ลุ้นความกล้า “สมศักดิ์” สวนคำสั่งศาล เดินตามมติพรรค
ยุติข้อถกเถียงคำสั่งศาล รธน. ส.ส. ปชป ชี้ทางออก ศาลต้องรีบชี้ขาด ขัด-ไม่ขัดอย่างไร ด้านอดีต ส.ส.ลำปาง จี้สภาเดินหน้าพิจารณา รธน.ให้จบ ฮึ่มเปิดประชุม ลงมติไม่ได้ ประธานสภาฯ ต้องลาออก
วันที่ 6 มิถุนายน สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดนิทรรศการ “มองรัฐสภาไทยผ่านเอกสารจดหมายเหตุ” เพื่อนำเสนอเนื้อหาที่สะท้อนอดีตของรัฐสภาไทย เนื่องในโอกาสที่รัฐสภาไทยดำเนินงานครบ 80 ปี ณ ห้องโถง อาคารรัฐสภา 1 ระหว่างวันที่ 6 มิถุนายน- 4 กรกฎาคม โดยในพิธีเปิดนิทรรศการ ได้มีการเสวนาเรื่อง “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในความทรงจำของข้าพเจ้า” โดยมีนายสุทัศน์ เงินหมื่น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และนายพินิจ จันทรสุรินทร์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดลำปาง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ร่วมเสวนา
นายสุทัศน์ กล่าวตอนหนึ่งถึง สถานการณ์หัวเรี่ยวหัวต่อของรัฐสภาเกี่ยวกับการพิจารณากฎหมายปรองดองและกฎหมายรัฐธรรมนูญในขณะนี้ว่า ความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าว ปัจจุบันแบ่งแยกออกเป็น 2 ฝ่ายอย่างชัดเจน แต่สุดท้ายนั้นจะเรียกประชุมหรือไม่ หน้าที่ การตัดสินใจอยู่ที่ประธานรัฐสภา ซึ่งมองได้หลายมุม จะหยุดตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ หรือจะเดินหน้าตามมติของพรรค ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นประเด็นสำคัญที่ตนกำลังรอฟังอยู่ อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวนั้นเห็นว่า ทางปลดล็อกที่ดีที่สุด คือศาลรัฐธรรมนูญ ควรรีบชี้ขาดว่า ขัดหรือไม่ขัดอย่างไร จะได้ไม่ต้องเถียงกันอีก
ด้านนายพินิจกล่าวถึงกรณีการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ม.291 ว่า รัฐธรรมนูญได้กำหนดขั้นตอนไว้อย่างชัดเจน ส่วนศาลรัฐธรรมนูญจะตีความอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ขณะนี้เมื่อกระบวนการเข้าสู่สภาแล้ว ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญให้จบ ภายใน 15 วันต้องประชุมเพื่อลงมติให้ได้ ถ้าทำผิดรัฐธรรมนูญเจ๊ง และถึงขั้น นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องลาออก
นายพินิจ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการตีความของศาลรัฐธรรมนูญนั้นก็ระบุชัดว่า แล้วแต่จะพิจารณา ก็รับฟังไว้ ไม่ต้องคัดค้าน ไม่ต้องทำอะไร แต่รัฐสภาต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญให้จบ ทั้งนี้ ฝ่ายนิติบัญญัติ มีหน้าที่ออกกฎหมาย พระราชบัญญัติ ให้ศาล องค์กรต่างๆ ไปปฏิบัติตาม เพื่อให้ความผาสุก ให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชน ฉะนั้น รัฐสภาจึงต้องยึดมั่น องค์กรต้องเดินหน้าต่อไปได้ ไม่เช่นนั้นตาย