กูรูอาเซียน เทียบความสามารถ “ซูจี-ปู” ใครจริง ..ใครเก๊?
เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นายกวี จงกิจถาวร บรรณาธิการอาวุโสบริษัท เนชั่น มัลติมิเดียกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และประธาน South Asian Press Association (SEAPA) ในฐานะสื่อมวลชนอิสระผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิภาคอาเซียน กล่าวบรรยายพิเศษ เรื่อง “ประเทศไทยกับการเปิดเสรีอาเซียน ปี พ.ศ.2558” ให้กับผู้เข้าร่วมการอบรมหลักสูตรการสื่อสารมวลชนระดับต้น (กสต.) รุ่นที่ 3 ฟัง มีใจความสำคัญ ดังนี้
เวลานี้มีแต่คนเข้าใจว่า ประชาคมอาเซียน (Asean Community) ในปี พ.ศ.2558 มีแต่เรื่องประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community) หรือเออีซี เพียงอย่างเดียว ที่เป็นเช่นนั้นเพราะกระทรวงพาณิชย์ได้งบในการประชาสัมพันธ์ ถึง 183 ล้านบาท เลยเอาแต่ประโคมแค่เออีซีๆ ทั้งที่ จริงๆ ประชาคมอาเซียน มีถึง 3 เสาหลัก คือ 1.เศรษฐกิจ 2.ความมั่นคง และ 3.สังคมและวัฒนธรรม
อยากให้จำตัวเลข 2 ตัว นี้ “906-667” ตัวเลขแรกคือการนับถอยหลัง (countdown) คือจากวันนี้ (7 ก.ค.) เหลืออีกแค่ 906 วัน ก็จะเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ตัวเลขที่สองคือแผนปฏิบัติการ 667 ข้อ ที่ทุกประเทศจะต้องทำก่อนเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน แต่ผมเชื่อได้เลยว่า ไปถามน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หรือนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ว่าทำไปแล้วกี่ข้อ เชื่อว่าไมรู้เรื่อง
ผมยังเชื่ออีกว่า ที่เราตื่นตัวกันมากเรื่องประชาคมอาเซียน พอถึงปี พ.ศ.2558 จริง จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ที่หวังกันว่าใช้พาสปอร์ตเดียวแล้วไปทั่วอาเซียน ไม่น่าจะมีอะไร ไปพม่าก็ยังต้องขอวีซ่าอยู่ เพราะแต่ละประเทศจะยังกันกันอยู่ โดยอ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคง โดยเฉพาะสิงคโปร์
รู้ไหมว่า พาสปอร์ตไทยใช้เดินทางไปได้กี่ประเทศ โดยไม่ต้องขอวีซ่า? แค่ 24 ประเทศ กระจอกมาก พูดแล้วอยากเอาหัวมุดดิน ไต้หวันมีความสัมพันธ์กับแค่ 23 ประเทศ แต่พาสปอร์ตไต้หวันไปได้ 127 ประเทศ ขนาดพาสปอร์ตมอนเตเนโกรยังเข้าได้ตั้ง 57 ประเทศ ที่น่าสนใจ สหรัฐอเมริกากับไทยมีความสัมพันธ์มาเกือบ 128 ปีแล้ว ยังต้องไปเข้าคิวขอวีซ่าอยู่เลย แต่เช็กเพิ่งเกิด 10 กว่าปี ใช้พาสปอร์ตไปสหรัฐฯได้แล้ว ประเทศที่พาสปอร์ตไปได้มากที่สุดในโลกคืออะไรรู้ไหม? เดนมาร์กไง เข้าได้ 173 ประเทศ ไม่ต้องมีวีซ่า
