หอการค้าฯ แถลงขอบคุณรัฐบาลทบทวนร่างพ.ร.ฎ.อภัยโทษ ชนวนความแตกแยก
แถลงการณ์
หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
ตามที่ได้เกิดอุทกภัยร้ายแรงขึ้นในประเทศไทยและยังดำรงอยู่ในขณะนี้ ผลของอุทกภัยได้ทำให้เกิดความเสียหายทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม ต่อประชาชน ภาคการเกษตร อุตสาหกรรม ภาคบริการและการค้า เป็นจำนวนมาก หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ขอแสดงความเสียใจในความทุกข์ทรมานของประชาชนในพื้นที่ประสบภัยและต้องรับภาระดังกล่าวและเห็นใจอย่างที่สุด
หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเห็นว่า การที่รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) และ คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) เป็นการส่งสัญญาณที่ดีต่อการเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งใน และต่างประเทศ ซึ่งหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ยินดีและจะสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่ ต่อการดำเนินงานของทั้ง 2 คณะกรรมการดังกล่าว
และในวันที่ 28 พฤศจิกายน นี้ ทางภาคเอกชนในนามของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันหรือ กกร. จะมีการประชุมร่วมกับทาง สมาพันธ์องค์กรเศรษฐกิจแห่งญี่ปุ่น หรือ Keidanren ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการพบปะหารือประจำปี ในการนี้เราได้เชิญ รองนายกฯ และ รมว. กระทรวงพาณิชย์ คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง และ ดร.วีรพงศ์ รามางกูร ร่วมเดินทางไปกับเราด้วย เพื่อร่วมพบปะและให้ความมั่นใจ
ในการลงทุน ต่อนักลงทุนชาวญี่ปุ่น
นอกจากนี้ เราขอสนับสนุนท่าทีของรัฐบาลไทย ในการที่จะเจรจาภายใต้กรอบความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ Trans Pacific Partnership (TPP) รวมทั้งกรอบการค้าเสรีอื่นๆ ที่จะเจรจาเพิ่มขึ้น เช่นกับสหภาพยุโรปและกับประเทศในกลุ่ม APEC หรือที่เรียกว่า Free Trade Area of The Asia Pacific (FTAAP) ซึ่งในอนาคตอันใกล้ การที่ประเทศใดประเทศหนึ่งจะอยู่ได้อย่างมีความมั่นคงทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีความร่วมมือกันกับมิตรประเทศในหลายๆ ด้าน
และ ขอขอบคุณรัฐบาลที่ได้มีการทบทวนร่างพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ ซึ่งอาจเป็นชนวนที่ทำให้เกิดความแตกแยก แตกสามัคคีและอาจก่อให้เกิดความรุนแรง กระทบกับความเชื่อมั่นผู้ลงทุนทั้งใน และต่างประเทศ
หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย อันเป็นองค์กรศูนย์รวมของภาคธุรกิจและเป็นผู้ริเริ่มเป็นผู้นำโครงการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยความร่วมมือสนับสนุนจากองค์กรต่าง ๆ รวม 32 องค์กร ได้ร่วมกันจัดงานเดินรณรงค์ต่อต้านคอร์รัปชั่น เมื่อวันที่ 25 กันยายนและ ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี รวมถึงผู้นำฝ่ายค้านได้มาร่วมงาน ร่วมสนับสนุนโครงการรณรงค์ฯ อีกทั้ง การปราบปรามการทุจริตและคอร์รัปชันถือเป็นมาตรการเร่งด่วนลำดับที่ 6 ที่พรรคเพื่อไทยได้เคยแถลงการณ์ไว้ และเป็นหนึ่งในนโยบายรัฐที่ประกาศไว้ต่อรัฐสภาและจุดยืนของหอการค้าไทย
สำหรับการขอพระราชทานอภัยโทษใด ๆ ในอนาคต ขอให้การกระทำความผิดในคดียาเสพติด และคอร์รัปชั่น ไม่อยู่ในขอบข่ายของการได้รับการอภัยโทษ ในพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