ครูบาสุทธินันท์ เปรียบสังคมไทยขาลอยในอากาศ ไม่มีที่เกาะ
ปราชญ์ชาวบ้าน ชำแหละคนทุกวันนี้มักง่าย ด่วนเอาง่ายเอาเร็ว กลายเป็นคนไทยพันธุ์ใหม่ ทิ้งโจทย์ใหญ่ จะพัฒนาคนฉาบฉวยอย่างไร พร้อมมองความแตกแยก แบ่งสี ถือเป็นวิบากกรรมของประเทศที่สะสมมานาน
ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ ปราชญ์ชาวบ้าน มหาชีวาลัย จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวถึงสังคมไทยในปัจจุบันว่า ได้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่เหมือนสมัยก่อน มันน่ากลัวมาก เราจะเห็นว่า คนไทยทุกวันนี้มักง่าย ด่วนเอาง่ายๆ เอาเร็วๆ ฉาบฉวย กลายเป็นคนไทยพันธุ์ใหม่ ฉะนั้นการพัฒนาคนฉาบฉวยจะทำอย่างไร โจทย์ต้องเปลี่ยน โดยเฉพาะชนบทที่เปลี่ยนไป โจทย์การพัฒนาประเทศต้องเปลี่ยน โดยวางแผน วิเคราะห์กันให้ดี ทำให้โดนใจให้ได้
“ที่ผ่านมาเราพัฒนาคน จนคนค่อยๆ อ่อนแอ ไม่มีคุณธรรม ไม่มีจริยธรรม ไม่หนักเอาเบาสู้ เหยาะแหยะไปหมด ดังนั้น การจะพัฒนาใครเราก็จะต้องดูข้อมูลคนที่จะพัฒนาด้วย”
เมื่อคนในสังคมอ่อนแอ ครูบาสุทธินันท์ กล่าวว่า นโยบายประชานิยม ก็โดนใจ เพราะประชานิยมไม่ได้พูดถึงคุณค่า วินัย สังคม วัฒนธรรม แต่เอากิเลส มาล่อ
และเมื่อถามถึงนโยบายบัตรเครดิตชาวนาของพรรคเมือง ปราชญ์ชาวบ้าน มหาชีวาลัย กล่าวว่า เครดิตแบบนี้มีเยอะเกินไป ตนไม่ค่อยให้ความสำคัญ พร้อมกับมองว่า เป็นการไปเติมอะไรให้คนง่ายๆ ซึ่งการจะให้เครดิต ทำไมไม่ให้เครดิตความรู้ เครดิตความเข้าใจ ให้เครดิตการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคนไทยให้เข้มแข็ง
ส่วนการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายของคนไทย ซึ่งปรากฏชัดหลังการเลือกตั้งที่ผ่านมา ครูบาสุทธินันท์ กล่าวว่า ถือเป็นวิบากกรรมของประเทศที่สะสมมามาน เราได้ทอดทิ้งเขา เอาเปรียบเขา กระทำต่อเขา เมื่อมีช่องขึ้นมาก็ต่อยอดกัน ดึงกันไปในทางที่ไม่ถูกที่ควร ปรากฏการณ์นี้ หากมองดีๆ ไม่ใช่เรื่องดี น่ากังวล โดยเฉพาะการรวมตัวกันเพื่อทำในเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควร
“ขณะนี้สังคมไทยขาลอยในอากาศ น่ากลัว ไม่มีที่เกาะ เหมือนผักตบชวาที่ลอยไป ผมยังมองไม่เห็นจะหาอะไรมาดึงกลับมาได้ การแตกแยก ผมมองว่า นี่เป็นแค่เริ่มต้น และการศึกษาก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะการศึกษาของเราก็อ่อนแอ”
ครูบาสุทธินันท์ กล่าวถึงตัวชี้วัดจากแผนพัฒนาของชาติที่ผ่านมา ทราบหรือไม่ว่า ทำไมควายหายไปจากประเทศไทย ควายเข้าโรงงานเป็นลูกชิ้น เจ้าของควายก็ตามควายเข้าโรงงานมาด้วย ถามว่า เมื่อควายเป็นลูกชิ้น แล้วเจ้าของควายจะเป็นลูกอะไร
“เราพัฒนาประเทศจนเกษตรกร มาเป็นกรรมกร ต้องยอมรับว่า เกิดอะไรขึ้นในสังคมนี้ ทำไมเพื่อนร่วมโลก ร่วมประเทศของเราถึงประสบชะตากรรมขนาดนี้ ถามว่า เราจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร ผมมองไปที่ความรู้ คนไทยความรู้ไม่พอใช้ หากมีความรู้พอใช้คงไม่เกิดอาการแบบนี้ แล้วความรู้ไปไหน ประเทศนี้ผลิตนักศึกษาคณะเกษตร จบออกไปเป็นแสนคน ไปไหนหมด ทำไมไม่กลับมาช่วยเกษตรเลย หรือเกษตรมันไม่ดี เกษตรไม่เป็นที่หวัง ไม่มีอนาคต ทำไมคนไทยไม่เข้าใจ ไม่ชอบ ทั้งๆ ที่เรากินข้าว เรามองเรื่องชีวิต สังคมอย่างไร เรามองเรื่องอาหาร ธรรมชาติกันอย่างไร และเข้าใจตรงกันจริงหรือไม่”
ปราชญ์ชาวบ้าน กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยโชคดีมีทรัพยากรธรรมชาติที่ประเทศอื่นอิจฉา แต่เรากลับไม่เข้าใจเรื่องเกษตร สิ่งแวดล้อม ดังนั้นอย่าไปถามหาความยั่งยืนเลย เมื่อหัวใจคุณไม่ยั่งยืน เมื่อคนไทยไม่ได้รู้สึก ไม่ได้ตระหนัก เช่น ยางพาราราคาดี ก็ปลูกยางกันแหลกลาญ ซึ่งยางราคาดี ทำให้ป่าไม้ธรรมชาติหายไปหลายเปอร์เซ็นต์ หรือกรณีเราตัดไม้มาใช้ประโยชน์ มีสักกี่คนจะปลูกชดเชย ปลูกทดแทน