ทั่วโลกชอบอาเซียน เพราะไม่มีศัตรู และดีแต่พูด คือไม่ชอบรบ มีอะไรก็มักจะบอกให้เจรจากันดีกว่า นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติสำคัญ อาทิ มีระบอบการปกครองที่หลากหลายมาก มีทั้งสุลต่าน เผด็จการทหาร คอมมิวนิสต์ ประชาธิปไตย ฯลฯ จนคล้ายดิสนีย์แลนด์ นับถือศาสนาก็หลากกลาย มีทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม ฯลฯ ที่สำคัญยังเป็นสังคมแบบ Top-Down คือต้องรอผู้ใหญ่สั่ง ซึ่งจะต่างกับ Bottom-Up อย่างอาหรับสปริงส์ ที่ถึงเวลานี้ หลายประเทศยังวุ่นวาย
ความจริงอาเซียน ควรมีสมาชิก 11 ประเทศ แต่ติมอร์ตะวันออกยังเข้ามาไม่ได้ เพราะสิงคโปร์ไม่เห็นด้วย คิดว่ายังยากจน ต่างกับออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หรืออินเดีย ที่มีแนวโน้มได้เป็นสมาชิกในอนาคต เนื่องจากเป็นประเทศที่มั่งคั่ง
ปัจจุบันถ้าถามว่า เอเชียตะวันออกหมายถึงอะไร? จะตอบให้ถูกต้องบอกว่า หมายถึงอาเซียน+3+3+2 ที่ต้องเป็นเช่นนี้ เพราะนับแต่ปี ค.ศ.1997 เป็นอาเซียน+3 คือ จีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ปี ค.ศ.2005 มี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และอินเดียเข้ามาอีก ขณะที่ปี ค.ศ.2012 เพิ่มอีก 2 ประเทศได้แก่รัสเซียและสหรัฐฯ ถามว่าทำไมรัสเซียและสหรัฐฯเป็นเอเชียตะวันออกด้วย นี่คือลักษณะเฉพาะของอาเซียน ที่ใครรวยก็ต้อนรับ ต่างกับติมอร์ตะวันออก ปากีสถานหรือปาปัวนิกินี ที่ขอเข้าร่วมกับอาเซียนมาหลายปี ถึงเวลานี้ยังไม่ได้เข้ามาเลย
สำหรับประเทศในอาเซียนที่ทั่วโลก จับตาเวลานี้ ได้แก่พม่า เมื่อปฏิรูปประเทศแล้ว มีแนวโน้มว่าสังคมจะเปิดกว้างและเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ต่างจากเวียดนาม ที่ยิ่งปฏิรูปยิ่งเพิ่มความเข้มข้นของระบบคอมมิวนิสต์ ที่เคยกลัวว่าเวียดนามจะแข่งกับไทย เป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้ พม่าจะเป็นตัวแปลสำคัญในอาเซียน เวลานี้พม่าจึงเป็น darling (ที่รัก) ของคนทั้งโลก เพราะ พม่าจะใช้นางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคฝ่ายค้านในพม่า เป็นตัวชูโรง โกยรายได้เข้าประเทศ เหมือนกับ Louis Vuitton ต่างกับของเรา ที่ถึงจะเป็น Prada ก็เป็นของปลอมทำในจีน
ผมไปฟังเวิร์ลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม นายกฯยิ่งลักษณ์เก่งมาก ตอนที่เปิดงาน ผู้นำต่างประเทศนั่งเรียงกัน นักข่าวเป็นภาษาอังกฤษ ว่าอีก 3 ปี อยากให้อาเซียนเป็นอย่างไร? ผู้นำอินโดนีเซีย ก็ตอบเป็นภาษาอินโดฯ ว่า ต้องการส่งเสริมให้อาเซียนมีพลังต่อรองมากขึ้นในเวทีโลก ผู้นำเวียดนามก็ตอบเป็นภาษาเวียดนามว่า อยากให้อาเซียนเป็นประชาคมเศรษฐกิจแท้จริง จะทำให้ฐานะประเทศดีขึ้น โอ้ว สุดยอด ผู้นำลาวก็พูดเป็นภาษาลาวนะ ต้องลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน ถ้าทำได้อาเซียนจะดัง พอมาเจอนายกฯยิ่งลักษณ์ ก็ตอบเป็นภาษาอังกฤษ ตอบอย่างไรรู้ไหม? “Oh! You know. Asean is very Good. We have to Work Together. Very Good” หารู้ไม่ว่า 15 นาที ก่อนหน้านี้ แกอ่านสุนทรพจน์เกี่ยวกับอาเซียน เรื่อง Connectivity ถ้าจำได้สัก 7 บรรทัด มาตอบว่า อยากจะให้อาเซียนมีเครือข่ายเชื่อมโยงทุกมิติ ทำให้อาเซียนมีความสมดุลมากขึ้น ผมจะให้ไปเลยพันคะแนน แต่นี่ กลับตอบไม่ได้
กรณีอู่ตะเภากับนาซ่า ผมเสียดายที่โครงการต้องล้มไป เพราะถูกทำให้เป็นเรื่องการเมือง แต่ความจริงเมื่อสหรัฐฯกับจีนแข่งขันกัน ถ้าไทยเดิมเกมการทูตดีๆ จะยิ่งมีมูลค่าสูงขึ้น แต่ไทยกลับเดินเกมเอา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯไทย กลับบ้านอย่างเดียว กลายเป็นพม่าที่ฉลาดกว่า และผมเชื่อว่าพม่าจะเป็นตัวแปรสำคัญของอาเซียน ด้วยคุณสมบัติ พูดภาษาอังกฤษได้ ต่างกับลาว เวียดนาม หรือกัมพูชา ที่พูดภาษาฝรั่งเศส ,ชอบสร้างความประทับใจให้ต่างชาติ ,ต้องการพิสูจน์ตัวเองหลังถูกด่ามาเยอะ และสังคมมีระเบียบวินัยมาก ด้วยระบบ Top-Down ที่สำคัญมีนางซูจีเป็นดาวเด่น เหมือนกับที่แอฟริกาใต้มีนายเนลสัน แมนเดล่า อดีตประธานาธิบดี เป็นดาวเด่น จนจัดฟุตบอลโลกปี ค.ศ.2010 ได้
แต่จุดอ่อนของนางซูจีก็เหมือนคุณ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯไทย คือแม้จะมีความรู้ การศึกษาดี แต่ไม่ค่อย connect (ต่อเชื่อม) กับภูมิภาคนี้ เวลาถามนางซูจีเรื่องชนกลุ่มน้อยโรฮิงญา ก็ตอบได้ไม่ค่อยดี หรือตอบไม่เข้าหูคน แต่หลังจากนี้ เชื่อได้ว่าพม่าจะใข้นางซูจีที่จะเดินเกมคู่ขนานกับพล.อ.เต็ง เส่ง ประธานธิบดีพม่า โดยความนิยมต่อประชาคมโลกของนางซูจี ถึงจุดสูงที่สุดไปเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ไปกล่าวสุนทรพจน์ตอนรับรางวัลโนเบล จากนั้นความนิยมจะเริ่มตกลงไป เพราะเป็นนักการเมือง
สถานการณ์พม่าเป็นอย่างนี้ ประเทศในอาเซียนที่จะอึดอัดก็คือกัมพูชา เพราะก่อนหน้านี้ กัมพูชาเคยเป็นดาวเด่น แต่สมัยนี้เป็นประเทศผีดิบ มีสมเด็จฮุน เซ็น เป็นผู้นำมากว่า 29 ปี แล้วความสัมพันธ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณกับสมเด็จฮุน เซ็นจะไม่ช่วยอะไรเรื่องคดีเขาพระวิหาร เมื่อศาลโลกมีคำตัดสินออกมาปลายปีนี้ ขอให้จับตาดู ส่วนทหารพม่า ผมไม่ค่อยห่วง เพราะเชื่อว่าจะเหมือนทหารอินโดนีเซีย ที่ต้องการรักษาความมั่นคงในประเทศ ถ้ามีเรื่องน่าห่วงคือปัญหาชนกลุ่มน้อย ที่ถึงเวลานี้ พม่า-ไทย-จีน ยังไม่ได้คุยกันอย่างจริงจัง แถมสภาความมั่นคงไทย ก็กำลังจะเปลี่ยนตัวเลขาธิการอีก
ผลกระทบการปฎิรูปประเทศของพม่า ผมเชื่อว่า อีกไม่นานแรงงานพม่า 3 ล้านคนในไทยจะเดินทางกลับ และขอให้คนไทยเตรียมรับแรงงานจากเนปาลและบังคลาเทศได้เลย ซึ่งจะนำปัญหาตามมาค่อนข้างมาก เพราะแรงงานพม่ามีฝีมือมากกว่า อีกคนทั้ง 2 ชาติหลัง ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธเหมือนคนพม่า ถึงเวลานั้น โครงสร้างระดับล่างในสังคมไทยจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง!