ฉันทามติเครือข่ายอปท.ยื่น 4 ข้อเสนอ ผ่านนพ.ประเวศ-คุณหญิงสุพัตรา
เสนอตรากม.ใหม่ ตั้ง ‘สภาการปกครองท้องถิ่นแห่งชาติ’ จัดสรรงบฯ แก่อปท.เพิ่มขึ้นทุกปี จนได้สัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 35 มีระบบการประกันรายได้ พร้อมเร่งจัดความสัมพันธ์ระหว่างชุมชน-ท้องถิ่น
วันที่ 3 มีนาคม คณะกรรมการองค์กรปกครองท้องถิ่นเพื่อการปฏิรูป ในคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป ที่มี ศาสตราจารย์ นพ. ประเวศ วะสี เป็นประธาน ร่วมกับสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย แถลงข้อเสนอ เพื่อการปฏิรูปโครงสร้างและระบบการปกครองท้องถิ่น เพื่อสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม พร้อมยื่นข้อเสนอดังกล่าวให้กับ ศ.นพ.ประเวศ และคุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ ประธานคณะกรรมการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนแห่งชาติ เป็นเจ้าภาพในการขับเคลื่อนพลังชุมชนท้องถิ่นให้เป็นพลังแผ่นดินต่อไป
นายสมพร ใช้บางยาง ประธานคณะกรรมการองค์กรปกครองท้องถิ่นเพื่อการปฏิรูป กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีการจัดสมัชชาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อการปฏิรูประดับพื้นที่ จำนวน 6 ครั้ง ครอบคุลมทั่วภูมิภาค เพื่อนำข้อเสนอจาก 3 สมาคมดังกล่าวไปผลักดันและรับฟังข้อเสนอเพิ่มเติม จากนั้นจัดทำเป็นข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปโครงสร้างและระบบการปกครองท้องถิ่น ที่เป็นฉันทามติของเครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
สำหรับข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปโครงสร้างและระบบการปกครองท้องถิ่น ซึ่งประกอบด้วย 4 ส่วนดังนี้
ส่วนที่ 1 ข้อเสนอด้านกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับ เสนอให้มีการตรากฎหมายใหม่ที่เรียกว่า ‘ประมวลกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น’ โดยกำหนดให้มีการจัดตั้ง ‘สภาการปกครองท้องถิ่นแห่งชาติ’ ทำหน้าที่เป็นกลไกประสานการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น และจัดตั้ง ‘สมัชชาการปกครองท้องถิ่น’ ในระดับพื้นที่และระดับชาติในการสร้างข้อตกลงร่วมหรือการตัดสินใจร่วมกัน ขณะเดียวกันให้คงสภาพองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไว้ 4 รูปแบบเช่นเดิม ได้แก่ อบจ. เทศบาล อบต. และรูปแบบพิเศษ
ส่วนที่ 2 ข้อเสนอด้านการถ่ายโอนภารกิจ ให้มีการตรากฎหมายว่าด้วยการถ่ายโอนภารกิจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นการเฉพาะ และให้การถ่ายโอนภารกิจเสร็จสิ้นภายใน พ.ศ.2560 รวมทั้งให้มีมาตรการ บังคับ เร่งรัด การถ่ายโอนภารกิจดังกล่าว ทั้งด้านอัตรากำลังและงบประมาณ
ส่วนที่ 3 ข้อเสนอด้านการเงินการคลังท้องถิ่น ให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นทุกปี จนให้ได้สัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 35 ของรายได้ของรัฐบาล ภายใน 5 ปี นับตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2555 และให้รัฐบาลมีระบบการประกันรายได้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาท โดยให้สำนักงบประมาณเป็นผ็จัดส่งงบประมาณให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยตรง
และส่วนที่ 4 ข้อเสนอด้านการจัดความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนกับท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องร่วมกับองค์กรชุมชนในการกำหนดนโยบายและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของพื้นที่ตนเอง โดยมีกลไกภาคประชาชนเป็นผู้ดำเนินการ ติดตาม กำกับ และประเมินผลการดำเนินงาน
ขณะเดียวกัน รัฐบาลจะต้องแก้ไข พ.ร.บ.การบริหารงานบุคคลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 เพื่อเปิดโอกาสให้คนท้องถิ่นเข้ามาเป็นบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมให้รัฐบาลสนับสนุนการจัดตั้ง “กองทุนการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต” เพื่อฟื้นพลังชุมชนให้เข้ามาร่วมในการจัดการศึกษาทุกพื้นที่