เอกสารประกอบการสัมมนา แผนชุมชนชีวิตพึ่งตนเอง เรื่อง เรียนรู้บ้านห้วยลิงตก ตำบลบางเจ้าฉ่า อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง
เรียนรู้บ้านห้วยลิงตก ตำบลบางเจ้าฉ่า อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง
ก่อนหน้านี้เป็นอย่างไรอดีตหมู่ที่ 1 ตำบลบางเจ้าฉ่า เดิมนั้นเป็นหมู่บ้านที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อม การประกอบอาชีพ การทำมาหากิน และทางด้านของคุณธรรมและจริยธรรม มีความเป็นอยู่ที่เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันฉันท์พี่น้องเพื่อนบ้านที่รักใคร่กัน มีการแบ่งปันกันทั้งอาหาร พืชผักสวนครัว หรืออาจพูดได้ว่าในสมัยก่อนนั้นไม่มีเงินก็สามารถอยู่ในหมู่บ้านได้ มีความเป็นห่วงเป็นใยกันรักใคร่สามัคคีกัน มีคุณธรรมไปทำบุญที่วัดทุกวันพระไปทั้งครอบครัว มีความรักอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันจึงทำให้ครอบครัวมีความอบอุ่น มีการเลี้ยงดูลูกตามวิถีชาวบ้านเลี้ยงด้วยความรักและความเอาใจใส่ดูแลจึงทำให้คนสมัยก่อนเป็นคนดีและมีคุณธรรม ส่วนการปกครองนั้นสมัยก่อนเป็นการปกครองกันแบบ พ่อปกครองลูก หรือพี่ปกครองน้อง จึงเป็นปกครองที่ง่ายและไม่มีการแบ่งชนชั้น ไม่มีการถือยศศักดิ์จึงทำให้เกิดความรักสามัคคี มีส่วนร่วมกันในทุกเรื่องและทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตามที่ต้องร่วมกันตัดสินใจก็จะต้องมีการพูดคุยกันกับชาวบ้าน การประกอบอาชีพสมัยก่อนนั้นการประกอบอาชีพเป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งยากมากมาย เพราะอาชีพส่วนใหญ่ของคนที่นี่คืออาชีพทางด้านการเกษตร เช่น การทำนา ทำสวน เป็นหลัก และส่วนใหญ่นั้นทำอยู่ภายในหมู่บ้านภายในชุมชน หรือในพื้นที่บริเวณบ้านของตนเอง ไม่ต้องเดินทางไปที่อื่นที่ไกลบ้านหรือต้องแยกย้ายจากครอบครัว จึงทำให้ไม่มีหนี้สินเกิดขึ้นในครอบครัว
ปัจจุบันหมู่ที่ 1 ตำบลบางเจ้าฉ่า เกิดการเปลี่ยนแปลงไปมากทำเกิดสภาพความเป็นอยู่ที่เป็นวิถีชีวิตแบบเดิมนั้นแทบไม่หลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย เหตุผลเพราะว่าปัจจุบันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อม การประกอบอาชีพ คุณธรรมที่เคยมีก็น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อสังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนั้นสิ่งที่ตามมาก็คือปัญหามากมายที่ตามมา เช่นปัญหาทางด้านความเป็นอยู่จะเห็นได้ผู้คนนั้นรู้จักกันน้อยลง เพราะว่าปัจจุบันบ้านเรากำลังใช้ชีวิตแบบคนเมือง คือ มีการพูดคุยกันน้อยลง ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นเพราะคนเราใช้ชีวิตไปตามวิวัฒนาการของสังคม ตามกระแสนิยมใช้ของที่สร้างมลภาวะ เช่น การใช้ถุงพลาสติก ใช้กล้องโฟม กระดาษฟรอยส์ การตัดไม้ทำลายป่าเพื่อมุ้งเน้นเรื่องของธุรกิจเป็นหลัก การประกอบอาชีพนั้นยากลำบากขึ้น เกิดการแย่งชิงกันมากขึ้น จึงทำให้เกิดการอพยพหรือการย้ายถิ่นฐานไปทำงานที่ไกลบ้าน ครอบครัวนั้นต้องแยกย้ายกันไปอยู่คนละทิศคนละทาง จึงทำให้เกิดปัญหาตามมาอีกหลายเรื่อง เช่น ปัญหาการถูกทอดทิ้งของเด็กและผู้สูงอายุ และสังคมอีกหลายเรื่อง การใช้ชีวิตตามกระแสทุนนิยมก่อให้เกิดหนี้สิน ความไม่รู้จักพอและอีกมากมาย
