ครม.สรุปผลการประชุมหารือเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาของ ขปส.
ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี 8 มีนาคม 2554
เรื่อง สรุปผลการประชุมหารือเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบสรุปผลการประชุมหารือเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และมอบหมายให้รัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการ ดังนี้
1. กรณีชุมชนหมู่บ้านพิมาน เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร เห็นควรให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค) เจรจากับเจ้าหนี้ทั้ง 3 ราย เพื่อขอแบ่งซื้อที่ดิน จำนวน 10 ไร่ เพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยให้กับชุมชนหมู่บ้านพิมาน โดยใช้งบประมาณสินเชื่อของโครงการบ้านมั่นคง
2. กรณีชุมชนทับยาง จังหวัดพังงา เห็นควรให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ให้ความช่วยเหลือราษฎรด้านทนายความ และการดำเนินคดีในศาลปกครอง
3. กรณีชุมชนหนองกินเพล และชุมชนหาดเว จังหวัดอุบลราชธานี เห็นควรให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายถาวร เสนเนียม) เร่งรัดกรมที่ดินให้ดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินตามความเห็นของกรมสอบสวนคดีพิเศษ
4. กรณีสุสานชาวเลบ้านสิเหร่ จังหวัดภูเก็ต เห็นควรให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายถาวร เสนเนียม) เร่งรัดกรมที่ดินให้ดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
5. กรณีอ่างเก็บน้ำห้วยฝั่งแดง จังหวัดอุบลราชธานี เห็นควรให้จังหวัดอุบลราชธานีเร่งรัดติดตามให้มีการดำเนินการตามมติคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหากรณีราษฎรได้รับผลกระทบจากโครงการชลประทานอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กห้วยฝั่งแดงต่อไป
6. กรณีโรงไฟฟ้าชีวมวล 4 พื้นที่ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย อุบลราชธานี ตาก และ ลำพูน เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลควบคุมปัญหาความขัดแย้งระหว่างชุมชนกับบริษัท พลังงานสะอาดดี 2 จำกัด ที่บ้านไตรแก้ว ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย และจังหวัดอื่น ๆ และขอให้มีการพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ โดยมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) เป็นประธานอนุกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนภาคประชาชน ร่วมเป็นอนุกรรมการ เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป
7. กรณีการให้สัมปทานเหมืองแร่ ได้แก่
7.1 เหมืองแร่ทองคำในพื้นที่จังหวัด พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
7.2 เหมืองหินบริเวณเขาคูหา อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา
7.3 เหมืองสังกะสี แม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
ในกรณีที่จะมีการขอสัมปทานการทำเหมืองแร่ใหม่นั้น ให้ชะลอการให้สัมปทานไว้ก่อน ส่วนที่มีการให้สัมปทานไปแล้วให้กระทรวงอุตสาหกรรมไปตรวจสอบความเหมาะสมอีกครั้ง และเร่งรัดการดูแลในเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนด้วย
8. กรณีโครงการนำร่องธนาคารที่ดินภาคเหนือ 5 หมู่บ้าน ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554 เห็นชอบให้ดำเนินโครงการดังกล่าวในกรอบวงเงิน 167 ล้านบาท เห็นควรให้ดำเนินการตามความเห็นของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่สาธารณประโยชน์ ที่ดินเอกชนปล่อยทิ้งร้าง (ซึ่งมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายถาวร เสนเนียม เป็นประธานอนุกรรมการ) โดยดำเนินการในพื้นที่ 5 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านไร่ดง หมู่ 3 ตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน บ้านแม่อาว หมู่ 3 ตำบลนครเจดีย์ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน บ้านแพะใต้ หมู่ 7 ตำบลหนองล่อง อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน บ้านท่ากอม่วง ตำบลหนองปลาสะวาย อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน และบ้านโป่ง หมู่ 2 ตำบลแม่แฝก อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
เรื่อง ผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่สาธารณประโยชน์ ที่ดินเอกชนปล่อยทิ้งร้าง และเหมืองแร่
คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่สาธารณประโยชน์ ที่ดินเอกชนปล่อยทิ้งร้างและเหมืองแร่ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
ตามคำสั่งคณะกรรมการอำนวยการเพื่อแก้ไขปัญหาของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย ที่ 1/2552 ลงวันที่ 24 มีนาคม 2552 ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายถาวร เสนเนียม) เป็นประธานในคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่สาธารณประโยชน์ ที่ดินเอกชนปล่อยทิ้งร้าง และเหมืองแร่ เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย รวม 3 กรณี 19 ปัญหา นั้น
คณะอนุกรรมการฯ ได้จัดให้มีการประชุมเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทยแล้ว 6 ครั้ง ซึ่งสรุปได้ดังนี้
1. กรณีปัญหาที่สาธารณประโยชน์
1.1 ยุติปัญหาแล้ว 12 ปัญหา ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เชียงราย พะเยา ชัยภูมิ ยโสธร และ กรุงเทพมหานคร โดยให้นำนโยบายเรื่องโฉนดชุมชนมาใช้ในการแก้ไขปัญหา
1.2 อยู่ระหว่างการดำเนินการของจังหวัด 5 ปัญหา ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิและร้อยเอ็ด
2. กรณีปัญหาที่ดินเอกชนปล่อยทิ้งร้าง
2.1 โครงการนำร่องเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกรรายย่อยไทยเข้มแข็งภายใต้กองทุนธนาคารที่ดิน
รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงมหาดไทย (นายถาวร เสนเนียม) ในฐานะประธานอนุกรรมการฯ ได้เสนอให้มีการจัดซื้อที่ดิน เพื่อดำเนินการเป็นพื้นที่นำร่องในรูปแบบของธนาคารที่ดิน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้อนุมัติในหลักการ โดยให้การสนับสนุนงบประมาณ เป็นเงินจำนวน 167,960,000 บาท (หนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดล้านเก้าแสนหกหมื่นบาทถ้วน) ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554 อนุมัติงบประมาณรายจ่าย งบกลางรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลางรายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ “โครงการนำร่องการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกรรายย่อยไทยเข้มแข็งภายใต้นโยบายกองทุนธนาคารที่ดิน” วงเงิน 167,960,000 บาท (หนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดล้านเก้าแสนหกหมื่นบาทถ้วน) ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
คณะอนุกรรมการฯ ได้ดำเนินการ โดยมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานจัดหาเพื่อใช้เป็นพื้นที่นำร่องเรื่องธนาคารที่ดินเพื่อรองรับนโยบายการกระจายการถือครองที่ดินของรัฐบาลจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูนเป็นประธาน หน่วยงานราชการ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) และผู้แทนภาคประชาชน เป็นคณะทำงาน ทำหน้าที่พิจารณาในการจัดซื้อที่ดินในพื้นที่นำร่อง รวม 5 พื้นที่ โดยมีคณะทำงานเร่งรัดติดตามผลการดำเนินการจัดหาที่ดินและการจัดทำโครงการนำร่อง เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกรรายย่อยภายใต้นโยบายกองทุนธนาคารที่ดินของจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูนติดตามผลการดำเนินการตามโครงการดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
2.2 ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) พ.ศ. ....
นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบแนวคิดการจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดินตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายถาวร เสนเนียม) ในฐานะประธานอนุกรรมการฯ เสนอ และให้ยกร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ดังกล่าว ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2553 เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... โดยส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา และคณะกรรมการกฤษฎีกาฯ ได้กำหนดพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2554 สำหรับขั้นตอนในการจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ได้พิจารณา ยกเว้นการใช้มาตรการระงับการจัดตั้งองค์การมหาชนแล้ว เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554
2.3 การตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ออกตามโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินบริเวณบ้านสันตับเต่า หมู่ที่ 17 ตำบลบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน และบริเวณที่ดินโครงการจัดที่ดินผืนใหญ่ 15,000 ไร่ ตำบลหนองปลาสวาย อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน
เรื่องนี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานฯ ให้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารสิทธิในพื้นที่ดังกล่าวว่า มีลักษณะพื้นที่เป็นอย่างไร มีใครเป็นเจ้าของ ออกเอกสารสิทธิเมื่อไหร่ ออกโดยวิธีใด เป็นการออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งกรมที่ดิน (โดยสำนักมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญ) ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินจำนวน 21 แปลง และ 49 แปลง ตามลำดับ โดยกระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งที่ 97/2554 ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554 แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบเอกสารสิทธิบริเวณโครงการจัดที่ดินผืนใหญ่ 15,000 ไร่ ตำบลหนองปลาสวาย อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าเอกสารสิทธิบริเวณดังกล่าวได้ออกไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
3. กรณีปัญหาเหมืองแร่
เรื่องนี้เป็นกรณีที่กลุ่ม คปท. คัดค้านการต่ออายุประทานบัตรการทำเหมืองแร่ของโรงโม่หินศักดิ์ชัย จากการดำเนินการและตรวจสอบปรากฏว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวได้ค้นพบแหล่งโบราณคดี ประธานอนุกรรมการฯ จึงได้มีการประสานกรมศิลปากรจนได้มีการประกาศให้บริเวณนี้เป็นเขตโบราณสถานแล้ว ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ที่ขออนุญาตประทานบัตร และกรมศิลปากรมีความเห็นว่า หากจังหวัดชัยภูมิจะพิจารณาต่ออายุประทานบัตรเหมืองแร่ ต้องกันแนวเขตพื้นที่ที่จะขอต่ออายุประทานบัตรให้ห่างจากแหล่งโบราณคดีไม่น้อยกว่า 500 เมตร และต้องได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดีกรมศิลปากรด้วย จึงแจ้งให้จังหวัดชัยภูมิทราบเพื่อให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
4. การดำเนินการพื้นที่นำร่องในที่ดินสาธารณประโยชน์ เพื่อดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วย การจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ. 2553
กรณีพื้นที่นำร่องในที่ดินสาธารณประโยชน์ที่อยู่ในความรับผิดชอบของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย (คปท.) ซึ่งผ่านการพิจารณาของ ปจช. จำนวน 10 พื้นที่ รวม 5 จังหวัด นั้น กรมที่ดินได้พิจารณาอนุญาตให้ชุมชนใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐตามมาตรา 12 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ปรากฏว่าชุมชนที่อยู่ในที่สาธารณประโยชน์ “ดอนฮังเกลือ” อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในรูปแบบกลุ่มเกษตรกรและได้ยื่นคำขอสัมปทานตามมาตรา 12 เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการรังวัดชันสูตรสอบสวน ตรวจสอบที่ดินบริเวณที่ขอสัมปทานและดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำแผนที่ตามมาตรา 12 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของ ราษฎรในพื้นที่ ซึ่งได้กำหนดวันประชุมราษฎร เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554 สำหรับชุมชนอื่น ๆ อยู่ระหว่างยื่นคำขอจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เมื่อได้หนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้ว จะได้ไปดำเนินการขอสัมปทาน