'อานันท์' ฝากคนรุ่นใหม่ อย่าพลาดโอกาสเรียนรู้กระบวนการปฏิรูป
ประธานคปร. ย้ำชัด โอกาสไม่ได้มากันบ่อยๆ เยาวชนรุ่นใหม่ไม่ควรตกขบวนรถไฟ แนะเข้ามาเรียนรู้กระบวนการ วิธีการ และสาระการปฏิรูป ก่อนฝากทิ้งท้าย “จะมีเลือกตั้งทั้งทีก็ขอให้มีการปฏิรูป”
วันที่ 6 พฤษภาคม ณ หอจดหมายเหตุ พุทธทาส อินทปัญโญ สวนโมกข์กรุงเทพฯ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการปฏิรูป (คปร.) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน มหกรรมพลังเยาวชน พลังสังคม ครั้งที่ 2 “แบ่งปัน…เพื่อเปลี่ยนแปลง” (Thailand Youth Festival 2nd “Share to Chang”) ซึ่งจัดโดย 18 องค์กรเจ้าภาพ และ 140 องค์กรภาคีเครือข่าย ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 8 พฤษภาคม
นายอานันท์ กล่าวว่า สังคมไทยและสังคมโลกในปัจจุบันดำเนินมาถึง “จุดเปลี่ยน” ครั้งสำคัญ เพราะในขณะที่โลกของการสื่อสารก้าวหน้าไปมาก ผู้คนทั่วโลกสามารถติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว ผ่านระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่ อีกด้านหนึ่ง โลกกลับต้องเผชิญกับความรุนแรงหลายรูปแบบ ทั้งความขัดแยงด้านการเมืองและความรุนแรงจากพิบัติภัยธรรมชาติ ท่ามกลางสภาวการณ์เช่นนี้ มนุษย์เราไม่สามารถอยู่แบบตัวใครตัวมันได้อีกต่อไป หากแต่ต้องร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจกันสร้างสรรค์วิถีทางในการอยู่ร่วมกัน เพื่อให้พร้อมรับกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
“ในศตวรรษที่ 21 เยาวชนคนรุ่นใหม่จำเป็นต้องมีความสามารถในการใฝ่รู้และเรียนรู้ได้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง ทักษะในการตีความคิดเป็นและใช้เหตุผลอย่างถูกต้อง รู้จักประยุกต์ใช้ความรู้ที่มีอยู่ให้มีความเข้าใจและเท่าทันต่อความรู้ใหม่ๆ และการเปลี่ยนแปลงของสังคม พร้อมกันนี้สังคมไทยต้องการคนรุ่นใหม่ที่มีสำนึกสาธารณะ มีจริยธรรม รู้จักรับผิดชอบต่อสังคมและสังคมโลก”
นายอานันท์ กล่าวต่อว่า เยาวชนไทยต้องรู้เท่าทันกระแสบริโภคนิยม ต้องรู้จักใช้ความทันสมัยของเทคโนโลยีในเชิงสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองและสังคม ต้องหมั่นเรียนรู้ฝึกฝนพัฒนาตัวเอง ด้วยความรับผิดชอบและใช้ชีวิตอย่างมีสติ ให้เกิดความพอดี ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นเข็มทิศนำทาง
ทั้งนี้ นายอานันท์ กล่าวถึง 4 แนวความคิดที่เยาวชนและสังคมควรนำไปสร้างสรรค์ ประกอบด้วย 1. การให้ ให้โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ทั้งให้ความรัก น้ำใจ เวลา ความอบอุ่น ให้ผู้ด้อย ผู้ขาดโอกาสและผู้ยากไร้ในสังคม 2.การแบ่งปัน ซึ่งเป็นสิ่งที่มีอยู่ในจิตใจทุกคนอยู่แล้ว ทั้งแบ่งปันความมั่นคง โอกาส อำนาจ ความรับผิดชอบ รวมทั้งแบ่งปันส่วนหนึ่งของตัวเองให้คนอื่น คือ คิดถึงตัวเองให้น้อยลง แล้วคิดถึงคนอื่นให้มากขึ้น 3.จิตอาสา ซึ่งเป็นรากฐานของการให้ ที่สามารถปลูกผังได้ตั้งแต่เด็ก โดยพ่อแม่ ครูอาจารย์ โดยหากสามารถทำให้เป็นกิจวัตรได้ คุณค่าก็จะเกิดขึ้นต่อสังคม 4. การเปลี่ยนแปลง หรือ การปฏิรูป
ในส่วนของการปฏิรูปประเทศนั้น ประธาน คปร. กล่าวว่า การปฏิรูป ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน โดยที่การปฏิรูปสามารถทำได้ในหลายมิติ เช่น ด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม การเมือง และระเบียบวาระต่างๆ ที่ทำไม่รู้จบ เพราะการปฏิรูปต้องทำอย่างต่อเนื่อง และแม้ประเทศไทยจะเริ่มทำมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า เพราะคนไม่รู้ว่า การปฏิรูปคืออะไร ซึ่งการปฏิรูปไม่ใช่แค่แต่งหน้าแต่งตาเท่านั้น แต่คือการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้มีการแบ่งปันมากขึ้น มีจิตอาสามากขึ้น มองเห็นเรื่องส่วนรวมมากขึ้น
“การปฏิรูปไม่ใช่เรื่องแปลก หรือน่ากลัว เพราะขณะนี้หลายประเทศก็เริ่มลุกขึ้นมาเรียกร้องให้มีการปฏิรูปในด้านต่างๆ มากขึ้น ฉะนั้น จึงเป็นเรื่องที่ประเทศเราต้องทำ หากเราไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ปรับโครงสร้างก็จะไม่มีความสุขและสันติ”
นายอานันท์ กล่าวถึงเยาวชนในยุคสมัยนี้ มีโอกาสและอิสระมากกว่าคนรุ่นก่อน ที่ต้องฟังผู้ใหญ่ ผู้มีอำนาจ คนรวย ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่า ไม่ควรฟัง แต่เราควรฟังและคิดเองให้เป็นด้วย ต้องกล้าสู้ กล้าทำเพื่อความถูกต้อง
“คณะกรรมการปฏิรูปและคณะสมัชชาปฏิรูปที่มีผมและหมอประเวศเป็นประธานได้ตั้งปณิธานไว้ว่า ชาตินี้เกิดมาทั้งที ขอให้มีส่วนในการปฏิรูป แม้ชาตินี้ผมอาจจะไม่ทันมองเห็นการปฏิรูปที่เป็นรูปเป็นร่าง ก็ขอฝากให้คนรุ่นนี้ที่มีความพร้อมในหลายด้านว่า อย่าพลาดโอกาสที่จะเรียนรู้กระบวนการปฏิรูป วิธีการปฏิรูป และสาระการปฏิรูป เพราะโอกาสไม่ได้มาบ่อย ดังนั้น อย่าตกรถไฟ จะมีเลือกตั้งทั้งทีก็ขอให้มีการปฏิรูป”
ฟังคลิปบางส่วนได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=8NXhc9Cxvtk