น้ำจากสุโขทัยกำลังเข้า อ.กงไกรลาศ -ไหลเข้า อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน เปิดเผยถึงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่า "น้ำล้นเขื่อนกิ่วคอหมา ทะลักเข้าแม่น้ำวัง เอ่อล้นท่วมพื้นที่การเกษตร 3 ตำบล อ.สามเงา จ.ตาก ระดับน้ำสูงกว่า 60 ซ.ม. จากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องที่ภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะ จ.ลำปาง กว่า 1 สัปดาห์ ทำให้เขื่อนกิ่วลม ระบายน้ำออกมา ส่งผลให้เขื่อนกิ่วคอหมา รองรับน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำวังไม่ไหว จนล้นเขื่อนไหลทะลักลงแม่น้ำวัง มีระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาหลายวัน โดยวันนี้ มีระดับสูงกว่า 6 เมตร ได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรใน 10 หมู่บ้าน ของ ต.ยกกระบัตร ต.วังหมัน และ ต.วังจันทร์ อ.สามเงา ระดับน้ำสูงกว่า 60 เซนติเมตร ทำให้พื้นที่ นาข้าว ข้าวโพด ฝรั่ง ถั่วเหลือง และกล้วยไข่ เสียหายแล้วนับพันไร่..." นั้น
กรมชลประทาน โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม – กิ่วคมหมา ขอเรียนชี้แจง ดังนี้ ระยะทางของน้ำจากเขื่อนกิ่วลมถึงอ.สามเงา จ.ตาก จะใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน โดยเขื่อนกิ่วลมได้เริ่มพร่องน้ำ ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย. 55 เป็นต้นมา โดยปัจจุบันเขื่อนกิ่วลม มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 72 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 68 ของความจุอ่างฯ ได้ระบายน้ำอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 105 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำวังสูงขึ้นจนเอ่อล้นตลิ่งแต่อย่างใด
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่ง นั้น เกิดจากแม่น้ำวังตอนล่างด้านท้ายเขื่อนกิ่วลมลงมา มีลำห้วยสาขาจำนวนมาก ประกอบกับมีฝนตกหนักทำให้มีปริมาณน้ำจากลำห้วยสาขาต่างๆไหลลงสู่แม่น้ำวัง ซึ่งน้ำส่วนนี้ไม่สามารถควบคุมได้ จึงทำให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำดังกล่าว
สำหรับในกรณีที่ได้ระบุว่าเขื่อนกิ่วคอหมามีน้ำล้นอ่างฯ นั้น ขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้ ในช่วงที่ผ่านมานั้น เขื่อนกิ่วคอหมา ซึ่งตั้งอยู่เหนือเขื่อนกิ่วลม ในเขตอ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ไม่ได้มีการระบายน้ำลงสู่ลำน้ำวังแต่อย่างใด พร้อมกันนี้ยังได้เก็บกักน้ำที่ไหลลงเขื่อนไว้ทั้งหมด เพื่อช่วยควบคุมปริมาณน้ำในลำน้ำวังด้านเหนือของเขื่อนกิ่วลม ทำให้เขื่อนกิ่วลมสามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันเขื่อนกิ่วคอหมา มีปริมาณน้ำเก็บกักอยู่ที่ 95 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 56 ของความจุอ่างฯ (เขื่อนกิ่วคอหมา สามารถเก็บกักน้ำได้สูงสุด 170 ล้านลูกบาศก์เมตร) จึงเรียนชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องมาเพื่อทราบต่อไป
น้ำจากสุโขทัยกำลังเข้า อ.กงไกรลาศ -ไหลเข้า อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก
ด้านนายประเวศน์ ศิริศิลป์ ผอ.ชลประทานจังหวัดพิจิตร ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำของลุ่มน้ำยมว่า จากเหตุน้ำท่วมใหญ่ที่สุโขทัย ทำให้ขณะนี้ปริมาณน้ำจำนวนมากกำลังไหลบ่าเข้า อ.กงไกรลาศ และไหลต่อมาเข้า อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ดังนั้นจึงคาดว่าอีกไม่เกิน 5 วัน มวลน้ำดังกล่าวจะไหลเข้ามาในแม่น้ำยมในเขต อ.สามง่าม จ.พิจิตร ซึ่งขณะนี้ได้ออกประกาศเตือนให้ราษฎรอพยพขนย้ายสิ่งของขึ้นไปอยู่บนที่สูงแล้ว
อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำในแม่น้ำยมยังคงต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 50-70 เซนติเมตร แต่ในที่ลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือที่ ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร เนื่องจากที่อยู่อาศัยของชาวบ้านในหมู่บ้านเป็นที่ลุ่มต่ำกว่าตลิ่ง ดังนั้นถ้าน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ต.รังนกก็คงหนีน้ำท่วมไม่พ้น แต่ด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน ชาวบ้านแถบนี้ก็จะสร้างบ้านมีใต้ถุนสูงและมีเรือพายเป็นพาหนะทุกบ้าน จึงไม่น่ากังวลมากนัก ส่วนนาข้าวตอนนี้ก็เกี่ยวหนีน้ำกันไปเกือบหมดแล้ว
สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำยมขณะนี้สูงกว่าแม่น้ำน่าน 4 เมตร จึงได้ทำการเปิดประตูระบายน้ำที่คลองในหลวง DR 2.8 ที่หมู่ 8 ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม ซึ่งเป็นคลองเชื่อมต่อแม่น้ำน่านกับแม่น้ำยม โดยระบายน้ำจากแม่น้ำยมลงสู่แม่น้ำน่านได้วันละ 16 ล้านลูกบาศก์เมตร
นายประเวศน์มั่นใจว่า ช่วงนี้ถ้าไม่มีฝนตกลงมาซ้ำเติมพื้นที่ลุ่มน้ำยมพิจิตรก็น่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ และคาดว่าจะรอดพ้นจากการถูกน้ำท่วมในช่วงนี้ แต่ถ้ามีฝนตกหนักลุ่มน้ำยมใน 4 อำเภอของจังหวัดพิจิตรก็คงหนีไม่พ้น น้ำอาจท่วมได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับพื้นที่เขตตะวันออก ซึ่งมีอำเภอสากเหล็ก วังทรายพูน ทับคล้อ ที่รับน้ำจากเทือกเขาวังทอง จ.พิษณุโลก และเทือกเขาเพชรบูรณ์ น้ำป่ายังคงไหลหลากเข้าท่วมนาข้าวหลายพันไร่และบ้านเรือนหลายสิบหลังคาเรือน แต่เป็นน้ำที่มาเร็วแห้งเร็ว ซึ่งก็ทำความเสียหายแก่ทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตรของราษฎร ดังนั้นขณะนี้ได้ประกาศให้ 3 อำเภอดังกล่าวเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติอุทกภัยแล้ว และจะได้อนุมัติเงินเข้าช่วยเหลือประชาชนต่อไป
ที่มาภาพ:http://www.maesook.com/Joomla/index.php?option=com_content&task=view&id=17&Itemid=39