สถานการณ์น้ำในเขื่อนต่าง ๆ อยู่ในสภาวะปกติ
10 กันยายน นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(องค์การมหาชน) ในฐานะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย(กบอ.)แถลงภายหลังการประชุมหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีในการติดตามสถานการณ์น้ำ โดยได้ประเมินภาพรวมของสถานการณ์น้ำในขณะนี้ ว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนต่าง ๆ อยู่ในสภาวะปกติ แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังเขื่อนวชิราลงกรณ์ และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เนื่องจากในสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกหนัก จึงส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้ามามาก
ส่วนสาเหตุน้ำท่วมที่จังหวัดสุโขทัย เกิดจากน้ำหลาก ประกอบกับแนวกั้นน้ำชำรุดเกิดความเสียหาย ซึ่งต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมรับมือกับสถานการณ์ในปลายสัปดาห์นี้ที่มีฝนเข้ามาอีกแต่ไม่มาก อย่างไรก็ตาม คาดว่าปริมาณน้ำฝนในปีนี้จะน้อยกว่าปีที่ผ่านมาร้อยละ 20 ดังนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนมากนัก
นายรอยล ได้แถลงตอบโต้กรุงเทพมหานครที่ระบุว่า กบอ.ไม่ได้ระบายน้ำที่คลองระพีพัฒน์ ทำให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาบางส่วนเริ่มได้รับผลกระทบ ซึ่งนายรอยล กล่าวว่า ทาง กบอ.ได้พร่องน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา และเร่งระบายน้ำออกจากคลองระพีพัฒน์ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ต้องใช้เวลาในการระบาย 3-4 วัน ส่วนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ยังท่วมอยู่ เนื่องจากพื้นที่ยาวหลายกิโลเมตร จึงต้องใช้เวลาในการระบายน้ำออก แต่ยืนยันว่าไม่ได้กักน้ำไว้ที่คลองระพีพัฒน์อย่างแน่นอน
ขณะที่สำนักชลประทานที่ 12 แจ้งเตือนประชาชน จากฝนตกที่หนักในลุ่มแม่น้ำปิงในจังหวัดกำแพงเพชรและตากเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา คาดว่าจากนี้อีก -3วัน จะมีน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ในเกณฑ์ 1,800 – 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี และชัยนาทเพิ่มสูงขึ้น สำนักชลประทานที่ 12 จะบริหารจัดการน้ำหลากเข้าระบบชลประทานให้ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ 1,600 – 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มในบริเวณจังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา มีระดับสูงขึ้นประมาณ 50-100 เซนติเมตร จึงขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำเสี่ยงต่อน้ำล้นตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา เตรียมรับระดับน้ำที่สูงขึ้น และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด