ศาลเลื่อนไต่สวนคดี 3 คนไทยถูกมาเลย์รวบพร้อมระเบิด
แวลีเมาะ ปูซู
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
“ทีมข่าวอิศรา” เดินทางข้ามฝั่งไปมาเลเซีย เกาะติดคดี 3 คนไทยที่ถูกทางการมาเลย์จับกุมคาบ้านเช่าในอำเภอปาเสมัส รัฐกลันตัน เมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว พร้อมของกลางอาวุธปืนและอุปกรณ์ประกอบระเบิดจำนวนมาก ซึ่งล่าสุดทั้งสามถูกนำตัวขึ้นศาลในรัฐกลันตัน
เมื่อวันที่ 25 ก.พ.2553 เวลา 09.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นประเทศมาเลเซีย ที่ศาลมาเจสเตต ปาเสมัส (Mahkamah Majistret Pasir Mas) อำเภอปาเสมัส รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ศาลได้นัดไต่สวนคนไทย 3 คนที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2552 พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืน เครื่องกระสุน และอุปกรณ์ประกอบระเบิด
ทั้งนี้ คนไทยทั้ง 3 คนซึ่งถูกคุมขังระหว่างรอการไต่สวน และถูกนำตัวมาขึ้นศาล ประกอบด้วย
1.นายมูฮำหมัดฟาโร บินยาการียา อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 หมู่ 2 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
2.นายสารี มูฮำหมัด บินอับดุลฮาสิ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 5 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
3.นายมะยูไน บินเจ๊ะดอเลาะ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 2 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส
ทั้งนี้ นายมูฮำหมัดฟาโร มีหมายจับป.วิอาญา (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา) ของ สภ.เจาะไอร้อง ในคดีลอบวางระเบิด ส่วน นายสารี มูฮำหมัด มีหมายจับ ป.วิอาญาของ สภ.ตากใบ ในคดีลอบวางระเบิดเช่นกัน
การนำตัวผู้ต้องหาทั้งสามมาขึ้นศาล อยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียอย่างเคร่งครัด เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้ให้ทั้ง 3 คนเข้าไปในห้องพิจารณาคดี ก่อนที่จะถูกนำตัวกลับไปขึ้นรถ เพื่อไปฝากขังต่อที่เรือนจำเปอร์กาลัง จาปอ เมืองโกตาบารู ในรัฐกลันตัน
เจ้าหน้าที่ประจำศาลมาเจสเตต เปิดเผยกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า ผู้ต้องหาได้เข้าไปที่ห้องฝ่ายพิจารณา ใช้เวลาอยู่ในห้องพิจารณาคดีนานประมาณ 5 นาที โดยศาลแจ้งว่ายังไม่ได้รับเอกสารรายงานเกี่ยวกับตรวจพิสูจน์ของกลางที่ยึดได้ขณะจับกุม จึงมีคำสั่งเลื่อนการไต่สวนออกไป และนัดไต่สวนใหม่ในวันที่ 11 เม.ย.2553 ที่ศาลอาญาเมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน
“ในชั้นนี้ต้องรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับของกลางทั้งหมดว่าเป็นอะไร และมีหลักฐานอะไรเชื่อมโยงเกี่ยวข้องบ้าง การนัดไต่สวนนัดแรกจึงยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ต้องส่งผู้ต้องหากลับไปที่เรือนจำเปอร์กาลัง จาปอ (Pang Kalang Capa) เมืองโกตาบารู เพื่อรอนำตัวกลับมาไต่สวนอีกครั้งในเดือนหน้า” เจ้าหน้าที่ประจำศาล กล่าว
ส่วนเจ้าหน้าที่อีกราย ให้ข้อมูลกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า ของกลางที่ยึดได้ เป็นอุปกรณ์ประกอบระเบิด ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทดสอบดูแล้ว ปรากฏว่าระเบิดน้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม สามารถใช้งานได้จริง มีความรุนแรงขั้นทำลายล้างทีเดียว
