"วุฒิสาร" เคลียร์ "สนธิ" แล้ว ระบุเปิดปมปฏิวัติไม่เกิดประโยชน์
"วุฒิสาร" รับเคลียร์ พล.อ.สนธิแล้ว-กมธ.ปรองดองฯ ยอมถอนเสียงข้างมาก ระบุชัดไม่หวั่นรายงาน ส.ปกเกล้าจุดชนวนความขัดแย้ง เชื่อทุกฝ่ายมีวุฒิภาวะ-มีเกียรติ ตระหนักได้
วันที่ 24 มีนาคม รศ.วุฒิสาร ตันไชย รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า เปิดเผยถึงความคืบหน้าภายหลังการยื่นหนังสือแถลงจุดยืนของคณะผู้วิจัย สถาบันพระปกเกล้าต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎรว่า ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลินแล้ว โดยขอให้เข้าใจจุดยืนของคณะผู้วิจัยที่ห่วงว่ารายงานวิจัยฉบับดังกล่าวอาจถูกนำไปใช้สร้างความขัดแย้ง ซึ่งขณะนี้ทาง กมธ.ปรองดองได้ยอมถอนเสียงข้างมากออกจากรายงานแล้ว
“การเดินหน้าต่อจากนี้เป็นเรื่องของผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง นั่นก็คือ คณะกรรมาธิการ ส่วนคณะผู้วิจัยนั้นคิดว่าได้ทำดีที่สุดและสมบูรณ์ภายใต้ขอบเขตของงานวิจัย แต่อาจจะต้องมีการออกมาทำความเข้าใจบ้าง โดยเฉพาะกรณีที่เข้าใจผิด หรือคลาดเคลื่อนจากสาระสำคัญ ข้อเท็จจริงที่เรานำเสนอ ส่วนกรณีที่เป็นความเห็นนั้น สถาบันฯ คงไม่ชี้แจงหรือตอบโต้ เพราะความเห็นเป็นเสรีภาพ อีกทั้งยังเป็นเรื่องดีที่สังคมมีการวิพากษ์วิจารณ์ มีความเห็นและถกเถียงมากขึ้นในเรื่องนี้เพราะเป็นการสะท้อนบรรยากาศที่อยากเห็นความปรองดองเกิดขึ้น”
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ต้องการให้ พล.อ.สนธิ ออกมาพูดความจริงเกี่ยวกับเบื้องหลังการปฏิวัติปี 2549 นั้น รศ.วุฒิสาร กล่าวว่า ในเรื่องนี้งานวิจัยก็พยายามและนำเสนอว่า อย่าไปพยายามรื้อฟื้น ถ้าเราเริ่มต้นจากปฏิวัติแล้วเกิดปัญหา คนที่เห็นด้วยกับการปฏิวัติก็จะตั้งคำถามต่อไปอีก ซึ่งในที่สุดก็จะเกิดปัญหาและกลับสู่วังวนของการพูดซ้ำ ฉะนั้น เราควรที่จะมองไปข้างหน้า เพราะการรื้อฟื้นเรื่องที่อาจไม่เกิดประโยชน์กับสังคมหรือการปรองดอง ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง
ส่วนกรณีที่ พล.ต. สนั่นระบุว่า รายงานวิจัยฉบับนี้ไม่สามารถนำไปใช้ได้ เนื่องจากไม่ได้มีการรับฟังความเห็นของประชาชนนั้น รองเลขาธิการสถาบันระปกเกล้า กล่าวว่า ความจริงแล้วรายงานฉบับนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ข้อเสนอได้ระบุว่าต่อไปต้องไปรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ข้อเสนอนี้จึงไม่ได้เป็นข้อสรุปที่ไปรวบรวมความเห็นประชาชนแต่อย่างใด
“เราเสนอทางเลือกและวิธีนำไปสู่ความปรองดอง ซึ่งการสร้างบรรยากาศการปรองดอง กระบวนการหาความเห็นร่วมกัน การเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชนคือเป้าหมายของเรา ฉะนั้น พล.ต.สนั่น อาจเข้าใจว่านี่คือข้อสรุป แต่ถ้าฟังชัดๆ เราบอกว่ากระบวนการต่อจากนี้ไปสำคัญ”
เมื่อถามอีกว่า หากสุดท้ายแล้วรายงานวิจัยของสถาบันพระปกเกล้ากลายเป็นชนวนที่นำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ จะทำอย่างไร รศ.วุฒิสาร กล่าวว่า ตนคิดว่าความรอบคอบ วุฒิภาวะ ความมีเกียรติและการตระหนักถึงผลลัพธ์ที่ตามมาในการตัดสินใจในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นสิ่งที่สภาต้องตระหนัก เราเองได้แสดงความจุดยืน ในเรื่องความห่วงใยไปแล้ว เพราฉะนั้นจากนี้ไปทุกฝ่ายคงต้องตระหนักว่าควรจะตัดสินใจอย่างไร ด้วยวิธีการอย่างไร ในเวลาใด ทั้งนี้ เชื่อว่าทุกคนตระหนักได้