นราธิวาสป่วนวางบึ้ม 8 จุด 4 อำเภอ ธนาคารตกเป็นเป้า 6 แห่ง สงสัยโยงการเมือง!
แวดาโอ๊ะ หะไร
อับดุลเลาะ หวังนิ
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
ใต้ป่วนอีกระลอก คนร้ายวางระเบิดรับอรุณ 8 จุดใน 4 อำเภอของ จ.นราธิวาส ชาวบ้านรับเคราะห์เจ็บ 2 มีธนาคารตกเป็นเป้า 6 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นระเบิดแสวงเครื่อง จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอล วิจารณ์แซ่ดโยงการเมือง เหตุเพิ่งเกิดบึ้มแบงก์ 5 จุดในเมืองหลวง แถมเจ้าหน้าที่ได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้า “อิศรา”ย้อนรอยเหตุการณ์ระเบิดธนาคาร 22 แห่งเมื่อปี 49
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ร้อนระอุขึ้นอีกครั้ง เมื่อคนร้ายลอบวางระเบิดธนาคารถึง 8 จุดในช่วงเวลาใกล้เคียงกันในท้องที่ 4 อำเภอของ จ.นราธิวาส โดยเมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 2 มี.ค.2553 พ.ต.ท.สมเกียรติ อินทสุทธิ์ สารวัตรเวร สภ.เมืองนราธิวาส รับแจ้งมีเหตุระเบิดที่บริเวณบันไดชั้น 2 ข้างตู้กดเงินสด (เอทีเอ็ม) หน้าประตูทางเข้าธนาคารออมสิน สาขาอำเภอเมืองนราธิวาส ตั้งอยู่ริมถนนพิชิตบำรุง ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบเศษกระจก และประตูกันสาดหน้าธนาคารถูกแรงระเบิดอัดจนได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบพบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอล
ทั้งนี้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเก็บหลักฐานบริเวณจุดเกิดเหตุอยู่นั้น ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นอีก 2 ครั้ง คือที่บริเวณตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ตั้งอยู่ข้างสำนักงานเทศบาลเมืองนราธิวาส แรงระเบิดทำให้พนักงานกวาดขยะของเทศบาลได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือ นางพร้อม ศิริภรณ์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/2 ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส อีกจุดหนึ่งคือที่บริเวณหน้าร้านเสริมสวย ตั้งอยู่เลขที่ 66/2 ถนนวรคามพิพิธ ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ซึ่งอยู่ด้านหลังของธนาคารออมสินซึ่งเกิดเหตุเป็นจุดแรก โดยคนร้ายนำระเบิดชนิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็กหนักประมาณ 3 กิโลกรัม จุดชนวนจากการตั้งเวลาด้วยนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอลเช่นกัน ไปใส่ไว้ในถังขยะริมถนนหน้าร้านเสริมสวย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ต่อมาเวลา 07.00 น. ศูนย์วิทยุสื่อสารของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดอีก 1 จุด ที่บริเวณหน้าตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสิน สาขาตันหยงมัส อ.ระแงะ ทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือ นายชาญวิทย์ เอื้อปัญญาศิลป์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 ถนนเทศบาล 8 ต.ตันหยงมัส ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าระเบิดที่กลุ่มคนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ไว้ในกระป๋องเครื่องดื่มน้ำอัดลม น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอล
ทั้งนี้ ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ระแงะ กำลังตรวจจุดเกิดเหตุอยู่นั้น ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดวางไว้ที่บริเวณหน้าตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย สาขาตันหยงมัส อีก 1 จุด จึงรีบนำกำลังเข้าตรวจสอบ และใช้อาวุธปืนยิงทำลายเอาไว้ได้ พบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดเดียวกัน คือประกอบใส่ไว้ในกระป๋องเครื่องดื่มน้ำอัดลม และจุดชนวนด้วยการตั้งเวลาจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอล
ต่อมาในพื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่รับแจ้งมีเหตุระเบิดบนถนนสายชูโง-กาเยาะมาตี ท้องที่หมู่ 4 ต.กาเยาะมาตี โดยคนร้ายนำระเบิดชนิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม ซุกไว้ข้างถนน แล้วจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนั้นในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ยังได้รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยจำนวน 2 จุด วางอยู่ที่บริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) สาขาสุไหงโก-ลก จึงระดมเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ พบเป็นระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก 3-5 กิโลกรัม บรรจุในกล่องเหล็ก วางไว้บริเวณตู้เอทีเอ็ม แต่เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้เอาไว้ได้
