“เสกสรรค์” ชูภูมิปัญญาคนชายขอบ รู้วิธีอยู่กับธรรมชาติ
ชี้การดำรงอยู่ของชาติพันธุ์-คนพื้นถิ่น นับวันยิ่งทวีความสำคัญ โดยเฉพาะการรู้จักวิธีอยู่กับธรรมชาติ ‘เสกสรรค์ ประเสริฐกุล’ มองภัยพิบัติ ทั้งแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด น้ำท่วม ฝนแล้ง ฟ้องมนุษย์ไม่เคารพ และอยู่อย่างเบียดเบียนธรรมชาติ
วันที่ 31 มีนาคม หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ร่วมกับ Community Arts Activity Group และ Local-Inter Links Group จัดนิทรรศการ “คุณ...จะเอาพวกเขาไปไว้ที่ไหน?” ณ ห้องนิทรรศการ ชั้น 7 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล กรรมการปฏิรูป และศิลปินแห่งชาติ กล่าวเปิดนิทรรศการ
ดร.เสกสรรค์ กล่าวถึงชื่อนิทรรศการ “คุณ…จะเอาพวกเขาไปไว้ที่ไหน” บ่งบอกชัดเจนอยู่แล้วว่า เรากำลังมีปัญหาอะไรอยู่ ผู้คนจำนวนไม่น้อยบนผืนแผ่นดินนี้ หรือกระทั่งในโลกนี้กำลังถูกผลักต้านไม่ให้มีถิ่นที่อยู่ ทั้งทางกายภาพในแง่ของที่อยู่อาศัย และในทางวิถีชีวิต กระทั่งในทางจิตวิญญาณ
“ที่จริงไม่ใช่ ‘พวกเขา’ เท่านั้นที่กำลังถูกผลักต้าน จนกระทั่งไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหน แต่ ‘พวกเรา’ ที่อยู่ที่นี่หลายคน ต้องถามตัวเองเหมือนกันว่า เราจะไปอยู่ที่ไหน โลกที่เราชื่นชอบมันกำลังหายไปเรื่อยๆ และโลกที่เราคิดว่า ถูกกว่า ดีกว่า ก็ถูกคนอื่นมาเบียดยึดด้วยวิธีการต่างๆ นานา”
ดร.เสกสรรค์ กล่าวว่า การที่ศิลปินทั้งหลาย ลงไปคลุกคลีกับผู้คนที่มีชีวิตอยู่ในชายขอบ นับเป็นเรื่องที่สะท้อนจิตวิญญาณอันสูงส่ง และกว้างใหญ่ ซึ่งปกติแล้วคนจำนวนมากมองข้ามไป และถือว่า สิ่งที่ท่านทำมากกว่าการปกป้อง คุ้มครอง หรือทวงสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ของคนเล็ก คนน้อยเหล่านี้
“การดำรงอยู่ของชาติพันธุ์ หรือคนพื้นถิ่นทั้งหลายในเวลานี้ นับวันยิ่งทวีความสำคัญ เพราะไม่ใช่แค่ความเป็นธรรมที่จะต้องสร้างขึ้นในสังคมมนุษย์เท่านั้น แต่พวกเขาเป็นคลังของภูมิปัญญาที่มนุษยชาติสั่งสมกันมา การที่เขารู้จักวิธีอยู่กับธรรมชาติกำลังจะเป็นเรื่องสำคัญมากขึ้น เพราะคนจำนวนมากไม่รู้วิธีอยู่กับธรรมชาติ”
