17 โฉนดชุมชน ทส. ส่อล่ม ขปส. จวกติดปัญหาที่ 'สุวิทย์'
รองปลัด ทส.ยอมรับต้องใช้เวลา เน้นทำงานเป็นระบบขั้นตอน 'ประยงค์' ชี้เป็นบทพิสูจน์ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเรื่องโฉนดชุมชน ไม่สามารถมีผลบังคับใช้กับกระทรวงนี้ ได้ เหตุ "สุวิทย์" ไม่สนองนโยบาย ติดขัดในข้อกฏหมาย
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) จำนวน 34 คน ร่วมเจรจาแก้ไขปัญหากรณีโฉนดชุมชน ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ซึ่งถือเป็นการประชุมร่วมกันครั้งที่ 4 อันประกอบด้วยอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) อธิบดีกรมป่าไม้ (ปม.) และอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลชายฝั่ง (ทช.) โดยมี นายสุรพล ปัตตานี รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานที่ประชุม
นายสุรพล กล่าวถึงปัญหาที่ทาง ขปส. รวบรวมมาให้ทั้งหมดกว่า 500 ประเด็นนั้น ทางกระทรวง มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น 432 ประเด็น และได้ทำจดหมายเวียนแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรับทราบ เพื่อพิจารณากรอบการทำงานของตนเอง ซึ่งต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าจะสำเร็จ เนื่องจากมีปริมาณมาก พร้อมทั้งต้องแจกแจงรายละเอียดว่าเกี่ยวโยงกับหน่วยงานใดบ้าง เนื่องจากพื้นที่ในเขตการควบคุม นั้นมีส่วนที่ทับซ้อนกันในหลายหน่วยงาน
"แม้การดำเนินการในพื้นที่นำร่องทั้ง 17 แห่งจะใช้เวลานาน ซึ่งต้องคิดค้นกลไกในการดำเนินการอย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งหาหลักเกณฑ์มาตราการต่างๆ ในการรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเชื่อว่าหากทำสำเร็จในชุดแรกนี้ จะสามารถแกะปมปัญหาอีก 400 กว่ากรณีที่เหลือได้ง่ายขึ้น"
ด้าน นายประยงค์ ดอกลำใย ที่ปรึกษา ขปส. กล่าวหลังจากเจรจาร่วมกับ ทส. ว่า ผลสรุปพื้นที่ 17 นำร่องโฉนดชุมชน ในส่วนการดูแลของกระทรวงทรัพย์ฯนั้น ไม่มีความชัดเจนแต่อย่างใด แม้จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองเฉพาะกิจตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีจริง แต่ท้ายที่สุดก็เป็นเพียงแค่การกำหนดกฏเกณฑ์ข้อบังคับเท่านั้น
"ครั้งนี้เป็นการประชุมที่ล้มเหลวของ ขปส. ที่ไม่ได้รับความคืบหน้าใดๆ ทั้งสิ้น แต่ได้เห็นความพยายามของหน่วยงานราชการที่พยายามจะดำเนินการ แต่ปัญหาติดอยู่ที่คำสั่งเชิงนโยบาย อันเป็นหน้าที่ของนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต่อไปนี้ทาง ขปส. คาดว่าจะหาช่องทางเจรจากับนายกรัฐมนตรีอีกครั้งเพื่อหาข้อยุติดังกล่าว"
นายประยงค์ กล่าวด้วยว่า การประชุมที่เกิดขึ้นกับ ทส. นั้นเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่า ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเรื่องโฉนดชุมชนนั้น ไม่สามารถมีผลบังคับใช้กับกระทรวงนี้ได้ เนื่องจากประการแรก รัฐมนตรีประจำกระทรวงไม่เร่งสนองนโยบายจากรัฐบาล ประการที่สองยังติดขัดในข้อกฏหมาย ซึ่งข้าราชการในระดับกรมไม่สามารถหาทางออกได้เอง อย่างไรก็ตามกรณีนำร่องโฉดนชุมชนทั้ง 35 พื้นที่ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของหลายกระทรวงนั้น ได้มีความคืบหน้าในหลายระดับ ในขณะที่ 17 พื้นที่ในส่วนของการดูแลของ ทส. คาดดว่าจะป็นแห่งแรกที่ไม่ประสบความสำเร็จ