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุของการลอบวางระเบิดหลายจุดพร้อมกันในครั้งนี้ อาจเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ และเชื่อมโยงกับปัญหาทางการเมือง
สงสัยป่วนการเมือง-จนท.รู้ก่อน
เหตุลอบวางระเบิด 8 จุดใน จ.นราธิวาส ซึ่งมี 6 จุดที่เป้าหมายเป็นธนาคาร ได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ เพราะเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา หรือเมื่อ 3 วันก่อนหน้านี้ เพิ่งเกิดเหตุคนร้ายปาระเบิดชนิดขว้าง พุ่งเป้าไปที่ธนาคารกรุงเทพและสถาบันการเงินอื่นๆ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลรวม 5 จุด อันเป็นการเกิดเหตุหลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอ่านคำพิพากษายึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและครอบครัว 46,000 ล้านบาทเศษ จากที่อายัดเอาไว้ทั้งสิ้น 76,000 ล้านบาทเศษ
หลังเกิดระเบิด 5 จุดดังกล่าว หลายฝ่ายพุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งกำลังระดมมวลชนเพื่อนัดชุมนุมใหญ่ในช่วงกลางเดือน มี.ค.นี้ ขณะที่แกนนำคนเสื้อแดงก็แถลงตอบโต้ว่าเป็นฝีมือของฝ่ายผู้ถืออำนาจรัฐหรือมือที่สามเพื่อต้องการป้ายสีกลุ่มคนเสื้อแดง
สำหรับเหตุลอบวางระเบิด 8 จุดในพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยเป้าหมายเป็นธนาคารถึง 6 จุดเมื่อเช้าวันที่ 2 มี.ค.นั้น ฝ่ายความมั่นคงรู้ตัวก่อนล่วงหน้า โดย “ทีมข่าวอิศรา” ได้มีโอกาสสนทนากับนายทหารที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ในเขต อ.เมืองปัตตานี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 มี.ค.ก่อนเกิดระเบิดเพียง 1 วัน โดยทหารรายดังกล่าวให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์ในช่วงนี้อาจจะหนักสักหน่อย โดยเฉพาะบริเวณธนาคารนับว่าล่อแหลมมากเป็นพิเศษ พุ่งเป้าไปที่สำนักงานของธนาคารกรุงเทพและตู้เอทีเอ็ม
“การเมืองกำลังแรง ในพื้นที่จึงต้องเฝ้าระวังกันหนักขึ้น เพราะมีข่าวแจ้งเตือนมาว่า กลุ่มคนร้ายพยายามจะก่อเหตุโดยมุ่งไปที่ธนาคารทุกแห่ง เพื่อโยงให้เป็นการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และทำให้เห็นภาพความปั่นป่วนเกิดขึ้น” ทหารรายนี้ ระบุ
ขณะที่เครือข่ายวิทยุสื่อสารของตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่ จ.ยะลา และปัตตานี ได้มีการแจ้งเตือนตลอดทั้งวันตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 2 มี.ค. ให้เฝ้าระวังบริเวณ ธนาคารและตู้เอทีเอ็มทุกจุด เพราะอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้ โดยเน้นหนักสำนักงานสาขาของธนาคารกรุงเทพ ให้เพิ่มความเข้มงวดและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
ย้อนรอยบึ้มธนาคาร 22 จุดเมื่อปี 49
สำหรับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดสถาบันการเงินหลายแห่งในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนั้น เคยเกิดขึ้นมาแล้วในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเมื่อวันที่ 31 ส.ค.2549 คนร้ายลอบวางระเบิดธนาคารพร้อมกันถึง 22 แห่งใน 5 อำเภอของ จ.ยะลา แบ่งเป็นพื้นที่ อ.เมืองยะลา 10 จุด อ.เบตง 6 จุด สามารถเก็บกู้ไว้ได้ทัน 1 จุด อ.รามัน 2 จุด อ.ยะหา 2 จุด และ อ.บันนังสตา 2 จุด มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 28 ราย
นอกจากนั้น ในช่วงเช้าของวันที่ 27 พ.ค.2552 ยังเคยเกิดเหตุรุนแรงพร้อมกัน 9 จุดในเขตเทศบาลนครยะลาขณะมีงานสมโภชหลักเมืองและงานกาชาด โดยพุ่งเป้าไปที่สถานประกอบการขนาดใหญ่และธนาคารกลางเมือง
------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ภาพประกอบจากเว็บไซต์เมเนเจอร์ www.manager.co.th
บรรยายภาพ : กำลังทหารพร้อมอาวุธครบมือยืนอารักขาบริเวณหน้าธนาคารทุกแห่งในตัวเมือง จ.ปัตตานี หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดธนาคาร 6 แห่งใน จ.นราธิวาส
อ่านประกอบ : ปูพรมบอมบ์"แบงก์"เซอร์ไพรส์วันสถาปนา"เบอร์ซาตู"
http://www.isranews.org/cms/index.php?option=com_content&task=view&id=1218&Itemid=47