วิจารณ์แซ่ดจัดทดสอบ“จีที 200” ใต้ปะทะเดือดวาเลนไทน์ “วิฯ”อีกศพ
อะหมัด รามันห์สิริวงศ์
แวดาโอ๊ะ หะไร และทีมข่าวอิศรา
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
กระทรวงวิทย์จัดทดสอบ “จีที 200” แล้ว คุมเข้ม 100% วิจารณ์แซ่ดเปลืองงบ-หวั่นล็อคผล แถมทหารยังไม่สนเตรียมแถลงใช้ต่อ ด้านสถานการณ์ใต้ยังเดือด ปะทะที่บาเจาะดับแกนนำ 1 ศพ รวบได้อีกสาม เป็นผู้ต้องหาวางระเบิดสังหารนายอำเภอไม้แก่น บึ้มที่รามันทหารเจ็บ 2 ปัตตานีดุยิงกลางตลาดนัด-สนามแข่งนก ขณะที่ อส.ยะลาจัดสวนสนามโชว์ความพร้อม
ทีมนักวิทยาศาสตร์และทหารหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด (อีโอดี) จากกองทัพบก ได้ปฏิบัติการทดสอบประสิทธิภาพเครื่องตรวจร่องรอยสสารระยะไกล หรือที่รู้จักกันดีในนาม “เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200” อย่างเป็นทางการแล้วที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย คลองหก จ.ปทุมธานี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ก.พ.2553 ซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์ โดยกันผู้ไม่เกี่ยวข้องรวมทั้งสื่อมวลชนไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ทดสอบอย่างเด็ดขาด และห้ามผู้ทดสอบทุกคนนำเครื่องมือสื่อสารเข้าไปภายในสถานที่ทดสอบด้วย
คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการทดสอบประสิทธิภาพเครื่อง จีที 200 กล่าววว่า สาเหตุที่ต้องกันไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ ก็เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากวัตถุ บุคคล และคลื่นโทรศัพท์มือถือ ถือเป็นการควบคุมสภาวะแวดล้อมในพื้นที่ทดสอบมากที่สุด เช่น อุณหภูมิจากเครื่องปรับอากาศ ความชื้น แรงลม เพื่อให้ผลการทดสอบเป็นไปอย่างโปร่งใสมากที่สุด
ทั้งนี้ วิธีทดสอบใช้สารระเบิดซีโฟร์ประมาณ 570-580 กรัม ซึ่งผ่านการตรวจว่าปลอดการปนเปื้อน จากนั้น นส.สุจินดา โชติพานิช ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นผู้นำสารระเบิดบรรจุลงในกล่องปิดผนึกแน่นหนาซ้อนกัน 3 ชั้น ซึ่งกล่องลักษณะดังกล่าวจะมีทั้งหมด 4 ใบ ใช้ปิงปองสุ่ม และเซ็นซื่อกำกับ โดย น.ส.สุจินดา ไม่ได้เข้าไปยังพื้นที่ทดสอบ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย และตรงตามหลักการที่เรียกว่า Double Blind Testing ซึ่งผู้ซ่อนกับผู้ค้นหาจะต้องไม่เจอหน้ากัน
การทดสอบดำเนินไปภายในห้องประชุมอาคารบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ คลอง 6 จ.ปทุมธานี โดยทีมทดสอบแบ่งเป็น 3 ฝ่าย ได้แก่
- ฝ่ายซ่อนวัตถุ นำโดย นายเจษฏา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ออกมาเปิดโปงพิรุธกลไกการทำงานของเครื่องจีที 200 รวมถึงนักวิทยาศาสตร์แขนงต่างๆ จากหลายหน่วยงาน
- ฝ่ายค้นหาวัตถุ นำโดย พ.อ.ทวีศักดิ์ จันทราสินธุ์ ผู้บังคับหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด หน่วยเฉพาะกิจอโณทัย
- กรรมการกลาง นำโดย นายเจะอามิง โตะตาหยง ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้มีหน้าที่ตัดสินใจในกรณีเกิดเหตุขัดข้อง
ทั้งนี้ ทั้ง 3 ฝ่ายจะไม่ได้พบปะกันเลย ใช้เพียงเครื่องอินเตอร์คอมสำหรับการสื่อสารเท่านั้น โดยการทดสอบกระทำถึง 20 รอบ และผลที่ได้จากการทดสอบในแต่ละครั้งได้บรรจุลงในซอง เซ็นชื่อกำกับโดยกรรมการ 3 ฝ่าย เก็บไว้ในตู้นิรภัย ก่อนที่จะเปิดพร้อมกันเพื่อสรุปผลหลังการทดสอบแล้วเสร็จต่อหน้าคณะกรรมการทั้ง 20 คนในการประชุมครั้งสุดท้าย ก่อนนำผลที่ได้รายงานต่อคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 16 ก.พ.
