ยุติการดำเนินการตามมติครม. 24 เมษายน 2555
วันที่ 14 สิงหาคม 2555 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอดังนี้
1. เห็นชอบให้ยุติการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2555 เรื่อง การเร่งรัดดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำและป้องกันแก้ไขปัญหาอุทกภัย ที่กำหนดให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพหลักในการพิจารณากลั่นกรองรายละเอียด ความสมบูรณ์ของเอกสาร และความพร้อมของโครงการต่าง ๆ ในเบื้องต้นร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เช่น สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ) ก่อนนำเสนอคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยพิจารณาตามขั้นตอนตามระเบียบและอำนาจหน้าที่ต่อไป
2. ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการและการใช้จ่ายเงินกู้เพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 ตามขั้นตอนปกติต่อไป
ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วเห็นว่า ขณะนี้ได้มีการประกาศเชิญชวนผู้สนใจร่วมเสนอกรอบแนวคิด (conceptual plan) เพื่อออกแบบก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากรอบแนวคิดเพื่อออกแบบก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยเพื่อพิจารณาข้อเสนอกรอบแนวคิดฯ ที่จะใช้งบประมาณเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตของประเทศ พ.ศ. 2555 (350,000 ล้านบาท) ที่เหลืออยู่แล้ว
ประกอบกับมีการส่งคำขอรับการจัดสรรเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตของประเทศ พ.ศ. 2555 (350,000 ล้านบาท) ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2555 เรื่อง การเร่งรัดดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำและป้องกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยจำนวนลดลงแล้ว
ดังนั้น จึงสมควรให้ยุติการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2555 ข้างต้น เพื่อให้หน่วยงานของรัฐจัดทำรายละเอียดของโครงการ พร้อมกับวงเงินการใช้จ่ายที่ขอรับการจัดสรรจากเงินกู้เสนอต่อคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยเพื่อดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการและการใช้จ่ายเงินกู้เพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 ข้อ 13 ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติ
อนึ่ง ในส่วนของคำขอที่ยังคงค้างอยู่ในขั้นตอนที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะต้องร่วมกับสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณา จำนวน 256 โครงการนั้น ให้ทั้ง 3 หน่วยงานพิจารณาต่อไปจนแล้วเสร็จโดยเร็ว