การขับเคลื่อนหมู่บ้านแห่งการเรียนรู้เป็นอย่างไร หมู่บ้านแห่งการเรียนรู้นั้นคือการเรียนรู้ของชุมชน และคนในชุมชน เริ่มจากการเรียนรู้ตนเอง คือ การมองตนเองให้ได้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเรานั้นเป็นอย่างไร เรามีความสามารถเรื่องใดบ้าง เราทำอะไรได้บ้าง เรียนรู้ครอบครัว คือ การเรียนรู้ว่าวันนี้ครอบครัวเราเป็นอย่างไร มีปัญหาเรื่องอะไรแล้วจะแก้ไขอย่างไร เรียนรู้ชุมชน คือการเรียนว่าชุมชนเรานั้นเป็นอย่างไร คนในชุมชนเป็นอย่างไร วิถีชีวิตของคนในชุมชน การประกอบอาชีพหลักคืออะไร รองคืออะไร ซึ่งการเรียนรู้ในทุกเรื่องที่กล่าวมาข้างตนนั้นส่วนใหญ่มาจากข้อมูลหรือสิ่งที่เราได้เห็นได้รับรู้แล้วจดบันทึก สิ่งที่เราได้นั้น คือ ภูมิปัญญาที่เรามีอยู่ภายในชุมชน เช่น ภูมิปัญญาเรื่องของช่างไม้และช่างปูน การประกอบอาหารและการถนอมอาหาร การแปรรูปอาหาร อาชีพต่าง ๆ ซึ่งภูมปัญญาที่เราได้รู้นั้นเราสามารถนำมาพัฒนาสร้างเป็นอาชีพที่เกิดรายได้กับคนในชุมชน เป็นการสร้างรายได้ให้กับผู้ที่ไม่มีรายได้ หรือผู้ที่เป็นกลุ่มที่ด้อยโอกาสจากการที่เราได้รับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับชุมชน หมู่ที่ 1 ตำบลบางเจ้าฉ่า ได้นำสิ่งที่เป็นภูมิปัญญามาสร้างเป็นอาชีพได้แก่ การจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนภายในหมู่บ้าน จำนวน 7 กลุ่ม คือ
- กลุ่มร้านค้าชุมชน สมาชิกของกลุ่มส่วนใหญ่เป็นสมาชิกภายในชุมชน และจะมีสมาชิกนอกชุมชนบ้าง เป็นกลุ่มที่ส่งเสริมการพึ่งพาภายนอกให้น้อยที่สุดส่งเสริมให้คนในชุมชนใช้เงินหมุนเวียนภายในชุมชนให้มากที่สุด
- กลุ่มแปรรูปอาหาร สมาชิกกลุ่มจะเป็นกลุ่มสตรีที่ไม่มีรายได้ที่แน่นอนและเป็นสตรีที่ต้องการที่มีรายได้เสริมหรือเป็นกลุ่มสตรีที่มีปัญหาหรือด้อยโอกาสที่อยู่ในชุมชน
- กลุ่มจักสานหวาย เป็นกลุ่มอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับกลุ่มสตรีที่ต้องการมีรายได้เสริมเพื่อเป็นการลดรายจ่ายหรือ บางคนหรือบางครอบครัวนั้นอาจยึดเป็นอาชีพหลักก็ได้ซึ่งเป็นกลุ่มที่เกิดจากการฟื้นฟูภูมิปัญญาของชุมชน
- กลุ่มรมมณีหล่อเสา /กลุ่มอิฐบล็อก สมาชิกกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่ตกงานจากโรงงานอุตสาหกรรมแล้วกลับมาอยู่ที่บ้านแล้วไม่มีรายได้จึงจัดตั้งกลุ่มเพื่อเป็นการสร้างอาชีพให้กับคนกลุ่มนี้บางคนถือเป็นอาชีพหลัก
- กลุ่มรีไซเคิล เป็นกลุ่มที่เกิดขึ้นเนื่องจากวันนี้ปัญหาของชุมชนคือ ในชุมชนมีขยะเยอะมากและไม่มีที่ทิ้ง ทำให้เกิดมลพิษจึงเกิดแนวคิดจากการประชุมประชาคมของชาวบ้านเกี่ยวกับการกำจัดขยะสมาชิกกลุ่มจะเป็นผู้ด้อยโอกาสที่ไม่สามารถทำงานหนักได้
- กลุ่มดอกไม้จัน สมาชิกกลุ่มจะเป็นผู้สูงอายุ และคนพิการที่อยู่ในชุมชนเพราะจะเป็นงานที่สามารถนำกลับไปทำที่บ้านได้ ในเวลาว่าง
- กลุ่มออมทรัพย์ เป็นกลุ่มที่สมาชิกส่วนใหญ่จะเป็นคนที่อยู่ในชุมชน กลุ่มนี้จะส่งเสริมเรื่องของการออมเงิน และส่งเสริมเรื่องของการประกอบอาชีพในเรื่องของเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่กล่าวมาข้างตนนั้นเป็นกลุ่มหลักที่เกิดขึ้นในชุมชนและเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน และได้ส่งเสริมเรื่องของการเรียนรู้จนกลายเป็นหมู่บ้านแห่งการเรียนรู้ในด้านต่าง ๆ ที่มีอยู่ในชุมชน
ผลที่เกิดขึ้นอย่างไร
จากปัญหาที่เกิดขึ้นข้างต้นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้หมู่ที่ 1 ตำบลบางเจ้าฉ่าได้เกิดกระบวนการเรียนรู้หลายด้าน แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ชาวบ้านได้มองเห็นตัวตนที่แท้จริงของเขาก็คือ การจัดทำเรื่องของแผนชีวิตชุมชน บางคนอาจมองว่าแผนชุมชนเป็นสิ่งที่ไรประโยชน์ ทำแล้วไม่เห็นจะได้อะไร ซึ่งคนที่นี่ส่วนหนึ่งก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน แต่วันนี้ชาวบ้านที่นี่กลับเปลี่ยนความคิดอย่างสิ้นเชิง เพราะวันนี้เขาได้รับรู้แล้วว่าแผนชีวิตชุมชนเกิดประโยชน์กับตัวเขาอย่างไร เกิดประโยชน์อะไรกับครอบครัวเขา เกิดประโยชน์อะไรกับชุมชนที่เขาอยู่ แผนชีวิตชุมชนสอนให้คนในชุมชนรู้จักคิด ไม่ได้สอนให้รู้จักการขอ เพราะฉะนั้นเขาจึงรู้จักคิดว่าทำอย่างไรเขาจึงจะอยู่ในสังคมได้โดยพึ่งตนเองให้ได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นจึงเกิดกระบวนการคิดพึ่งตนเองและช่วยเหลือกันภายในชุมชนทำให้เกิดกลุ่มกิจกรรมมากมายที่สร้างรายได้ และลดรายจ่ายชุมชน การนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ส่งเสริมการปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ การจัดพื้นที่ปลูกผักเพื่อขายในชุมชน ส่งเสริมการใช้พื้นที่ว่างเปล่าริมคลองชลประทานในการปลูกผักสวนครัว และการส่งเสริมเรื่องของอาชีพเสริมให้กับผู้ว่างงาน ก่อให้เกิดกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมากมาย ในการพึ่งพาตนเอง
วันนี้ชาวบ้านหมู่ที่ 1 ได้รับรู้ว่าแผนชีวิตชุมชนไม่ได้สอนให้เขา ขอ หรือรอ เท่านั้น แต่แผนชุมชนสอนให้เขารู้จักการคิดที่จะพึ่งตนเองเป็นหลัก สอนให้เขารู้จักการนำสิ่งดี ๆ ที่มีอยู่ในหมู่บ้านมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ ผลที่เกิดขึ้นที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ วันนี้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีความอบอุ่นขึ้นภายในครอบครัวและชุมชน เกิดความสามัคคี ความร่วมมือ การมีส่วนร่วมเพิ่มมากขึ้น หนี้สินที่มีลดลง และที่สำคัญชาวบ้านสามารถพึ่งตนเองได้ เพราะในเรื่องของการพัฒนาหรือการจะทำให้ชุมชนเข้มแข็งนั้นปัจจัยที่สำคัญของการพัฒนานั้น เงิน ไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกแล้ว