ส่วนสาเหตุที่ไม่มีการผ่าเครื่องจีที 200 นั้น คุณหญิงกัลยา ชี้แจงว่า เนื่องจากกองทัพมีสัญญากับบริษัทผู้ผลิต สิ่งที่ทำได้คือทดสอบประสิทธิภาพว่าใช้ได้มากน้อยแค่ไหนเท่านั้น แต่จะไม่บอกว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร การตัดสินใจขั้นสุดท้ายอยู่ที่คณะรัฐมนตรี
ภายหลังการทดสอบ กรรมการทุกคนไม่มีใครให้ข่าวตามที่ตกลงกันไว้อย่างเคร่งครัด โดยมอบหมายให้ นายพันธศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการทดสอบ เป็นผู้แถลงเพียงผู้เดียว
รุมวิจารณ์ “เปลืองงบ-หวั่นล็อคผล”
การจัดทดสอบประสิทธิภาพของเครื่อง จีที 200 ครั้งนี้ แม้จะดำเนินไปอย่างรัดกุมทุกขั้นตอน แต่ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายไม่น้อยเหมือนกัน โดยเฉพาะประชาชนทั่วไปที่แสดงความคิดเห็นทางอินเทอร์เน็ต
ทั้งนี้ ความเห็นส่วนใหญ่เป็นการตั้งคำถามว่า เสียงบประมาณจำนวนมากมายในการทดสอบนี้ทำไม เพราะจากการตรวจสอบของสื่อมวลชนและนักวิทยาศาสตร์ตลอดหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเครื่องจีที 200 เป็นเพียงแท่งพลาสติกเปล่าๆ ไม่มีหลักการทางวิทยาศาสตร์ใดๆ รองรับ และไม่มีนักวิชาการด้านฟิสิกส์ท่านใดออกมายืนยันหลักการทำงานของเครื่องมือนี้เลยแม้แต่รายเดียว
ส่วนการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ และจัดการทดสอบแบบปิดลับ พร้อมตั้งเงื่อนไขให้ทุกฝ่ายยอมรับผลการตรวจสอบไม่ว่าจะออกมาอย่างไร โดยเฉพาะกลุ่มที่ต่อต้านการใช้เครื่อง จีที 200 ก็ถูกตั้งข้อสังเกตเช่นกันว่าจะมีการล็อคผลการทดสอบเอาไว้ก่อนหรือไม่ เนื่องจากมีข่าวมาตลอดว่ากองทัพพยายามล็อบบี้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเดินหน้าใช้เครื่อง จีที 200 ต่อไป อีกทั้งต้องยืนยันว่าเครื่องมือชนิดนี้ใช้ได้ผลจริง เพื่อป้องกันการถูกสอบสวนย้อนหลังถึงกระบวนการจัดซื้อซึ่งล้วนแต่ใช้วิธีพิเศษ และมีความแตกต่างของราคาต่อเครื่องในการจัดซื้อแต่ละครั้งหลายแสนบาท (600,000-1,200,000 บาท)
ทหารไม่สน-เดินหน้าใช้ต่อ
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) และกองบัญชาการผสมพลเรือนตำรวจทหาร (พตท.) หน่วยงานที่ใช้เครื่องจีที 200 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจากการสำรวจล่าสุดมีใช้อยู่ทั้งสิ้น 541 เครื่อง ไม่ใช่ 535 เครื่องนั้น มีรายงานว่า ไม่ว่าผลการทดสอบจะออกมาอย่างไร กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ก็จะเปิดแถลงข่าวแสดงความมั่นใจในประสิทธิภาพของเครื่อง และเดินหน้าใช้ในพื้นที่ต่อไป
ปะทะเดือดที่บาเจาะ “วิฯ 1 รวบ 3”
ด้านสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงวันวาเลนไทน์และเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย โดยเมื่อเวลา 06.30 น.วันอาทิตย์ที่ 14 ก.พ.2553 น.ต.อมร ควรหาเวช รองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 สนธิกำลังร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 26 จำนวน 100 นาย เข้าพิสูจน์ทราบในพื้นที่หมู่ 3 บ้านคลอแระ ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส หลังรับแจ้งเบาะแสจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์แปลกหน้าประมาณ 5-6 คนเข้าไปซ่องสุมกำลังและกบดานที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านดังกล่าว คาดว่าเพื่อประชุมวางแผนเตรียมก่อเหตุร้ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนและวันวาเลนไทน์
อย่างไรก็ดี ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเดินเท้าเข้าไปโอบล้อมบ้านต้องสงสัย เลขที่ 38 หมู่ 3 บ้านคลอแระ ซึ่งเป็นบ้านไม้ยกพื้นชั้นเดียวนั้น ปรากฏว่ามีผู้ต้องสงสัยซึ่งซ่อนตัวอยู่ในบ้านใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มเข้าใส่เจ้าหน้าที่ จนเกิดการยิงปะทะกันอย่างดุเดือดนานกว่า 30 นาที
หลังเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ และพบผู้เสียชีวิต 1 รายคือ นายมูฮำหมัดนาวาวี แมยุ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 280 บ้านกือดายือริง หมู่ 8 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ เป็นอดีตครูสอนศาสนาโรงเรียนปอเนาะแห่งหนึ่งใน อ.บาเจาะ มีพฤติกรรมเป็นแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบกลุ่มของ นายวาเหะ กะดิง ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.บาเจาะ และบางอำเภอของ จ.ปัตตานี ทั้งนี้ นายมูฮำหมัดนาวาวีเสียชีวิตในสภาพสวมชุดสีดำ ข้างกายมีปืนพกสั้นขนาด 11 ม.ม.ตกอยู่ 1 กระบอก
นอกจากนั้นยังสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อีก 2 คน คือ นายอับดุลฮาซิส สาและ อยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ 4 ต.ดอนทราย อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี มีหมายจับคดีความมั่นคงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) ถึง 12 หมาย รางวัลนำจับ 2 ล้านบาท โดยหนึ่งในนั้นมีคดีวางระเบิดสังหาร นายชยพัทธ์ รักษายศ นายอำเภอไม้แก่น เสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2550 บนถนนสายบ้านกูวิง หมู่ 3 ต.ไทรทอง อ.ไม้แก่น ด้วย
อีกรายคือ นายคอลี ซูเดาะ อยู่บ้านเลขที่ 58/1 หมู่ 4 ต.ดอนทราย อ.ไม้แก่น มีหมายจับในคดีความมั่นคง 1 หมาย คือคดีลอบวางระเบิดสังหารนายอำเภอไม้แก่น ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังได้ควบคุมตัว นายอัมเซาะ สาเมาะ อายุ 23 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ไปดำเนินคดีในฐานะให้ที่พักพิงกับกลุ่มผู้ไม่หวังดีด้วย ส่วนผู้ต้องสงสัยภายในบ้านหลบหนีไปได้ 1 คน
อุกอาจจ่อยิงทหารพรานดับคาตลาดนัด
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 13.30 น. วันศุกร์ที่ 12 ก.พ. คนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายมะสาบารี เจ๊ะเต อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 4 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้รับบาดเจ็บขณะขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนสายปาลัส-มายอ ท้องที่หมู่ 6 ต.ลางา อ.มายอ จ.ปัตตานี เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุว่าเป็นความแค้นส่วนตัวหรือเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ในท้องที่ ต.โสร่ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี คนร้าย 3 คนใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 จ่อยิง อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) อันวา ยามา อายุ 30 ปี สังกัดกรมทหารพรานที่ 41 จ.ยะลา ขณะเดินซื้อของอยู่ในตลาดนัด โดยหนึ่งในคนร้ายใช้อาวุธปืนจ่อยิงเข้าที่ศีรษะ สุดท้าย อส.ทพ.อันวา เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
บึ้มทหารเจ็บ 2 ที่รามัน-ยิงสนั่นยะลาอีก 3 จุด
ช่วงเช้าวันเดียวกัน เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบนถนนสายรามัน-ท่าธง ท้องที่บ้านกือเม็ง หมู่ 1 ต.อาซ่อง อ.รามัน จ.ยะลา ห่างจากโรงเรียนบ้านตะโล๊ะสะดา ประมาณ 600 เมตร โดยใช้ระเบิดชนิดแสวงเครื่อง จุดชนวนด้วยรีโมทคอนโทรล เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหาร สังกัดร้อย ร.152113 หน่วยเฉพาะกิจยะลา 12 ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเส้นทางเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับคณะครู ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ พลทหารเจ๊ะดาฮารี เจ๊ะอาแว อายุ 23 ปี และ พลทหารฮำดีละ หามะ อายุ 21 ปี ทั้งคู่อาการสาหัส เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 02.25 น.วันพฤหัสบดีที่ 11 ก.พ. เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามเอ็ม 16 ยิงถล่ม นายอัสมิน แวกาจิ อายุ 30 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ขณะขับรถกระบะกลับจากเที่ยวผับแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครยะลา จุดเกิดเหตุอยู่บนถนนสิโรรส ข้างโรงแรมยะลาชางลี อ.เมือง จ.ยะลา โดยคนร้ายใช้รถกระบะเป็นพาหนะ และทำให้ นายอัสมิน ได้รับบาดเจ็บสาหัส เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ หรือเป็นเหตุส่วนตัวที่อาจจะมีปัญหากับคู่อริในผับ
เวลา 13.45 น.วันเดียวกัน คนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดที่หน้าบ้านเลขที่ 158/1 ซอยธนวิถี ในเขตเทศบาบลนครยะลา แล้วกราดยิงเข้าไปในกลุ่มวัยรุ่นที่นั่งดื่มเบียร์อยู่หน้าบ้าน เป็นเหตุให้ นายเกรียงศักดิ์ ภู่พันธ์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 245/81 หมู่ 4 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา ถูกยิงเข้าที่หน้าแข้งขวา ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบหรือไม่
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 11.50 น.วันพุธที่ 10 ก.พ.2553 เกิดเหตุคนร้ายลอยยิง นายเปาซี ยูโต๊ะ อายุ 39 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านบัวทอง อ.ธารโต จ.ยะลา ขณะขับรถกระบะอยู่บนทางหลวงหมายเลข 410 (ยะลา-เบตง) ในท้องที่หมู่ 5 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เป็นเหตุให้ นายเปาซี ได้รับบาดเจ็บ สันนิษฐานว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบเช่นกัน
เวลา 13.00 น. วันพุธที่ 10 ก.พ. คนร้ายใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 จ่อยิง นายสมคิด ไชยนุ้ย อายุ 47 ปี อดีตอาสารักษาดินแดน (อส.) อ.เทพา จ.สงขลา ขณะเดินดูนกอยู่ในสนามแข่งนกกรงหัวจุก ท้องที่บ้านปรัง หมู่ 1 ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จนล้มคว่ำเสียชีวิตท่ามกลางสายตาชาวบ้านจำนวนมาก โดยคนร้ายยังขโมยปืนที่เอวของผู้ตาย ก่อนขึ้นรถจักรยานยานยนต์ที่เพื่อนติดเครื่องรออยู่ ขับหลบหนีไปอย่างลอยนวล
อส.-ทหารพราน-ชรบ.สวนสนามโชว์ความพร้อม
ช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่สนามศูนย์เยาว์ชนเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานเปิดงานวันคล้ายวันสถาปนากองร้อยรักษาดินแดน ซึ่งมีการจัดพิธีสวนสนามของกองกำลังอาสาสมัครรักษาดินแดนจำนวน 3,324 นาย จาก 8 อำเภอของ จ.ยะลา และหน่วยกำลังอาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ชุดรักษาปลอดภัยประจำหมู่บ้าน (ชรบ.) เพื่อแสดงถึงพลานุภาพ ศักยภาพ และความสมัครสมานสามัคคีที่พร้อมจะปกป้องอธิปไตยของชาติร่วมกับกองกำลังหลักในพื้นที่ รวมทั้งคลี่คลายสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ลุล่วงไป
--------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พิธีสวนสนามของกองกำลังอาสารักษาดินแดน จ.ยะลา พร้อมด้วยอาสาสมัครทหารพราน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เพื่อแสดงความพร้อมและความสมัครสมานสามัคคี