แจ้งให้ทราบ
Current Item Layout Template is 'default-thaireform' does not exist
- Please correct this in the URL or in Content Type configuration.
- Using Template Layout: 'default'
เขื่อนนเรศวรชำรุดไม่ส่งผลกระทบต่อแผนส่งน้ำไปยังพื้นที่เพาะปลูก
วันที่ 10 เมษายน นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เดินทางมาตรวจสอบเขื่อนนเรศวร อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก จากการที่ได้รับทราบรายงานว่า มีบานระบายน้ำของเขื่อนชำรุดเสียหาย โดยพบว่า ที่เขื่อนเกิดความชำรุดเสียหายนั้นจริงๆแล้วความเสียหายเกิดแค่บานระบายน้ำเท่านั้น ตัวเขื่อน ความมั่นคงของเขื่อนทั้งหมดยังอยู่ในสภาพที่ดี มีการตรวจสอบแล้วไม่มีการทรุดหรือบิดเบี้ยวใดๆทั้งสิ้น
เรื่องบานระบายอาจจะมีความชำรุดเสียหายของลวดสลิงที่หมดประสิทธิภาพเพราะว่ายู่ในช่วงพอดีกับอายุการใช้งานซึ่งจะต้องมีการเปลี่ยนหรือสลับการใช้งานทุกๆ 2 ปี ปีนี้ก็เป็นปีที่ 2 พอดี ซึ่งเป็นช่วงน้ำน้อย แต่คาดว่ากรมชลประธานก็จะพยายามซ่อมแซมให้เสร็จก่อนฤดูน้ำมา หลังจากเดือน เมษายน-พฤษภาคม น่าจะเสร็จสิ้น
" ตอนนี้ปัญหาก็คือจะต้องรีบหาบานระบายน้ำของเขื่อนให้พบก่อน ถ้าหาไม่พบต้องผลิตขึ้นมาใหม่ คิดว่าน่าจะหาเจอ อาจต้องมีการลดน้ำเขื่อนลงบ้างเล็กน้อย"
ในส่วนของ ปริมาณน้ำที่เสียไปจะไม่มีผลกระทบกับแผนระบายน้ำ และไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการส่งน้ำไปยังพื้นที่เพาะปลูกแน่นอน เพราะเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมงแต่น้ำจำนวนนี้ก็ยังส่งไปที่เขื่อนเจ้าพระยายังสามารถใช้ประโยชน์ได้ ช่วงนี้เป็นช่วงที่ทางเขื่อนสิริกิติ์กำลังปล่อยน้ำมาจากด้านบนซึ่งมาทดแทนด้านพลังงานอยู่ดังนั้นไม่มีปัญหา ปริมาณน้ำที่ไหล 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
กรณีลวดสลิงที่มีการขาดจะต้องมีการตรวจสอบในรอบ 2 ปีและมีการบำรุงรักษา 1 ครั้ง ดังนั้นในส่วนนี้จะต้องมีการทบทวนใหม่เพราะลวดสลิงแช่น้ำตลอด และต้องมีการขยายผลไปที่อื่นแน่นอน เพราะถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของกรมชลประทาน ครั้งนี้โชคดีที่ชำรุดเสียหายในช่วงน้ำน้อยและคาดว่าวันนี้จะหาบานประตูระบายน้ำให้ครบและต้องมีการเปลี่ยนลวดสลิงใหม่
ก่อสร้างระบบระบายน้ำป้องกันน้ำท่วมศูนย์การประชุมฯ จ.เชียงใหม่
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน โดยสำนักชลประทานที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการก่อสร้างระบบระบายน้ำและการจัดหาแหล่งน้ำ เพื่อสนับสนุนพื้นที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งดำเนินการโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
