ส.ต่อต้านสภาวะโลกร้อน ร้องรัฐฯให้ ปลอดประสพ-รอยล ควักเงินเยียวยากรณีน้ำท่วมนาข้าวอยุธยา
ตามที่รัฐบาลโดยคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ได้ทดสอบการระบายน้ำผ่านคลองในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมานั้น ปรากฎโดยชัดแจ้งแล้วว่าชาวนาที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มใน ต.บ้านสร้าง และ ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากน้ำในคลองชลประทานระพีพัฒน์ที่รับน้ำมาจากเขื่อนพระราม 6 และเป็นคลองชลประทานฝั่งตะวันออกที่ใช้เป็นเส้นทางปล่อยน้ำเข้าไปทดลองระบบป้องกันน้ำท่วมของกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการเพิ่มระดับการปล่อยน้ำผ่านคลองระพีพัฒน์จนเอ่อล้นทะลักท่วมพื้นที่นาข้าวนาปรังกว่า 1,000 ไร่ ซึ่งข้าวกำลังออกรวงแก่ใกล้จะเก็บเกี่ยวผลผลิตทำให้ชาวนาต้องรีบลอยคอเกี่ยวข้าวที่จมน้ำใส่เรือบรรทุกขึ้นฝั่งลำเรียงขึ้นรถนำไปตากให้แห้งโดยที่ไม่ได้รู้ตัวมาก่อนเลย
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดความเดือดร้อนและเสียหายแก่ชาวบ้านจริง ทั้งนี้ไม่ใช่เหตุสุดวิสัยที่รัฐบาลหรือ กบอ. จะใช้เป็นข้ออ้างหรือออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบไปได้ เนื่องจากเป็นน้ำที่ปล่อยออกมาจากเขื่อนในแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อมาตอบสนองความต้องการของรัฐบาลและหรือ กบอ. ที่ต้องการจัดอีเว้นท์หรือสร้างภาพในการบริหารจัดการน้ำเท่านั้น
สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ขอเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาแสดงความรับผิดชอบ และกล่าวขอโทษต่อพระแม่โพสพและประชาชนเจ้าของนาข้าวที่ถูกน้ำท่วมเสียหายดังกล่าวเสียโดยพลัน และเร่งรีบตรวจสอบและชดเชยเยียวยาความเสียหายให้กับชาวนาดังกล่าวโดยเร็วภายใน 3 วัน และเงินที่ชดเชยเยียวยาดังกล่าวต้องนำมาจากนายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธาน กบอ. และนายรอยล จิตรดอน ประธานอนุกรรมการติดตามวิเคราะห์สถานการณ์การณ์น้ำและจัดสรรน้ำใน กบอ.เท่านั้น ห้ามนำเงินที่มาจากภาษีของประชาชนคนทั้งประเทศมาชดเชยโดยเด็ดขาด เพราะนายปลอดประสพเคยออกมาพูดว่าหากเกิดความเสียหายตนเองจะเป็นผู้รับผิดชอบนั้นเอง
และขอเรียกร้องให้ยุติการทดสอบการระบายน้ำในวันที่ 7 กันยายนนี้โดยสิ้นเชิง เพื่อรักษานาข้าวของเกษตรกรชาวนาที่จะต้องสูญเสียเพิ่มมากขึ้นหากรัฐบาลและหรือ กบอ. เดินหน้าทดสอบระบบการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันออกต่อไป ทั้งนี้หากชาวนาหรือประชาชนรายใดที่ได้รับความเดือดร้อนและเสียหายจากกรณีดังกล่าว แล้วไม่ได้รับการชดเชยเยียวยาจากรัฐบาล ขอให้แจ้งสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนโดยด่วน เพื่อจะได้ดำเนินการเรียกร้องสิทธิให้กับผู้เดือดร้อนต่อไป
