ไขปริศนา! ถอด “สุเทพ” ทำไม ต้องใช้เสียง ส.ว. "ตั้ง 89 คน" ขึ้นไป?
ทำไม? เสียงในการถอดถอน “นายสุเทพ เทือกสุบรรณ” ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กรณีตั้ง ส.ส.เข้าไปแทรกแซงการทำงานของกระทรวงวัฒนธรรมสมัยเป็นรองนายกรัฐมนตรี ในการประชุมวุฒิสภานัดพิเศษ วันอังคารที่ 18 ก.ย.นี้ ถึงต้องใช้เสียง ส.ว.ไม่น้อยกว่า 89 คนด้วย
...อย่างนี้ก็ลุ้นให้ “เทพเทือก” ถูกเว้นวรรค 5 ปี ต้องกลับบ้านไปเลี้ยงหลาน ตามที่เจ้าตัวเคยลั่นวาจาไว้ ยากหน่ะสิ!?
ถ้าจะตอบคำถามข้างต้นแบบกำปั้นทุบดิน ก็ต้องบอกว่า เพราะรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 274 วรรคหนึ่ง กำหนดไว้ว่า มติ ส.ว.ในการถอดถอนผู้ใด ให้ถือเอาคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 ของจำนวน ส.ว.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่
เมื่อปัจจุบันมี ส.ว.อยู่ 146 คน “ขั้นต่ำ” ที่ต้องการในการสงเคราะห์ชายวัย 63 ให้ได้กลับบ้านไปเลี้ยงดูบุตรหลาน ก็คือ 87.6 คน ปัดเศษขึ้นเป็น 88 คน ไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 ก็ต้อง "89 คน" ...เป็นอย่างน้อย
แต่ก็อยากมีคำถามจากคนขี้สงสัยต่อไปว่า แล้วทำไมรัฐธรรมนูญ ถึงกำหนดให้ต้องใช้ เสียง ส.ว.ถึง “ตั้ง 3 ใน 5” ล่ะ?
...หรือว่า...พวกอำมาตย์จะแอบซ่อนกล...ไม่ให้พวกตัวเองถูกถอดถอน...เพราะ ส.ว.กว่าครึ่งก็มาจากการลากตั้ง !!?
อยากจะบอกว่า ก่อนหน้านี้ เคยมีคนยกเรื่องนี้มาสอบถามถึงกลางสภา จนทำให้ผู้เกี่ยวข้องต้องลุกขึ้นมาชี้แจงทันควัน ก่อนผู้ทำหน้าที่ประธานจะต้องหาข้อยุติ ด้วยการให้โหวตตัดสินในที่ประชุม ว่าจะเชื่อใคร ระหว่าง “ผู้ถาม” หรือ “ผู้ตอบ”?
เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง และมีการบันทึกไว้ในเอกสารราชการของสภา “สำนักข่าวอิศรา” ไปพลิกเจอระหว่างตรวจสอบเอกสารที่มีความหนากว่า 200 หน้า ที่ชื่อ “รายงานการประชุมสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ครั้งที่ 35/2550 เป็นพิเศษ ในวันพุธที่ 27 มิ.ย.2550” โดยมีวาระสำคัญ คือการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. .... ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาเสร็จแล้ว
อย่ามัวแต่เสียเวลา ไปตะลุยอ่านกันดีกว่า ว่าทำไมการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถึงต้องใช้เสียง ส.ว.ถึง “ตั้ง 3 ใน 5” ด้วย
…………………..
(ย้อนเวลาไป 5 ปีก่อน ในที่ประชุม ส.ส.ร.ครั้งที่ 35/2550 วันพุธที่ 27 มิ.ย.2550)
นายเสรี สุวรรณภานนท์ (รองประธาน ส.ส.ร.คนที่หนึ่ง) : ครับ ผ่านมาตรา 263 นะครับ เชิญท่านเลขาธิการครับ
นายวิจักขณ์ นาควัชระ (รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสภาร่างรัฐธรรมนูญ) : มาตรา 264 ไม่มีการแก้ไข มาตรา 265 ไม่มีการแก้ไข มีสมาชิกผู้แปรญัตติ ขอสงวนคำแปรญัตติ
นายเสรี สุวรรณภานนท์ (รองประธาน ส.ส.ร.คนที่หนึ่ง) : มาตรา 265 (หรือมาตรา 274 ในปัจจุบัน) มีท่านใดติดใจไหมครับ ท่านการุณครับ ท่านการุณติดใจไหมครับ เมื่อกี้เห็นยกมือเชิญครับ
นายการุณ ใสงาม : ท่านประธานที่เคารพครับ การุณ ใสงาม ส.ส.ร.นะครับ ตัวเลขอีกเหมือนเดิมครับ ท่านประธานครับ ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่สูงเกินไปครับ ท่านกล้านรงค์ (จันทิก ส.ส.ร.ในฐานะกมธ.) ก็พูดแล้วเมื่อกี้บอกว่า กระบวนการนั้นละเอียด รอบคอบ ไต่สวนอย่างถี่ถ้วน กระดาษแผ่นแรก พยานบุคคลอย่างละเอียด พยานเอกสาร พยานหลักฐานอย่างชัดเจน อย่างละเอียด ถึงจะผ่าน ท่านเห็นไหมครับ เมื่อเป็นอย่างนี้ ท่านประธานที่เคารพครับ การที่จะมาชี้ มาลงมติกันในหมู่ ส.ว. ท่านประธานลองดูตัวเลข ส.ว. ครับ ส.ว. ต่อไปนี้ เป็น ส.ว. 150 คน ตามที่เราผ่าน สามในห้า คือ 90 ต่อ 60 ท่านประธานหาเสียง แค่ 61 คน ท่านประธานก็ชนะแล้ว ท่านประธานไม่ต้องหาเสียงมากถึง 90 คนนะท่านประธาน หาเสียงฝั่งข้างน้อย ท่านเห็นไหมครับ กลายเป็นเสียงข้างน้อยชนะเสียงข้างมาก
นายเสรี สุวรรณภานนท์ (รองประธาน ส.ส.ร.คนที่หนึ่ง) : เอ๊ะ ท่านการุณครับ ผมหารือท่านนิดหนึ่ง ท่านอภิปรายเยอะไหมครับ ถ้าเยอะ
นายการุณ ใสงาม : ไม่เยอะครับ
นายเสรี สุวรรณภานนท์ (รองประธาน ส.ส.ร.คนที่หนึ่ง) : ถ้าเยอะ ผมจะได้เลื่อน
นายการุณ ใสงาม : มีแค่นี้เอง นี่สลับดูเท่านี้ แค่นี้
นายเสรี สุวรรณภานนท์ (รองประธาน ส.ส.ร.คนที่หนึ่ง) : ครับ เชิญครับ
นายการุณ ใสงาม : ท่านประธานเห็นไหมครับ ข้างน้อยชนะข้างมาก เพียงข้างน้อยมี 61 จะชนะ 89 ทันที นี่คือเหตุการณ์ของการลงมติอย่างนี้ เพราะฉะนั้นผู้ต้องการชนะ ผู้วิ่งเต้นให้ชนะ ผู้ที่ต้องการชนะนะครับ เขาไม่วิ่งเต้นให้เสียงข้างมากครับเขาไปวิ่งทางเสียงข้างน้อย ท่านประธานครับ เขาไปหาเสียงข้างน้อยนี่เพียงแค่ 61 คน ท่านประธานเห็นไหมครับ 61 คน จะชนะ 89 ทันที เพราะจะได้ไม่ถึงสามในห้าแล้ว แต่ถ้าเกินกึ่งหนึ่งนะครับ ก็คือ 76 เพราะเนื่องจาก ส.ว. มี 150 ที่สำคัญครับ ตัวร่างนี่ตัวร่าง ท่านประธานดูตัวร่าง ส.ว. ครั้งนี้มาจากการเลือกตั้ง 76 มาจากการสรรหา 74 ตรงนี้แหละครับ สรรหาตรงนี้แหละครับ 74 นี่ละครับ ท่านเห็นตัวเลข 74 ไหมครับ มันเกินกว่า 60 แล้ว นี่คือส่วนสรรหานะครับ 74 มากกว่า 60 แล้ว ไม่ต้องไปหาที่ไหนครับ หาจากจุดสรรหานี่แหละครับ เรียบร้อยเลย ถอดไม่ได้สักคนเลย แล้วท่านเชื่อได้อย่างไรครับว่า เลือกตั้งจะไม่มีกลุ่มเลือกตั้งไปอยู่ข้างผู้มีอำนาจ ที่ผ่านมามันจะมีอยู่อย่างนี้เรื่อยไป นี่ผมชี้ให้ท่านเห็นตัวเลขครับว่า การต่อไปนี้ ส.ว. ไม่ใช่ ส.ว. จากเลือกตั้งล้วน ๆ แต่เป็น ส.ว. จากทั้งเลือกตั้งและสรรหา ที่สำคัญสรรหาถึง 74 คน 74 คน นี้จะมีน้ำหนักถ่วง 60 ตัวนี้ครับ จะทำให้เสียงข้างน้อยเพียง 60 บวก 1 คือ 61 จะชนะ 89 ทันทีครับ จึงขอเสนอครับ ท่านครับ ยืนยันตัวเลข ขอเสนอตามข้อเสนอของผมครับ คือ เกินกึ่งหนึ่งครับ
นายเสรี สุวรรณภานนท์ (รองประธาน ส.ส.ร.คนที่หนึ่ง) : กึ่งหนึ่งนะครับ ท่านอาจารย์สมชัยก็ยังหลักเดียวกันอยู่ใช่ไหมครับ มีท่านอาจารย์สมชัยก็แปรญัตติไว้ ท่านติดใจไหมครับ วรรคที่ 1 นะครับ จำนวนกึ่งหนึ่งนะครับ ท่านไม่ติดใจ แล้วนะครับ อย่างนั้นจะพิจารณาให้จบเลยดีไหมครับ มาตรานี้ เพราะท่านการุณ ก็อภิปรายไปจนเสร็จแล้ว เชิญท่านกรรมาธิการครับ
ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ (กรรมาธิการ) : ท่านประธานที่เคารพครับ กรณีของการโหวตเสียง กระผม วิชา มหาคุณ กมธ.นะครับ กรณีของการโหวตเสียงของสมาชิกวุฒิสภาในกรณีของการถอดถอน เรื่องของอิมพีชเมนต์นี่นะครับผลสุดท้ายนี่รัฐธรรมนูญทั่วโลกก็เหมือนกันหมดครับว่า ต้องใช้เสียงข้างมากเป็นพิเศษครับ ไม่ใช่ใช้เสียงกึ่งหนึ่งครับ เพราะว่าต้องการให้มีความตระหนักครับ แล้วก็ได้ใช้ความรู้ความคิด แล้วก็ใช้สติปัญญากันอย่างเต็มที่นะครับ ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วนี่มันจะง่ายเกินไปก็เลยใช้ระบบอย่างนี้นะครับ แต่ว่า สองในสาม นะครับ หรือว่า สามในสี่ ก็สุดแล้วแต่ แต่ว่าส่วนใหญ่นี่นะครับ ที่กรองมาแล้วก็คือ เขาใช้อย่างนี้เป็นส่วนมากครับ ก็เลยกำหนดตัวเลขนี้ ซึ่งก็เป็นตัวเลขดั้งเดิมตั้งแต่รัฐธรรมนูญ ปี 2540 ครับ ขอบพระคุณครับ
นายเสรี สุวรรณภานนท์ (รองประธาน ส.ส.ร.คนที่หนึ่ง) : ครับ มาตรา 265 วรรคอื่นนี่นะครับ วรรคสอง วรรคสามนี่ มีท่านใดติดใจไหมครับ
(ไม่มีสมาชิกมีความเห็นเป็นอย่างอื่น)
นายเสรี สุวรรณภานนท์ (รองประธาน ส.ส.ร.คนที่หนึ่ง) : ครับ ไม่มี ก็มีพิจารณาเฉพาะวรรคหนึ่งนะครับ วรรคสอง วรรคสาม ของท่านการุณ คงไม่มีมั้งครับ มันสภาเดียวนะครับ พิจารณาเฉพาะวรรคหนึ่งนะครับ ท่านการุณครับ
นายการุณ ใสงาม : ถูกต้องครับ วรรคหนึ่งครับ
นายเสรี สุวรรณภานนท์ (รองประธาน ส.ส.ร.คนที่หนึ่ง) : ครับ เฉพาะวรรคหนึ่งนะครับ ผมขอถามท่านสมาชิกนะครับ
[นายเสรี สุวรรณภานนท์ (รองประธาน ส.ส.ร.คนที่หนึ่ง) มีสัญญาณให้สมาชิกที่มาประชุมทราบก่อนลงมติ]
นายเสรี สุวรรณภานนท์ (รองประธาน ส.ส.ร.คนที่หนึ่ง) : ครับ เดี๋ยวรอท่านสมาชิกมาลงคะแนนสักครู่นะครับ ผมจะถามมาตรา 265 วรรคหนึ่งนะครับ กรรมาธิการไม่มีการแก้ไขนะครับ มีสมาชิกขอแปรญัตติเรื่องจำนวนนะครับ พอดีสมาชิกคงเดินออกไปนอกห้องประชุม ห้องอาหารนี่นะครับ เดี๋ยวห้องอาหารนี่นะครับตอนนี้มีของ สนช. เขาห้องอยู่ด้านนอกนะครับ ของท่าน ส.ส.ร.นี่อยู่ห้องด้านใน เขาแยกห้องไว้ให้แล้วนะครับ พร้อมการลงคะแนนนะครับ มาตรา 265 วรรคที่ 1 นะครับ กมธ.ไม่ได้แก้ไขครับ หากท่านสมาชิกเห็นด้วยกับ กมธ.นะครับ ให้กด เห็นด้วย หากเห็นด้วยกับท่านผู้ขอแปรญัตติไว้ ให้กด ไม่เห็นด้วย นะครับ เชิญลงคะแนนได้นะครับ
(สมาชิกทำการเสียบบัตรแสดงตนและกดปุ่มลงคะแนน)
นายเสรี สุวรรณภานนท์ (รองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ คนที่หนึ่ง) : ครับ ลงคะแนนครบถ้วนแล้วนะครับ ปิดการลงคะแนนนะครับ ปิดการลงคะแนนไปแล้วนะครับ ท่านอาจารย์มานิจครับ ท่านเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยครับ ท่านอาจารย์มานิจ (สุขสมจิตร ส.ส.ร.) เห็นด้วยนะครับ เดี๋ยวค่อยรวมคะแนนของท่านเข้าไปนะครับ ประกาศผลคะแนนด้วยครับ เชิญเจ้าหน้าที่ประกาศผลคะแนนครับ เห็นด้วย 37 ไม่เห็นด้วย 15 นะครับ ส่วนที่เห็นด้วยบวกของท่านอาจารย์มานิจเข้าไปเป็น 38 นะครับ เป็นไปตามร่าง กมธ.นะครับ
…………………..
เมื่อสองตรวจสอบเพิ่มเติมก็พบว่าบทบัญญัติว่าด้วยการลงมติถอดถอนในรัฐธรรมนูญปี 2540 (มาตรา 307) และรัฐธรรมนูญปี 2550 (มาตรา 274) เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วทั้ง 134 ถ้อยคำ! ด้วยข้อความที่ว่า
“สมาชิกวุฒิสภามีอิสระในการออกเสียงลงคะแนนซึ่งต้องกระทำโดยวิธีลงคะแนนลับ มติที่ให้ถอดถอนผู้ใดออกจากตำแหน่ง ให้ถือเอาคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา
"ผู้ใดถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งให้ผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งหรือให้ออกจากราชการนับแต่วันที่วุฒิสภามีมติให้ถอดถอน และให้ตัดสิทธิผู้นั้นในการดำรงตำแหน่งใดในทางการเมืองหรือในการรับราชการเป็นเวลาห้าปี
"มติของวุฒิสภาตามมาตรานี้ให้เป็นที่สุด และจะมีการร้องขอให้ถอดถอนบุคคลดังกล่าวโดยอาศัยเหตุเดียวกันอีกมิได้ แต่ไม่กระทบกระเทือนการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง”
คงต้องกลับไปตรวจสอบเอกสารย้อนหลัง 15 ปี หรือไปถาม ส.ส.ร.ปี 2540 แล้วว่า ทำไมต้องกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำในการถอดถอนไว้ "ตั้ง 3 ใน 5" ด้วย !!!