โดยสำนักชลประทานที่ 1 ได้วางแนวทางในการดำเนินโครงการ และสำรวจรายละเอียดภูมิประเทศ พร้อมออกแบบรายละเอียดโครงการแล้วเสร็จทั้งหมด ในการสนับสนุนพื้นที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ โดยการแบ่งกิจกรรมการก่อสร้างออกเป็น 3 โครงการ ได้แก่ 1) อาคารบังคับน้ำ พร้อมอาคารประกอบ ห้วยช่างเคี่ยน 2) อาคารบังคับน้ำ พร้อมอาคารประกอบ โครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยตัวเมืองเชียงใหม่(ฝั่งตะวันตก) และ 3) การปรับปรุงคลอง 16L – RMC พร้อมอาคารประกอบ โครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยตัวเมืองเชียงใหม่(ฝั่งตะวันตก)
ปัจจุบันกำลังดำเนินการก่อสร้างท่อลอดถนนพร้อมอาคารประกอบ ทำนบดินห้วยแม่หยวกน้อย และการปรับปรุงอาคาร Drain Culvert คลองส่งน้ำสายใหญ่แม่แตง พร้อมอาคารระบายน้ำล้นของสระเก็บน้ำแห่งที่ 2
สำหรับแนวทางในการก่อสร้างระบบระบายน้ำของศูนย์ประชุมฯ นั้น จะทำการก่อสร้างระบบระบายน้ำจากพื้นที่ศูนย์ประชุมฯ ไปเชื่อมกับระบบระบายน้ำด้านท้ายที่มีอยู่เดิม คือ ระบายน้ำลงสระเก็บน้ำห้วยแม่หยวก แล้วระบายผ่านลำห้วยแม่หยวก ลอดแนวถนนสาย 107(สายเชียงใหม่ – ฝาง) จากนั้นจะระบายน้ำเข้าคลองส่งน้ำสาย 16L – RMC ของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แตง ก่อนระบายลงคลองแม่ข่า และไหลลงสู่แม่น้ำปิงตามลำดับ หากดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมด จะสามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง ที่เกิดจากน้ำไหลหลากในลำห้วยแม่หยวกน้อยเข้าสู่พื้นที่ศูนย์ประชุมฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ พื้นที่บริเวณตอนบนของลุ่มน้ำแม่หยวกน้อย ที่อยู่เหนือที่ตั้งของศูนย์ประชุมฯ ซึ่งมีแหล่งเก็บกักน้ำเดิม ที่สามารถทำการปรับปรุง ขุดลอก ขุดขยาย และมีพื้นที่ว่างเปล่าที่สามารถขุดสระเก็บน้ำขึ้นมาใหม่ได้ เป็นการเพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำสำหรับรองรับปริมาณน้ำหลากที่จะเกิดขึ้นได้ในช่วงฤดูฝน
ส่วนในช่วงฤดูแล้ง ได้วางแนวทางการผันน้ำจากห้วยช่างเคี่ยน(แง่ซ้าย) และอ่างเก็บน้ำแม่จอกหลวง มาเติมลงแหล่งน้ำทางตอนบนของลำน้ำแม่หยวกน้อยและภายในศูนย์ประชุมฯ ให้เต็มความจุเก็บกักตลอดทั้งปี ซึ่งการผันน้ำจากห้วยช่างเคียน(แง่ซ้าย) มาลงลำห้วยแม่หยวกน้อย นอกจากจะส่งน้ำเพื่อสนับสนุนพื้นที่ศูนย์ประชุมฯแล้ว ยังเป็นการผันน้ำไปเติมให้กับแหล่งน้ำหรือลำห้วยธรรมชาติต่างๆ ที่อยู่ทางตอนล่าง อาทิ สระเก็บน้ำห้วยแม่หยวก ลำห้วยแม่หยวก เพื่อใช้ประโยชน์ในหน้าแล้ง ก่อนที่จะระบายลงคลองแม่ข่าเพื่อบำบัดน้ำที่เน่าเสียจากชุมชนเมืองเชียงใหม่ต่อไป