ธุรกิจพนันเอเชียแจ้งเกิด ไทยเดินเกมอย่างไร เมื่อถูกเพื่อนบ้านล้อม !!

ขยาอาณาจักรใหญ่ได้อีก!! ธุรกิจการพนันในภูมิภาคเอเชียขณะนี้เปิดกันให้คึกคัก รัฐบาลในหลายประเทศต่างลุกกันขึ้นมาสนับสนุนธุรกิจประเภทนี้กันแล้ว เนื่องจากเห็นผลแล้วว่า สร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล

มีการคาดการณ์ว่า อีกไม่กี่ปีข้างหน้า ธุรกิจพนันในภูมิภาคเอเชีย จะเติบโตแซงหน้า ‘ตลาดเก่า’ อย่างสหรัฐอเมริกาและยุโรป !!

ดร.รัตพงษ์ สอนสุภาพ อาจารย์ประจำวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เจ้าของผลงานวิจัย “บ่อนการพนันตามแนวชายแดน: ผลกระทบและแนวทางการจัดการ” เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า ธุรกิจเกมการพนันในเอเชีย กำลังแจ้งเกิดเป็นตลาดใหม่ และเป็นตลาดที่ถูกกฎหมายใหญ่สุดในโลก

จากเดิมที่ในปี 2553 มีมูลค่า 34,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คาดว่า เมื่อสิ้นปี 2558 ตลาดในภูมิภาคนี้จะโตเฉลี่ยร้อยละ 18.3 ต่อปี

“ถ้านับจำนวนบ่อนการพนันตามแนวชายแดนและในประเทศเพื่อนบ้านของไทยขณะนี้ จะพบว่า กัมพูชามีบ่อนถูกกฎหมาย 10 แห่ง พม่ามี 5 แห่ง ลาว 3 แห่ง มาเลเซียและสิงคโปร์มีประมาณ 3-4 แห่ง โดยเฉพาะในสิงคโปร์นั้น ธุรกิจพนันมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็นเพราะรัฐบาลพยายามแปลงร่างให้บ่อนการพนันแบบดั่งเดิม กลายสภาพเป็นแหล่งบันเทิงกึ่งรีสอร์ท เช่น โครงการ Integrated Resort เพื่อหวังกระตุ้นการท่องเที่ยวควบคู่กันไป”

ดันบ่อนถูก กม. สร้างรายได้ภาครัฐ

ส่วนปัจจัยที่ผลักดันให้ธุรกิจพนันในเอเชียเติบโตได้มากขนาดนี้นั้น ดร.รัตพงษ์ ระบุว่า มาจากสาเหตุอย่างน้อย 2 ประการคือ การเปิดบ่อนถูกกฎหมายทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น และพื้นฐานของคนเอเชียส่วนใหญ่ชอบเล่นการพนันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

เรื่องนี้คงต้องย้อนกลับมาดูประเทศไทย ข้อเท็จจริงคือในบ้านเรา การพนันถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ยังพบว่า มีคนไทยจำนวนมากเล่นการพนัน ทำให้มีการลักลอบเปิดบ่อนเล่นพนันกันเรื่อยมา แม้จำนวนบ่อนจะปรับขึ้น-ลงบ้างตามความเข้มงวดของทางการ

จากการศึกษาข้อมูลของอาจารย์สังศิต พิริยะรังสรรค์ ข้อมูลของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เคยเปิดเผยก่อนหน้านี้ค่อนข้างตรงกันว่า บ่อนพนันในประเทศไทยมีประมาณ 1,500 แห่ง ขีดเส้นใต้ทุกแห่งเป็นบ่อนผิดกฎหมาย ลักลอบเล่น แต่เอาเข้าจริงการที่บ่อนจะเปิดได้นั้น ต้องได้รับไฟเขียวจากเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีหน้าที่จับกุม ปราบปรามในพื้นที่เสียก่อน

ซึ่งไฟเขียวที่ว่านี้แลกมาด้วย ‘ข้อตกลง’ ที่เรียกว่า 'ค่าเช่าทางเศรษฐกิจ' มีน้ำหนักต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ ในจังหวัดที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดีค่าตอบแทนก็ต้องสูงตามไป เช่นในพื้นที่กรุงเทพฯ บ่อนย่านเตาปูน ถูกจับมีข่าวกันไป สุดท้ายก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไร ไม่ได้ทำอะไร

คำถามคือกฎหมายบังคับใช้ได้จริงหรือไม่ หรือเป็นไปในลักษณะวิ่งไล่จับกันอยู่อย่างนี้

