก่อน ออกจากคุกก็เนรเทศไปนอกประเทศเลย เช่นกัน
(จากคุณ : rcya)
คอป. พวก................มั่ว
มั่วมาก ชุดดำนะใคร จะกล่าวหาใคร หาหลักฐานและ พิสูจน์ได้ก่อน ประเทศนี้คนดีคือคนที่อยู่จนแก่หรืองัยว่ะ
(จากคุณ : tigerpanthep)
-บทนำ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 18 ก.ย.2555
คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) สรุปผลรายงาน การค้นหาความจริงเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2553 ฉบับสมบูรณ์ หลังครบวาระการทำงาน 2 ปี จะเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สามารถนำไปอ้างอิง เพราะมีความน่าเชื่อถือและดำเนินอย่างเป็นกลางที่สุดเท่าที่มีการดำเนินการกันมา
นั่นเพราะหลักฐานและข้อมูลนั้น คอป.ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง...
รวมไปถึงการลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและเยียวยาผู้ต้องขังในคดีความผิดต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมถึงการสำรวจและบันทึกคำบอกเล่าผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบและความรุนแรงในประเทศไทย...แน่นอนว่าจะมีคนบางกลุ่มไม่พอใจผลสรุปนี้ นั่นเพราะไม่อาจนำไปใช้ประโยชน์ทางการเมืองและคดีได้ง่ายดายเหมือนที่ผ่านมา
ผลสรุป คอป.ระบุว่า พบหลักฐานชายชุดดำ คือบุคคลที่ไม่ทราบฝ่ายแน่ชัด ไม่ประกาศตัวชัด แต่ใช้อาวุธสงครามโจมตีเจ้าหน้าที่ทั้งก่อนและหลัง 10 เม.ย.2553 จากหลักฐานกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ พบมีการใช้ เอ็ม 79 และปืนเล็กยาวยิงใส่เจ้าหน้าที่ด้วย...
เจ้าหน้าที่ทหารนำอาวุธ ปลย. และกระสุนจริงไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย หลังถูกโจมตีด้วยลูกระเบิด เจ้าหน้าที่ทหารใช้อาวุธ ปลย. กระสุนจริงยิงไปในทิศทางที่มีผู้ชุมนุมอยู่หนาแน่น โดยปรากฏร่องรอยกระสุนปืนจำนวนมาก พบผู้ชุมนุมเสียชีวิตและบาดเจ็บจากกระสุน ปลย. หรือกระสุนความเร็วสูง จำนวนมาก
...
ผลสรุปนี้สะท้อนให้เห็นว่า มีการต่อสู้โดยใช้อาวุธสงครามระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับกองกำลังติดอาวุธชุดดำจริง มีการใช้กระสุนจริง มีผู้ชุมนุมถูกเจ้าหน้าที่รัฐยิงเสียชีวิตจริง มีประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐถูกสังหารโดยกองกำลังชุดดำจริง ทั้งหมดคือความจริงที่ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้ แม้จะมีความพยายามเหมือนอย่างที่แกนนำแดงบิดเบือนว่า ไม่มีชายชุดดำก็ตาม
-นายคณิต ณ นคร ประธาน คอป.
"คอป.ชุดนี้เป็นคณะกรรมการที่ใช้โสตประสาทในการรับฟังมากที่สุด พวกเรายินดีรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายแต่อยากให้กลับไปศึกษารายงานของ คอป.ให้ถี่ถ้วนเสียก่อน"
ภาพประกอบทั้ง 2 ภาพจากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