ศิลปินแห่งชาติ กล่าวอีกว่า เวลานี้ภัยพิบัติต่างๆ ที่คุกคามมนุษยชาติ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด น้ำท่วม ฝนแล้ง กำลังเข้มข้นขึ้นทุกวัน ซึ่งฟ้องให้เห็นว่า เราอยู่โดยปราศจากการเคารพธรรมชาติ อยู่โดยเบียดเบียนธรรมชาติ ครั้นจะกลับไปหาธรรมชาติอย่างที่หลายคนเริ่มรู้สึกแล้วว่า ที่ผ่านมานั้นผิดพลาด ก็ไม่แน่ว่าจะรู้วิธีอยู่กับธรรมชาติ ปรากฏว่าคนที่รู้วิธีอยู่กับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน พึ่งพาอาศัยและเคารพกัน คือคนที่ท่านทั้งหลายไปคลุกคลีมา เขารู้วิธีอยู่กับสายน้ำ ท้องทะเล ขุนเขา ฉะนั้น การอยู่รอดของเขาไม่ใช่การอยู่รอดโดยลำพังอีกต่อไป แต่เป็นกุญแจที่จะไขความลับในการอยู่รอดของมนุษยชาติในอนาคต
ดร.เสกสรรค์ กล่าวด้วยว่า ศิลปินทั้งหลายที่ถ่ายทอดปัญหา ความรู้สึกนึกคิด และวัฒนธรรมของกลุ่มคนเหล่านี้ออกมาในรูปของงานศิลปะ นับเป็นเรื่องที่ทันเวลาและควรจะทำกันให้มากขึ้น แม้ศิลปะจะเป็นเรื่องที่นิยามยากมาก แต่พูดสั้นๆ ก็คือภาษาของหัวใจ ที่ใจหนึ่งพยายามจะสื่อกับอีกใจหนึ่ง ดังนั้น ท่านทั้งหลายที่มีการสั่นของหัวใจที่พอเพียง ก็จะสามารถทำงานศิลปะได้ ส่วนคนที่หัวใจแข็งกระด้างนั้นทำงานศิลปะไม่ได้ ฉะนั้น ศิลปะจึงไม่เกี่ยวกับความรู้ที่เป็นทางการ และไม่เกี่ยวว่า ได้ปริญญามากี่ใบ แต่เกี่ยวกับว่า มีหัวใจหรือไม่
ขณะที่นางจิตติมา ผลเสวก ในฐานะตัวแทนกลุ่มศิลปิน กล่าวถึงนิทรรศการ “คุณ...จะเอาพวกเขาไปไว้ที่ไหน?” ว่า เป็นการตั้งคำถามผ่านงานศิลปะในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะงานแสดงสด ภาพถ่าย วีดีทัศน์ ฯ ซึ่งกว่าที่เสียงของชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆ จะมีโอกาสเข้ามาส่งเสียงกลางเมืองหลวง ทางกลุ่มศิลปินได้ลงพื้นที่ไปศึกษาข้อมูลด้วยตนเอง อาทิ การลงพื้นที่บริเวณริมแม่น้ำสาละวิน ซึ่งกำลังเผชิญกับโครงการสร้างเขื่อนในพรมแดนไทย-พม่า, การเข้าไปศึกษาวิถีกลุ่มชาติพันธุ์ทางทะเลฝั่งอันดามัน ทั้งชาวมอแกน มอแกลน อูรักลาโว้ย ซึ่งถูกละเมิดสิทธิ์ในเรื่องของที่ดิน ทั้งที่พวกเขาเป็นผู้บุกเบิก แต่สุดท้ายก็ต้องกลายเป็นผู้บุกรุก
“ขณะเดียวกันกลุ่มชาติพันธุ์ยังมีปัญหาในเรื่องสัญชาติอีกด้วย นอกจากนี้ทางกลุ่มยังได้ศึกษาเรื่องแม่น้ำโขงศิลปะร่วมสายน้ำ โดยเดินทางไปที่อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์น่าเป็นห่วงจากโครงการขนาดใหญ่ โดยเฉพาะการสร้างเขื่อน เป็นต้น”
ทั้งนี้ นิทรรศการ “คุณ...จะเอาพวกเขาไปไว้ที่ไหน?” จัดแสดงระหว่างวันที่ 31 มีนาคม-12 มิถุนายน พ.ศ.2554 โดยศิลปินที่นำผลงานมาร่วมจัดแสดง ได้แก่ นายไพศาล เปลี่ยนบางยาง, นายมานะ ภู่พิชิต, นายสุธน สุขพิทักษ์, นายจักรกริช ฉิมนอก ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีผลงานของศิลปินชาวต่างชาติร่วมจัดแสดงอีกด้วย