รบ.ร่วมบริษัทประกันภัยเปิดตัว "กรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ" พร้อมขาย 28 มี.ค.นี้
รบ.ร่วมภาคเอกชนเปิดตัวกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติภายใต้แนวคิด มั่นใจประกันภัย ผสานใจ เพื่อชาติ นายกฯ ยันพร้อมเป็นหลักให้ริษัทประกัน และเรียกความเชื่อมั่นจากปชช.-ภาคเอกชน
วันที่ 28 มีนาคม นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดตัว "กรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ" อย่างเป็นทางการภายใต้แนวคิด "มั่นใจประกันภัย ผสานใจ เพื่อชาติ" ซึ่งให้ความคุ้มครองภัยพิบัติ 3 ภัย ได้แก่ น้ำท่วม แผ่นดินไหว และลมพายุ ที่เน้นประชาชน ผู้เอาประกันภัยเข้าถึงความคุ้มครองได้อย่างทั่วถึงและในอัตราดอกเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม ตลอดจนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในประเทศ ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการให้ได้รับความคุ้มครองทรัพย์สินและกิจการ พร้อมร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือเกี่ยวกับการประกันภัยต่อสำหรับความเสี่ยงภัยพิบัติ จำนวน 3 ฉบับ ระหว่าง กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ กับบริษัทไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) และบริษัทประกันวินาศภัยที่เข้าร่วมโครงการ ทั้ง 54 แห่ง ทั่วประเทศ และมอบกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติปฐมฤกษ์ให้แก่ตัวแทนกลุ่มบ้านที่อยู่อาศัย กลุ่ม SME และกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งจะเริ่มขายตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2555 เป็นต้นไป โดยมี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ภาคเอกชน บริษัทประกันวินาศภัย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมกันคิดและเสนอแนวทางออกให้กับประเทศ รวมถึงการเปิดตัว "กรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ" ขึ้นในวันนี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการที่ประเทศไทยประสบปัญหาวิกฤตอุทกภัยเมื่อปีที่ผ่านมา และถึงแม้รัฐบาลจะพยายามแก้ปัญหาโดยเร่งด่วน ทั้งการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนแล้วก็ตาม แต่การดำเนินการดังกล่าวให้เกิดเป็นรูปธรรมก็ต้องใช้ระยะเวลา
ขณะที่ การสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการกลับมาใช้ชีวิตตามปกติและภาคเอกชนในการขยายการลงทุนก็เป็นเรื่องที่มีความสำคัญเช่นกัน ดังนั้นรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้มีการประชุมหารือร่วมกันเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาและสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้น ทั้งการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนการแก้ปัญหาที่เกี่ยวกับการลงทุนที่เป็นโครงการในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน จำนวน 350,000 ล้านบาท รวมทั้งการแก้ไขปัญหาในเรื่องของการประกันภัยที่มีปัญหาไม่มีบริษัทประกันภัยใดที่จะรับประกันภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าว หรือหากมีการรับประกันภัยก็จะคิดอัตราดอกประกันภัยที่สูงเกินกว่าประชาชนและผู้เอาประกันภัยจะสามารถจ่ายเบี้ยประกันภัยได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ภาครัฐ ภาคเอกชน และบริษัทประกันภัยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ร่วมมือกันดำเนินการ ดังกล่าวขึ้น เพื่อยืนยันให้ประชาชนมีความมั่นใจว่ารัฐบาลมีเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการแก้ไขปัญหาจากมหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเปิดตัว "กรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ" ว่า การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนอย่างแท้จริง เพื่อให้มีระบบประกันภัยรองรับความต้องการของประชาชนที่ต้องการให้มีผู้ที่จะมาประกันให้เกิดความมั่นใจเกี่ยวกับความเสียหายที่อาจจะเกิดจากภัยพิบัติในอนาคต รวมถึงมีการดูแลในเรื่องของกระบวนการที่เกี่ยวกับเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ หรือทำอย่างไรให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถดำเนินการต่อไปได้ นอกจากนี้ยังให้มีการขยายขอบเขตระบบประกันภัยจากน้ำท่วม ให้สามารถครอบคลุมไปถึง ภัยแผ่นดินไหว และลมพายุ ด้วย ดังนั้นการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติฯ และการเปิดตัว "กรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ" จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะเรียกและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ขณะเดียวกันยังสร้างความมั่นใจให้กับบริษัทประกันภัยต่าง ๆ ได้มากขึ้น ส่งผลให้เบี้ยประกันภัยมีแนวโน้มที่ลดลงและมีอัตราเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม เป็นต้น
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมที่จะเป็นหลักกันให้กับบริษัทประกันภัยทุกบริษัท โดยรัฐบาลจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่และดีที่สุด รวมถึงบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วนเพื่อเรียกความเชื่อมั่นและสร้างความมั่นใจของประชาชนคนไทยและภาคเอกชนให้กลับมา โดยเฉพาะภาคเอกชนซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต้องได้รับความมั่นใจในวันนี้และขอให้การทำงานทุกอย่างประสบความสำเร็จด้วยดี