สำหรับบรรยากาศที่หน้าศาลมาเจสเตต อำเภอปาเสมัส รัฐกลันตันนั้น ปรากฏว่ามีผู้สื่อข่าวจากโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับของมาเลเซียเดินทางมาติดตามทำข่าว โดยนักข่าวทางมาเลเซียรายหนึ่ง กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังที่การไต่สวนคดีครั้งนี้ไม่มีความคืบหน้า แต่ก็เห็นด้วยที่จะใช้ศาลอาญาโกตาบารูในการพิจารณาคดีแทน เนื่องจากเป็นคดีใหญ่และเกี่ยวพันกับด้านความมั่นคง ขณะที่ศาลมาเจสเตตเป็นแค่ศาลเล็กๆในอำเภอปาเสมัสเท่านั้น ส่วนญาติพี่น้องของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไม่มีผู้ใดเข้าร่วมรับฟังการไต่ส่วนคดีในครั้งนี้เลย
เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนไม่มีทนายช่วยแก้ต่างคดีแต่อย่างใด เรื่องนี้ นายมันโซร์ สาและ นักวิชาการอิสระที่เข้าร่วมสังเกตการณ์การไต่สวนคดี 3 คนไทย กล่าวว่า น่าจะมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะคดีใหญ่ๆ แบบนี้ หากลงโทษอย่างไม่ยุติธรรม จะเกิดปัญหาตามมา
“เราไม่รู้ว่าผู้ต้องหามีวัตถุระเบิดจริงหรือไม่ การที่ศาลบอกว่าให้รอผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ก่อน ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเกิดผู้ต้องหาถูกกล่าวหาด้วยกฏหมายไอเอสเอ (กฎหมายความมั่นคงภายในของมาเลเซีย หรือ Internal Security Act) ก็มีสิทธิ์ถูกขัง 2 ปีเป็นอย่างต่ำ หรือมิฉะนั้นก็ขังยาวไปเลย ฉะนั้นเชื่อว่าศาลจะพิจารณาคดีนี้อย่างรอบคอบ เพราะอยู่ในความสนใจทั้งของสื่อและประชาชน” นายมันโซร์ กล่าว และว่าอยากให้ญาติพี่น้องของผู้ต้องหา รวมทั้งองค์กรสิทธิมนุษยชนมาเลเซียมาร่วมสังเกตการณ์การพิจารณาคดีทุกขั้นตอน เพื่อให้ผู้ต้องหาได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด
อนึ่ง การจับกุม 3 คนไทยจนนำมาสู่การไต่สวนคดีด้วยข้อหาอุกฉกรรจ์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2552 โดยตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านเช่าของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เลขที่ 17 บ้านแกเด็ง ตำบลบาโงสะโต อำเภอปาเสมัส รัฐกลันตัน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านแฆแบ๊ะ หมู่ 1 ต.นานาค อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และพบของกลางหลายรายการ อาทิ กระสุนปืนพกสั้นขนาด .32 จำนวน 48 นัด กระสุนปืนพกสั้น ขนาด .38 จำนวน 210 นัด ไดนาไมท์จำนวน 136 แท่ง คู่มือประกอบวัตถุระเบิด 6 เล่ม ปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรท จำนวน 5 กิโลกรัม รีโมทคอนโทรลที่ใช้กับรถยนต์จำนวน 6 ชุด ถ่านไฟฉายขนาด 12 โวลต์จำนวน 8 ก้อน ถ่านไฟฉายขนาด 9 โวลต์จำนวน 9 ก้อน รถยนต์เก๋งยี่ห้อโปรตรอน สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน WKB 7153 อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และอาก้า จำนวน 2 กระบอก และแผนที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นต้น จากนั้นได้ขยายผลจับกุมคนไทยเพิ่มอีก 8 คน เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่บ้านรันตูปันยัง รัฐกลันตัน แต่ทั้งหมดได้รับการปล่อยตัว หรือไม่ก็ถูกดำเนินคดีในข้อหาเบา เนื่องจากไม่พบว่าพัวพันกับประเด็นความมั่นคง
สำหรับนายมูฮำหมัดฟาโร บินยาการียา มีชื่อตามบัตรประชาชนไทยว่า นายมามะกอยรี สือแบ ขณะที่ นายสารี มูฮำหมัด บินอับดุลฮาสิ มีชื่อตามบัตรประชาชนไทยว่า นายมูฮัมหมัดซีดี สาและ
---------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1. เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว 3 คนไทยไปที่ศาลปาเจสเตต ปาเสมัส ท่ามกลางการคุ้มกันอย่างแน่นหนา
2-3. บรรยากาศบริเวณหน้าศาลและสื่อมวลชนที่ตามไปเฝ้าสังเกตการณ์
อ่านประกอบ :
1. เบื้องลึกมาเลย์จับ 11 คนไทย ยังมิใช่บทพิสูจน์กระชับความสัมพันธ์
2. เปิดรายละเอียด 3 คนไทยถูกมาเลย์รวบพร้อมระเบิด ยะลา “วิ” รายวัน
3. มาเลย์รวบ 3 คนไทยสงสัยผลิตระเบิดป่วนใต้ ยะลาวิสามัญฯ 2 ศพ