กกพ. รับข้อมูลงานวิจัยผลกระทบ สวล. กลุ่มอุบลฯ
ยันข้อมูลมีน้ำหนักพอใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าไม่ออกแน่ เลขาธิการ กกพ.ยันทำหน้าที่ ถ่วงดุลอำนาจในการออกใบอนุญาตของกรมโรงงาน และปกป้องให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านที่จะได้รับผลกระทบ
หลังจากเครือข่ายชุมชนผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าชีวมวล 6 จังหวัด ได้เข้าร่วมปักหลักชุมนุมกับขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมซึ่งประกอบไปด้วย 4 เครือข่าย 3 กรณีปัญหา คือ เครือข่ายสลัม 4 ภาค เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย เครือปฏิรูปสังคมและการเมือง เครือข่ายสมัชชาคนจน กรณีเขื่อนปากมูล ซึ่งมีปัญหากรณีป่า ออป. ทับที่ อ.พิบูลมังสาหาร กลุ่มประมงพื้นบ้าน จ.ภูเก็ต และกลุ่มกรณีปัญหาโรงไฟฟ้าชีวมวล โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เหมืองแร่ นั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 มีนาคม กลุ่มกรณีปัญหาโรงไฟฟ้าชีวมวล ได้รวมตัวกันเดินทางเข้าพบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) เพื่อทวงถามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา โดยมีนายกวิน ทังสุพานิช เลขาธิการคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เป็นตัวแทนพูดคุยกับชาวบ้าน
นายกวิน กล่าวชี้แจงกับชาวบ้านว่า กกพ. เป็นองค์กรอิสระของรัฐที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นการถ่วงดุลอำนาจในการอนุญาตของกรมโรงงาน ซึ่งการอนุญาตทำไปตามกระบวนการกฎหมาย การอนุญาตประกอบไปด้วยใบอนุญาตสร้างโรงงานซึ่งทาง กกพ.ต้องขอความเห็นจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตาม พ.ร.บ. กรมโรงงาน พ.ศ.2535 และใบอนุญาตผลิตไฟฟ้า กกพ. เป็นผู้อนุญาต ตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 ซึ่งทั้ง 2 ใบ แม้จะมีความเกี่ยวข้องกับ แต่สามารถตัดขาดจากกันได้ เพราะเป็นกฎหมายคนละฉบับกัน
“ข้อมูลผลการศึกษาการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ กรณี โรงไฟฟ้าบัวสมหมายไบโอแมส จำกัด ณ บ้านคำสร้างไชย ต.ท่าช้าง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี นั้น ตอนนี้ได้อยู่ในขั้นอุทธรณ์ซึ่ง ทาง กกพ. จะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน หากพบว่า การก่อสร้างโรงงานไฟฟ้ามีผลกระทบกับชาวบ้าน ทาง กกพ. จะไม่ออกใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าให้” นายกวิน กล่าว และว่า ตนยืนยันการทำหน้าที่ของ กกพ. คือการถ่วงดุลอำนาจในการออกใบอนุญาตของกรมโรงงาน และต้องปกป้องให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านที่จะได้รับผลกระทบ ในส่วนที่ชาวบ้านขอพบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ตนจะประสานและแจ้งผลให้ชาวบ้านทราบภายในวันศุกร์ที่ 4 มีนาคมนี้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ได้มีการประชุมแก้ไขปัญหาโดยมีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งมีการพูดคุยแก้ปัญหาของกลุ่มเครือข่ายปฏิรูปสังคมและการเมือง (คปสม.) กรณีป่า ออป. ทับที่ อ.พิบูลมังสาหาร กลุ่มประมงพื้นบ้าน จ.ภูเก็ต และกลุ่มกรณีปัญหาโรงไฟฟ้าชีวมวล โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เหมืองแร่ ที่ประชุมได้มีมติให้ตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาเรื่องโรงไฟฟ้าชีวมวล ประกอบไปด้วย ตัวแทนรัฐบาล ได้แก่ สำนักนายกรัฐมนตรี ตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กรมโรงงานอุตสหกรรม คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ
สำหรับตัวแทนนักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ นายศุภกิจ นันทะวรการ มูลนิธินโยบายสุขภาวะ นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ตัวแทนชาวบ้าน ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจาก 5 จังหวัด ได้แก่ นางสาวสดใส สร่างโศรก จ.อุบลฯ นายวิชัณย์ เขตชำนิ จ.เชียงราย นางแน่งน้อย นิลขลัง จ.ตาก นายพัฒติกร เลสัก จ.ลำพูน และนายบุญมี โสภัง จ.สุรินทร์ โดยคณะทำงานมีหน้าที่ ตรวจสอบกระบวนการและขั้นตอนการออกใบอนุญาตสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล สามารถเรียกบุคคลหรือหน่วยงานและเอกสารที่เกี่ยวข้องที่ผ่านมาเพื่อประกอบกระบวนการพิจารณา ใน 5 พื้นที่คือ เชียงราย ตาก สุรินทร์ ลำพูน อุบลราชธานี ซึ่งได้รับความเดือดร้อน ดำเนินโครงการประกอบกิจการผลิตไฟฟ้าชีวมวลโดยใช้ แกลบ เศษไม้ วัสดุทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิงในการผลิต ด้วยกำลังการผลิตตั้งแต่ 0.99-9.9 เมกกะวัตต์ ซึ่งเป็นการหลีกเลี่ยงไม่เข้าข่ายหลักเกณฑ์การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่มีข้อกำหนดที่มีกำลังผลิต 10 เมกกะวัตต์ สามารถแต่งตั้งบุคคลหรือคณะอนุกรรมการเพื่อตรวจสอบหรือดำเนินการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติมได้ มีอำนาจเสนอให้ชะลอหรือหยุดโครงการที่พบ กระบวนการที่ไม่โปร่งใสและไม่เป็นธรรม และกำหนดกระบวนการชี้แจงข้อมูลและดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน รอบบริเวณที่ขออนุญาตตั้งโรงงาน ผลิตพลังงานไฟฟ้าเชื้อเพลิงชีวมวล(แกลบ) ในพื้นที่พบกระบวนการที่ไม่โปร่งใสและไม่เป็นธรรม ส่วนกรณีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้น โดยที่ประชุมเห็นชอบให้ตั้งคณะทำงานที่ชาวบ้านมีส่วนร่วมเพื่อศึกษา และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
ด้านนายทองคับ มาดาสิทธิ์ ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวหลังเข้าพบ กกพ. ว่า พอทราบว่า กกพ. ไม่จำเป็นต้องออกใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าให้บริษัทบัวสมหมาย ก็รู้สึกโล่งใจ อย่างไรก็ตาม ยังต้องเฝ้าติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาของ กกพ. ต่อไป แต่ตนหวังว่า กกพ. ในฐานะเป็นองค์กรอิสระที่ดูแลการประกอบกิจการพลังงานให้มีความโปร่งใส และเป็นธรรม จะทำหน้าที่ช่วยติดตามแก้ไขปัญหา และรับข้อเสนอในการแก้ปัญหาของชาวบ้านไปพิจารณา เพราะตอนนี้ชาวบ้านกำลังได้รับผลกระทบจากการสร้างโรงไฟฟ้าของบริษัทดังกล่าว