คนไทย 90% แห่เล่นพนันบ่อนชายแดน

ถึงกระนั้น เมื่อเส้นทางการพนัน ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศ เล่นใน ‘บ้าน’ ไม่ได้ก็ออกไปเล่นข้างนอก ข้อมูลจึงพบว่าคนไทยร้อยละ 90 นิยมเข้าไปลุ้นหน้าไพ่ในบ่อนพนันตามแนวชายแดน โดยทำทีเข้าไปในลักษณะส่วนบุคคล และจัดเป็นกรุ๊ปทัวร์เพื่อไปท่องเที่ยว แต่จริงๆ แล้วมีจุดประสงค์เข้าไปเล่นพนันโดยเฉพาะ

ที่สำคัญคนกลุ่มนี้ยังมีตั้งแต่กลุ่มเยาวชนไปจนถึงผู้สูงอายุ เพราะปัจจุบันบ่อนพนันชายแดนได้ปรับกลยุทธ์ ขยายฐานผู้เล่นหน้าใหม่ นำระบบไอทีเข้ามาเป็นส่วนผสม กลายเป็นการพนันระบบออนไลน์ต่างๆ

“ทางเลือกของสังคมไทยขณะนี้ ในเรื่องบ่อนการพนัน ผมเห็นว่า มีทางออกได้แค่ 2 ทางคือ 1.รัฐบาลมีนโยบายไปเลยว่าจะเปิดบ่อนถูกกฎหมาย ภายใต้เงื่อนไขการสร้างความรู้ความเข้าใจต่อสังคมให้เกิดขึ้นชัดเจน เข้าไปบริหารจัดการประเภทการพนันที่มีผลกระทบมาก รัฐต้องมีความโปร่งใส รับผิดชอบต่อสังคมสูง เพราะเรื่องนี้ก็มีข้อดีตรงที่คนไทยจำนวนหนึ่งจะมีงานทำ ประเทศมีรายได้

หรือ 2.ไม่อนุญาตให้เปิดบ่อนถูกกฎหมาย ปล่อยให้เป็นไปตามสถานการณ์ที่เป็นจริง ธุรกิจใต้ดินถูกเจ้าหน้าที่รัฐ เรียกเก็บเงิน ภาพข่าวจับกุมเป็นแค่ภาพลวงตา เครือข่าย ความสัมพันธ์ต่างตอบแทนระหว่างเจ้าของบ่อนเจ้าหน้าที่รัฐ ปรากฏการณ์คนหลั่งไหลไปเล่นการพนันในประเทศเพื่อนบ้าน ช่วงวันหยุดยาว ” ผู้วิจัยสรุป พร้อมบอกว่า  เรามีทางเลือกแค่เพียง 2 ทาง ต้องตัดสินใจแล้ว

พม่า ลาว ลุยเปิดบ่อน ก้าวข้าวข้อถกเถียง

ด้านรศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะที่ผู้ที่ติดตามสถานการณ์การพนันมานาน และมีผลการวิจัยตีพิมพ์หลายฉบับ ให้ความเห็นไปทิศทางที่สอดคล้องว่า แนวโน้มธุรกิจคาสิโนในเอเชียกำลังเติบโตขึ้น โดยมาเก๊าและสิงคโปร์ จะเป็นแหล่งสร้างเม็ดเงินได้อย่างมหาศาล

ในช่วง 10-15 ปีต่อจากนี้ คาสิโนในสหรัฐอเมริกาและยุโรปจะมีแนวโน้มตกต่ำลงเรื่อยๆ เพราะคนที่เคยเดินทางไปเล่นพนันในประเทศตะวันตก ไม่ต้องเดินทางไกล เนื่องจากรัฐบาลในประเทศเอเชียหันมาเปิดคาสิโนกันโดยทั่วไปแล้ว

แต่ประเด็นที่น่าสนใจ และเป็นสิ่งที่สังคมไทยต้องขบคิดคือ การเปิดคาสิโนในสิงคโปร์ทำได้อย่างไร ทั้งที่สมัยนายลี กวนยู เป็นนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ เขาต่อต้านการเปิดคาสิโนมาโดยตลอด แต่ในที่สุดสิงคโปร์ก็ตัดสินใจเปิดคาสิโนกึ่งรีสอร์ท สร้างรายได้ให้กับประเทศปีละหลายแสนล้านบาทได้ 

เช่นเดียวกับใน พม่า ลาว ทั้งที่มีวัฒนธรรมใกล้เคียงกับประเทศไทย แต่รัฐบาลของประเทศเหล่านี้สามารถก้าวพ้นไปจากข้อถกเถียงเรื่องศีลธรรม ความล้มเหลวของนักการพนัน เขาใช้เห็นผลอะไรมาอธิบายกับประชาชน 

