เขื่อนใหญ่หลายแห่ง น้ำยังอยู่ในเกณฑ์น้อย
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำกรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ ล่าสุด(16 ส.ค. 55) มีปริมาณน้ำรวมกัน จำนวน 40,389 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 58 ของความจุอ่างฯขนาดใหญ่รวมกันทั้งหมด สามารถรองรับน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ได้อีกกว่า 29,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ในภาคเหนือ ยังสามารถรองรับน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ได้อีกกว่า 13,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
อาทิ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 6,336 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 47 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 7,100 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 4,860 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 51 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 4,600 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จ.เชียงใหม่ มีปริมาณน้ำ 97 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 37 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 160 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง มีปริมาณน้ำ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 38 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 60 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 233 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 700 ล้านลูกบาศก์เมตร
แนวโน้มสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ภาคเหนือ แม้ว่าส่วนใหญ่จะมีน้ำไหลลงอ่างฯ มากขึ้น แต่ปริมาณน้ำก็ยังอยู่ในเกณฑ์น้อย และแม้ว่าจะมีฝนตกชุก แต่ส่วนใหญ่จะตกในพื้นที่ท้ายเขื่อนมากกว่าด้านเหนือเขื่อน
ส่วนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ต่างๆ ยังสามารถรองรับน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ได้อีกกว่า 5,500 ล้านลูกบาศก์เมตร
อาทิ เขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี มีปริมาณน้ำ 29 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 21 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 100 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร มีปริมาณน้ำ 276 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 53 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 200 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ มีปริมาณน้ำ 462 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 23 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 1,500 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนลำพระเพลิง จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำ 19 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 17 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 90 ล้านลูกบาศก์เมตร แนวโน้มเขื่อนหลายแห่งในพื้นที่ภาคอีสาน ปริมาณน้ำยังคงอยู่ในเกณฑ์น้อย เนื่องจากมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯค่อนข้างน้อยมาก
ส่วนในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก ที่ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 103 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 13 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 680 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนกระเสียว จ.สุพรรณบุรี มีปริมาณน้ำ 70 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 29 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 170 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก มีปริมาณน้ำ 72 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 32 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 150 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนบางพระ จ.ชลบุรี มีปริมาณน้ำ 64 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 55 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 50 ล้านลูกบาศก์เมตร
แนวโน้มสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก หลายแห่งยังมีน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย ซึ่งกรมชลประทาน จะได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดต่อไป