ฝนตกชุกทางตอนบน ส่งผลน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ล่าสุด(4 ก.ย. 55) มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ 945 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (รับน้ำได้สูงสุด 3,590 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 5 เมตร

ส่วนที่เขื่อนเจ้าพระยา ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.00 เมตร(รทก.) มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 874 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (รับน้ำได้สูงสุด 2,840 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาต่ำกว่าตลิ่ง 5.28 เมตร ในขณะที่มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในเกณฑ์เฉลี่ยประมาณ 689 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (รับน้ำได้สูงสุด 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจุดนี้ยังเป็นจุดวัดปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะไหลผ่านเข้าสู่กรุงเทพฯและปริมณฑลด้วย)

แนวโน้มสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา พื้นที่ทางตอนบนของลุ่มน้ำมีฝนตกชุกกระจายในหลายพื้นที่ แต่ยังไม่ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่ง

สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา(4 ก.ย.) มีดังนี้ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 6,621 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 49 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 6,800 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 5,431 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 57 ของความจุอ่างฯสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง มีปริมาณน้ำ 69 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 65 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 30 ล้านลูกบาศก์เมตรเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 400 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 43 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 500 ล้านลูกบาศก์เมตร และ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 217 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 28 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 500 ล้านลูกบาศก์เมตร

แนวโน้มสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ส่วนใหญ่มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีฝนตกชุกกระจายทางภาคเหนือ แต่บางแห่งก็ยังอยู่ในเกณฑ์น้อย ซึ่งกรมชลประทานได้ให้โครงการชลประทานทุกแห่งติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมกับปรับแผนการจัดการน้ำ ให้สอดคล้องกับสภาวะฝนที่ตกลงมา เพื่อให้มีปริมาณน้ำสำรองไว้ในอ่างฯให้ได้มากที่สุด สำหรับใช้เป็นน้ำต้นทุนในช่วงฤดูแล้งหน้าที่จะมาถึงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

อนึ่ง สำหรับการทดลองการปล่อยน้ำผ่านกรุงเทพฯและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 5 – 7 ก.ย. 55 ของรัฐบาล นั้น กรมชลประทาน จะใช้น้ำที่มีอยู่ในระบบชลประทานของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีปริมาณน้ำอย่างเพียงพอ สำหรับสนับสนุนการทดลองการปล่อยน้ำในครั้งนี้