รมว.กษ. เดินหน้าสร้างคันกันน้ำ อุทัยธานี-อยุธยา ป้องน้ำท่วมลุ่มเจ้าพระยา
รมว.กษ.-ประธาน กยอ. ลงพื้นที่วางแนวทางป้องน้ำท่วมลุ่มเจ้าพระยา เดินหน้าสร้างคันกั้นน้ำ ตั้งแต่อุทัยธานีถึงอยุธยา พร้อมเร่งสร้างประตูระบายน้ำพระงาม คาดแล้วเสร็จเดือน ก.ค. ทันรับน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยระหว่างการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานแนวคันกั้นน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา บริเวณจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี และพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) ว่า แนวทางการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย 2555 ในเขตแนวคันกั้นน้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วยแผนงาน 21 โครงการ งบประมาณรวม 1,829 ล้านบาท ปัจจุบันอนุมัติแล้ว 8 โครงการ งบประมาณ 540 ล้านบาท โดยโครงการต่างๆ จะรองรับการบริหารจัดการน้ำทั้งลุ่มน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“สำหรับการก่อสร้างแนวคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยานั้น จะเริ่มตั้งแต่จังหวัดอุทัยธานี ผ่านชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ยาวไปจนถึง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเบื้องต้นจะแบ่งการดำเนินการออกเป็นช่วงๆ ไปก่อน เพื่อรองรับสถานการณ์น้ำในฤดูฝนปี 2555”
นายธีระ กล่าวต่อว่า จากการที่กรมชลประทาน ได้จัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำเขื่อนเก็บกักน้ำหลัก และแผนบริหารจัดการน้ำของประเทศ ประจำปี 2555 มีการทบทวนเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำ รวมทั้งแผนการระบายน้ำของเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ไปแล้วนั้น โดยผลจากการปรับแผนดังกล่าว จะทำให้เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ มีแผนการระบายน้ำ ได้แก่ เดือนกุมภาพันธ์ 2,842 ล้านลูกบาศก์เมตร เดือนมีนาคม 3,038 ล้านลูกบาศก์เมตร และเดือนเมษายน 3,090 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้เมื่อสิ้นฤดูแล้ง ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2555 เขื่อนภูมิพล จะมีปริมาณน้ำคงเหลือ ร้อยละ 45 หรือ 6,044 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำคงเหลือ ร้อยละ 45 หรือ 4,242 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้มีพื้นที่ว่างในอ่างเก็บน้ำเพียงพอที่จะรองรับปริมาณน้ำฝนที่ตกในช่วง ฤดูน้ำหลากของปีนี้ โดยไม่มีปัญหาน้ำล้นอ่างฯ ลงมาท่วมพื้นที่ชุมชนและพื้นที่การเกษตรด้านท้ายเขื่อน เช่นกับที่เกิดขึ้นในปี 2554 อย่างแน่นอน
“นอกจากนี้ในส่วนของความคืบหน้าการก่อสร้างประตูระบายน้ำพระงาม อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ขึ้นมาใหม่ เพื่อทดแทนประตูระบายน้ำเดิมที่มีอายุกว่า 50 ปี ซึ่งได้รับความเสียหายจากอุทกภัยเมื่อปีที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างเริ่มการก่อสร้าง มีระยะเวลาดำเนินการ 6 เดือน ภายใต้งบประมาณ 145 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนกรกฎาคม 2555 ทันต่อการรองรับปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูน้ำหลาก และจะเป็นส่วนสำคัญในการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้อย่างเป็นระบบ”