เหตุความไม่สงบ 3 จ.ชายแดนใต้ทำยอดเด็กกำพร้าพุ่ง!
เหตุความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนใต้ทำยอดเด็กกำพร้าพุ่ง! พบมีมากถึง 10,000 คน มูลนิธิสุข-แก้ว แก้วแดง หนุนดึงองค์กรเยาวชนระดับตำบล-สร้างกิจกรรมดูแลเด็กกำพร้า
ดร.รุ่ง แก้วแดง ประธานมูลนิธิสุข-แก้ว แก้วแดง ภายใต้การสนับสนุนของสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชนและครอบครัว สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวเปิดการประชุมจัดกิจกรรมดูแลเด็กกำพร้าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ จ.ยะลา ว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่ยาวนานมาเกือบ 8 ปี ส่งผลให้จำนวนเด็กกำพร้าในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเมื่อรวมกับปัญหาการหย่าร้าง และการเสียชีวิตด้วยสาเหตุอื่นๆ จะพบว่า ปัจจุบันในพื้นที่ดังกล่าวมีจำนวนเด็กกำพร้าสูงถึง 9,000-10,000 คน
“ขณะที่การดูแลเด็กกำพร้าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้นั้น พบว่ามีปัญหาเรื่องผู้ดูแลเด็กกำพร้า ซึ่งส่วนใหญ่เน้นการแจกสิ่งของ แต่ไม่ได้ให้ความรัก ความอบอุ่น หรือการดูแลที่ต่อเนื่อง ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ดูแลเด็กกำพร้ามักอยู่ในวัยชราทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ และเด็กกำพร้าส่วนหนึ่งต้องติดตามครอบครัวไปที่สวนยาง ทำให้ขาดโอกาสในการศึกษา”
ดร.รุ่ง กล่าวต่อว่า ทางมูลนิธิฯ จึงได้ให้เยาวชนในโครงการพัฒนาขีดความสามารถ องค์กรเยาวชนระดับตำบล 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว คิดรูปแบบกิจกรรมในการดูแลเด็กกำพร้าในฐานะที่เป็นเยาวชนด้วยกัน และเปลี่ยนบทบาทจากที่เคยเป็นผู้รับมาเป็นผู้ให้ โดยเน้นการให้ความรัก การเอาใจใส่ และการเป็นเพื่อน ซึ่งองค์กรเยาวชนฯ ได้เสนอ 4 รูปแบบกิจกรรมเพื่อช่วยดูแลเด็กกำพร้าดังนี้ 1.กิจกรรมสร้างภูมิคุ้มกัน เน้นการสร้างความอบอุ่น ความรัก เป็นพี่ เป็นเพื่อน 2.กิจกรรมอาชีพ 3.กิจกรรมกีฬา และ 4.กิจกรรมศิลปวัฒนธรรม
ด้านนายอับราน มอสู เจ้าหน้าที่โครงการดูแลเด็กกำพร้า มูลนิธิสุข-แก้ว แก้วแดง กล่าวว่า จากการสำรวจข้อมูลเด็กกำพร้าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ทั้งการลงพื้นที่สำรวจและเทียบเคียงข้อมูลอ้างอิงกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพบว่า ร้อยละ 50 ของเด็กกำพร้าในพื้นที่ทั้งหมด มีสาเหตุกำพร้าจากเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งขณะนี้มูลนิธิฯ ได้ใช้เครือข่ายองค์กรเยาวชนระดับตำบลที่กระจายอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ประมาณ 130 ตำบลเข้าไปดูแลเด็กกำพร้า
“เด็กๆ จากองค์กรเยาวชนจะลงพื้นที่ เพื่อเก็บข้อมูลเด็กกำพร้าในชุมชนของตนเองร่วมกับผู้นำชุมชน โต๊ะอิหม่าม หลังจากนั้นจะเป็นการออกไปเยี่ยมเยียน เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนและทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิ การนำต้นกล้าไปมอบให้กับเด็กกำพร้าปลูก ติดตามดูแลว่าต้นกล้าเจริญงอกงามดีหรือไม่ โดยต้นไม้นี้จะเป็นสื่อให้เด็กได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ได้มีเพื่อน เพราะสิ่งที่เด็กกำพร้าต้องการที่สุดคือความรัก”
ทั้งนี้ นายอับราน กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาความช่วยเหลือที่ลงไปในพื้นที่มักเป็นการให้สิ่งของหรือทุนทรัพย์ มอบเงิน 1,000-2,000 บาทแล้วก็หายไป ปีใหม่ก็นำของมาแจกใหม่อีกครั้ง ซึ่งไม่ใช่การดูแลอย่างยั่งยืน ต่างจากจัดกิจกรรมลักษณะดังกล่าวที่เชื่อว่าจะช่วยลดความรุนแรงในพื้นที่และปัญหายาเสพติดลงได้