...หรือรัฐบาลครอบงำ ใช้กำลังบีบบังคับให้คนยอมรับนโยบายของรัฐบาล

การรับรู้เรื่องศีลธรรม ทัศนคติของคนในประเทศนั้นเปลี่ยนแปลงไป 

หรือการที่รัฐของประเทศเพื่อนบ้านกลายเป็นผู้ที่ส่งเสริมการพนัน เพราะมีพลังทางการเมืองใหม่เกิดขึ้น มีกลุ่มทุนเข้าไปกดดัน เสนอผลประโยชน์ เช่น คาสิโนกัมพูชา เห็นชัดเป็นเรื่องผลประโยชน์ หลายบ่อนในกัมพูชาเป็นของนักการเมืองไทย สิงคโปร์เปิดคาสิโนให้กลไกราคาทำงาน ส่วนพม่ายังไม่ชัดเจน 

ไทยถูกประเทศเพื่อนบ้านล้อมทุกด้าน

ขณะที่ประเทศไทยข้อถกเถียงต่างๆ ทั้งเรื่องผลกระทบต่อการนับถือศาสนาพุทธ จำนวนผู้เสพติดการพนันที่จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และไม่สามารถทำให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยยอมรับได้ บ้านเรายังไม่มีข้อยุติอะไร ทั้งที่สถานการณ์ของเมืองไทยขณะนี้คือ ถูกประเทศเพื่อนบ้านล้อมทุกด้าน จำนวนคนไทยที่ออกไปเล่นการพนันในประเทศเพื่อนบ้านคิดคราวๆ เฉลี่ยแล้วประมาณปีละ 4 ล้านคน

มีเม็ดเงินที่ไหลออกราวๆ 1 แสนล้านบาทต่อปี !!

...คำถามคือ ทฤษฎีที่ใช้ควบคุมยังสมเหตุสมผลหรือไม่ เมื่อใน 220 ประเทศทั่วโลก ยกเลิกทฤษฎีนี้ไปแล้ว!

เขามองไกลไปอีก 3 ปีข้างหน้าเมื่อประชาคมอาเซียนเริ่มต้น การเคลื่อนย้ายเงินทุน การเคลื่อนย้ายแรงงาน รวมถึงการพัฒนาโครงการสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟความเร็วสูง จะยิ่งทำให้เม็ดเงินในคาสิในประเทศเพื่อนบ้านเติบโตขึ้นมาก มีกลุ่มคนจีนเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดในตลาดพนันอาเซียน

และหากรัฐบาลไทยยังมีนโยบายอย่างที่เป็นอยู่ คือ ไม่อนุญาตให้มีคาสิโนที่ถูกกฎหมาย การเคลื่อนย้ายของทุนและแรงงานที่เป็นไปได้ง่ายมากขึ้น ก็เชื่อว่าอาจจะทำให้คนไทยหันไปตั้งคาสิโนที่ถูกกฎหมาย ในประเทศลาว กัมพูชา ซึ่งการเดินทางเป็นไปอย่างสะดวก

“เราถูกประเทศเพื่อนบ้านเอาเปรียบมาก เพราะรู้ว่าประเทศไทยไม่ให้เปิดคาสิโน จึงเลือกเข้ามาเปิดคาสิโนติดกับชายแดนไทย 14-15 แห่งรอบทิศ เพื่อดึงลูกค้าชาวไทย ซึ่งนโยบายอย่างนี้ไม่ค่อยยุติธรรมกับรัฐบาลไทย ทำให้เราเสียเปรียบประเทศเพื่อนบ้าน” อาจารย์สังศิตระบุ

ส่วนถ้าประเทศไทยจะมีการเปิดคาสิโนที่ถูกกฎหมายนั้น นักวิชาการายนี้ก็เชื่อว่าจะสร้างรายได้ให้กับประเทศค่อนข้างมาก แต่เมื่อเป็นนโยบายที่ 'อ่อนไหว' ต้องมีการหารือกับประชาชนให้เข้าใจ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมคิด ตัดสินใจ ข้อเสนอในการป้องกันผล การชดเชยความเสียหายของสังคมที่จะเกิดขึ้นจากการพนัน ไม่ควรใช้วิธีจัดตั้งโดยไม่สนใจเสียงของประชาชน 

ประการที่สำคัญคือ การประมูลคาสิโนที่ถูกกฎหมายต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่ให้นักการเมืองเข้ามาถือครอง เป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะโดยเปิดเผย หรือเป็นนอมินีก็ตาม

ส่วนใครที่คิดว่าบ่อนการพนันในประเทศไทยจะพังพาบลงไปนั้น ดร.สังศิต มองว่า แค่ปัญหาลดลง และไม่ใช่ประเด็นใหญ่อีกต่อไป เพราะบ่อนพนันในประเทศไทยที่ถูกกฎหมายมีขนาดเงินหมุนเวียนน้อยมาก เมื่อเทียบกับบ่อนพนันในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ลดความสำคัญลง คงไม่ถึงกับจบชีวิต เพราะยังมีตำรวจ นักการเมือง โดยเฉพาะนักการเมืองท้องถิ่นจำนวนหนึ่งที่ได้ผลประโยชน์ ค่อยสนับสนุนให้เปิดบ่อนผิดกฎหมายต่อไป