ก.คลังฯรวมมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปี ๒๕๕๔
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปี 2554 เนื่องจากได้เกิดอุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ก่อให้เกิดความเสียหายและเดือดร้อนรุนแรงแก่เกษตรกร ประชาชนและผู้ประกอบการอย่างกว้างขวาง ซึ่งต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนกระทรวงการคลังจึงได้กำหนดมาตรการใน การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปี 2554 ดังนี้
๑. มาตรการด้านการเงิน
ได้กำหนดมาตรด้านการเงินโดยผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐและธนาคารกรุงไทย
จำกัด (มหาชน) โดยมีหลักการในการให้ความช่วยเหลือเช่นเดียวกับมาตรการ ปี ๒๕๕๓ ดังนี้
๑.๑ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
ธ.ก.ส. ได้กำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือ ดังนี้
๑.๑.๑ มาตรการให้ความช่วยเหลือ
(๑) กรณีลูกค้าเสียชีวิตจากอุทกภัยดังกล่าว จะจำหน่ายลูกหนี้ออกจากบัญชีเป็นหนี้สูญ โดย ธ.ก.ส. รับภาระเอง
(๒) กรณีลูกค้าประสบภัยอย่างร้ายแรงและไม่เสียชีวิต
(๒.๑) หนี้เงินกู้เดิมที่มีอยู่ก่อนประสบภัย
(๒.๑.๑) ขยายเวลาการชำระหนี้เงินกู้เป็นเวลา ๓ ปี ตั้งแต่ปี
บัญชี ๒๕๕๔-๒๕๕๖
(๒.๑.๒) งดคิดดอกเบี้ยเงินกู้เป็นเวลา ๓ ปี ตั้งแต่ปีบัญชี
๒๕๕๔-๒๕๕๖
(๒.๑.๓) หากการให้ความช่วยเหลือข้างต้นยังคงเป็นภาระหนัก
แก่ลูกค้า ธ.ก.ส. จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้วยการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูอาชีพให้สอดคล้องกับความสามารถ
ในการชำระหนี้
(๒.๒) การให้เงินกู้ใหม่เพื่อฟื้นฟูการประกอบอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิต
(๒.๒.๑) กรณีลูกค้าทั่วไป :
๑) ให้เงินกู้รายละไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
๒) ลดดอกเบี้ยเงินกู้จากอัตราปกติที่ ธ.ก.ส.เรียกเก็บ
จากลูกค้าลง ร้อยละ ๓ ต่อปี เป็นเวลาไม่เกิน ๓ ปี
๔) ธ.ก.ส. จะลดหย่อนหลักประกันการกู้เงินจากหลักเกณฑ์ปกติ ดังนี้
๔.๑) กรณีกู้เงินโดยจำนองอสังหาริมทรัพย์
เป็นประกัน ให้ขยายวงเงินกู้จากที่กู้ได้ไม่เกินครึ่งหนึ่งของวงเงินจดทะเบียนจำนอง เป็นให้กู้ได้ไม่เกินวงเงิน
จดทะเบียนจำนอง
๔.๒) กรณีกู้เงินโดยใช้กลุ่มลูกค้ารับรองรับผิดชอบอย่างลูกหนี้ร่วมตั้งแต่ ๕ คนขึ้นไป ให้ขยายวงเงินในการค้ำประกันจากรายละไม่เกิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท เป็นไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท
(๒.๒.๒) กรณีลูกค้าเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำหรือประมง :
๑) ให้เงินกู้แก่ลูกค้าที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เรือประมงขนาดเล็ก รายละไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท และสำหรับเรือประมงขนาดใหญ่ รายละไม่เกิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท
๒) คิดดอกเบี้ยเงินกู้จากลูกค้าในอัตรา MRR โดยลดดอกเบี้ยเงินกู้ที่ ธ.ก.ส. เรียกเก็บจากลูกค้าลงร้อยละ ๓ ต่อปี เป็นเวลาไม่เกิน ๓ ปี
๓) กำหนดชำระหนี้เงินกู้ตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า
๔) ธ.ก.ส. จะลดหย่อนหลักประกันการกู้เงินจากหลักเกณฑ์ปกติ ดังนี้
๔.๑) ให้ มีอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาประเมินจำนองเป็นประกันหนี้เงินกู้ ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของจำนวนเงินกู้และต้องมีบุคคลไม่น้อยกว่า ๒ คน เป็นผู้ค้ำประกันร่วม
๔.๒) กรณีกู้เงินโดยใช้กลุ่มลูกค้ารับรองรับผิด
อย่างลูกหนี้ร่วมกันตั้งแต่ ๕ คนขึ้นไป ให้ขยายวงเงินในการค้ำประกันจากรายละไม่เกิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท เป็นไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท
๑.๑.๒ มาตรการให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและเสริมสร้างคุณภาพชีวิต โดย ธ.ก.ส. ผ่อนผันเงื่อนไข ดังนี้
(๑) อัตราดอกเบี้ย
(๑.๑) ปีที่ ๑-๓ คิดดอกเบี้ยอัตรา MRR-๒ โดยใน ๓ เดือนแรกของปีแรก คิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๐
(๑.๒) ปีที่ ๔- ๕ คิดดอกเบี้ยอัตรา MRR-๑
(๑.๓) ตั้งแต่ปีที่ ๖ ขึ้นไป คิดดอกเบี้ยอัตรา MRR (ปัจจุบัน MRR มีอัตราร้อยละ ๖.๗๕ ต่อปี)
(๒) ลดหย่อนหลักเกณฑ์การกู้เงินโดยใช้ที่ดินจำนอง หรือที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนองเป็นหลักประกัน ให้ลูกค้ากู้เงินได้ไม่เกินร้อยละ ๘๐ ของราคาประเมินที่ดิน หรือราคาประเมินที่ดินและราคาประเมินสิ่งปลูกสร้างรวมกัน
๑.๑.๓ มาตรการ ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อฟื้นฟูจากปัญหา อุทกภัย เพื่อเป็นการช่วยเหลือทางการเงินแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สามารถปรับ ปรุงพัฒนาและ
ซ่อม แซมแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้นจากปัญหาอุทกภัย ธ.ก.ส. จึงได้ผ่อนปรนเงื่อนไขการให้สินเชื่อเป็นกรณีพิเศษ โดยคิดดอกเบี้ยที่อัตรา MLR-๒.๒๕ (ปัจจุบัน MLR มีอัตราร้อยละ ๔.๗๕ ต่อปี
๑.๒ ธนาคารออมสิน
ธนาคารออมสินได้จัดทำมาตรการ เพื่อช่วยเหลือประชาชนและลูกค้าของธนาคารออมสินที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยและวาตภัย ดังนี้
๑.๒.๑ ลูกค้าสินเชื่อเคหะที่ได้รับผลกระทบที่ส่งผลให้ทรัพย์สิน หรือที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหาย
ผ่อนผัน การพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าสินเชื่อเคหะของธนาคาร ออมสิน ไม่เกิน ๖ เดือน หรือพักชำระหนี้เฉพาะเงินต้นไม่เกิน ๖ เดือน หรือปรับลดเงินงวด รวมถึงขยายระยะเวลาการผ่อนชำระตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
นอกจากนี้ ลูกค้าเดิมสามารถยื่นกู้เพิ่มเติมกรณีฉุกเฉินในสัดส่วนไม่เกิน
ร้อยละ ๑๐ ของวงเงินกู้เดิม แต่ต้องไม่เกิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท และไม่เกินร้อยละ ๑๐๐ ของราคาประเมิน
โดยคิดอัตราดอกเบี้ยปีที่ ๑-๒ ร้อยละ ๓.๒๕ ต่อปี และปีที่ ๓-๕ คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำประเภทมีระยะเวลา หรือ MLR–๑ ต่อปี (ปัจจุบัน MLR อยู่ที่ร้อยละ ๖.๒๕ ต่อปี) และชำระเงินกู้ในส่วนที่กู้เพิ่มเติมนี้ไม่เกิน ๕ ปี
๑.๒.๒ ผู้ได้รับผลกระทบที่ไม่ใช่ลูกค้าสินเชื่อเคหะ
สามารถกู้เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยได้ในวงเงินไม่เกิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน ๕ ปี คิดอัตราดอกเบี้ยปีที่ ๑-๒ ร้อยละ ๓.๒๕ ต่อปี และปีที่ ๓-๕ เท่ากับ MLR–๑
ต่อปี (ปัจจุบัน MLR อยู่ที่ร้อยละ ๖.๒๕ ต่อปี)
๑.๒.๓ ลูกค้า สินเชื่อโครงการธนาคารประชาชน สินเชื่อโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชน (หนี้นอกระบบ) สินเชื่อธุรกิจห้องแถว และสินเชื่อองค์กรชุมชน
(๑) ให้พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยได้ไม่เกิน ๖ เดือน พร้อมทั้งปรับลดเงินงวด และ/หรือขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ได้ไม่เกิน ๑ ปี
(๒) สามารถยื่นกู้เพิ่มเติมในวงเงินไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท คิดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือ MRR+๑ ต่อปี (ปัจจุบัน MRR อยู่ที่ร้อยละ ๖.๗๕ ต่อปี) ระยะเวลาชำระเงินกู้ไม่เกิน ๕ ปี
(๓) สำหรับลูกค้าสินเชื่อธุรกิจห้องแถว สามารถกู้เพิ่มเติมได้ไม่เกินรายละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท อัตราดอกเบี้ย MLR–๑.๕๐ ต่อปี ระยะเวลาชำระเงินกู้ไม่เกิน ๕ ปี
(๔) สำหรับผู้ได้รับผลกระทบที่ไม่ใช่ลูกค้า สามารถยื่นกู้ได้ในวงเงินและ
เงื่อนไขเดียวกันกับลูกค้าของธนาคารออมสิน
๑.๒.๔ ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจและ SMEs
(๑) ให้พักชำระหนี้เงินต้นและผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยในระยะเวลาไม่เกิน ๖ เดือน พร้อมทั้งขยายเวลาผ่อนชำระหนี้จากสัญญากู้เดิมได้ไม่เกิน ๑ ปี
(๒) สามารถยื่นกู้เพิ่มเติมได้ในวงเงินไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ระยะเวลาชำระเงินกู้ไม่เกิน ๕ ปี คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR–๑.๕๐ ต่อปี โดยลูกค้ากลุ่มนี้จะต้องไม่เคยเป็นหนี้ค้างชำระกับธนาคารออมสิน
๑.๓ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
ธอส. ได้จัดทำโครงการเงินกู้เพื่อลดภาระหนี้ ปลูกสร้าง และซ่อมแซมที่อยู่อาศัย
แก่ผู้ประสบภัยปี ๒๕๕๔ ดังนี้
๑.๓.๑ คุณสมบัติผู้กู้ : - เป็นลูกหนี้เดิมของ ธอส. หรือลูกค้าใหม่ ซึ่งที่อยู่อาศัยอัน
เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองหรือคู่สมรสได้รับความเสียหายจากการ ประสบภัยอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม
- เป็นลูกหนี้เดิมของ ธอส. ที่ประกอบอาชีพในพื้นที่ประสบภัย
และได้รับผลกระทบต่อรายได้
- เป็นลูกหนี้เดิมของ ธอส. ซึ่งมีที่อยู่อาศัยหรือประกอบอาชีพ
ในพื้นที่ประสบภัยเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง
๑.๓.๒ วัตถุประสงค์การกู้ : - เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และภาระหนี้ที่ผ่อนชำระกับ
ธอส. ตามสัญญาที่ทำไว้ก่อนวันที่กำหนดเริ่มโครงการ
- เพื่อปลูกสร้างอาคารทดแทนอาคารเดิม เป็นกรรมสิทธิ์
ของตนเอง
- เพื่อซ่อมแซมอาคารที่เสียหาย ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองหรือคู่สมรส
๑.๓.๓ วงเงินให้กู้ : - กรณีกู้ปลูกสร้างหรือซ่อมแซมอาคาร ให้กู้ไม่เกินร้อยละ ๑๐๐
ของราคาประเมินค่าก่อสร้างอาคาร/ค่าซ่อมแซมอาคาร
๑.๓.๔ ระยะเวลาการกู้ : - ไม่เกิน ๓๐ ปี และอายุผู้กู้รวมกับจำนวนปีที่ขอกู้ต้องไม่เกิน ๗๕ ปี
๑.๓.๕ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ :
(๑) ลูกหนี้เดิมของธนาคาร
(๑.๑) กรณีหลักประกันได้รับความเสียหาย ให้ลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนที่ ๑-๔ = ๐% ต่อปี โดยมีอัตราดอกเบี้ยให้เลือก ๒ แบบ ดังนี้
แบบที่ ๑ : ปีที่ ๑ เดือนที่ ๑-๔ = ๐% ต่อปี เดือนที่ ๕-๑๒ = MRR-๒.๐๐% ต่อปี ปีที่ ๒ = MRR-๒.๐๐% ต่อปี ปีที่ ๓ = MRR-๑.๐๐% ต่อปี หลังจากนั้นคิดดอกเบี้ยลอยตัวตามประกาศธนาคาร
ทั้งนี้ การผ่อนชำระแบ่งเป็น เดือนที่ ๑–๔ ปลอดการผ่อนชำระเงินงวด และเดือนที่ ๕ เป็นต้นไปผ่อนชำระตามปกติ
แบบที่ ๒ : เดือนที่ ๑-๔ = ๐% ต่อปี เดือนที่ ๕-๑๖ = ๑% ต่อปี หลังจากนั้นคิดดอกเบี้ยลอยตัวตามประกาศธนาคาร
ทั้งนี้ การผ่อนชำระแบ่งเป็น เดือนที่ ๑-๔
ปลอดการผ่อนชำระเงินงวด เดือนที่ ๕-๑๖ ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ย และหลังจากนั้นผ่อนชำระเงินงวดตามปกติ
(๑.๒) กรณีได้รับผลกระทบเรื่องรายได้ ลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ ๑% ต่อปี เป็นระยะเวลา ๑ ปี หลังจากนั้นคิดดอกเบี้ยลอยตัวตามประกาศธนาคาร
(๑.๓) กรณีเสียชีวิต / ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ ๐.๐๑% ต่อปี ตลอดระยะเวลาที่เหลืออยู่
(๒) กู้เพิ่มหรือกู้ใหม่ปลูกสร้างอาคารทดแทนอาคารเดิม / ซ่อมแซมอาคารที่ได้รับความเสียหาย
คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ ๕ ปี โดย ปีที่ ๑-๕ = ๒% ต่อปีหลังจากนั้น คิดดอกเบี้ยลอยตัวตามประกาศธนาคาร
๑.๓.๖ หลักประกัน : ที่ดินพร้อมอาคารที่มีเอกสารสิทธิเป็นโฉนด หรือ น.ส.๓ ก.
และตั้งอยู่ในพื้นที่ประสบภัย
๑.๓.๗ กำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้ : ติดต่อยื่นคำขอกู้เงินได้ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔
จนถึงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ และจะต้องทำนิติกรรมให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๔
๑.๓.๘ การให้ความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ : กรณีอาคารที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหาย
ทั้งหลังจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ตามการตรวจสอบของธนาคาร ธนาคารจะพิจารณาปลดภาระเฉพาะภาระหนี้
ตามยอดหนี้คงเหลือในส่วนของอาคาร โดยผู้กู้ผ่อนชำระหนี้ในส่วนของที่ดินที่คงเหลือ (ถ้ามี) ในอัตราดอกเบี้ย
ตามสัญญาเดิม
๑.๓.๙ การพิจารณาให้กู้เงินและเงื่อนไขอื่น ๆ :
(๑) ยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ทุกวงเงินกู้และค่าธรรมเนียม ค่าเบี้ยปรับ
ในรายการที่เกี่ยวข้องทุกกรณี
(๒) การพิจารณาให้กู้เงินและเงื่อนไขอื่น ๆ รวมถึงกรณีผิดนัดชำระหนี้ ให้เป็น
ไปตามหลักเกณฑ์ วิธีปฏิบัติ และระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อของธนาคาร
๑.๔ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.)
ธพว. ได้จัดทำโครงการ สินเชื่อ SME POWER เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs
ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย และวาตภัยในปี ๒๕๕๔ ดังนี้
๑.๔.๑ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย : ผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับ
ความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและวาตภัยในปี ๒๕๕๔
๑.๔.๒ วงเงิน : จำนวน ๒,๐๐๐ ล้านบาท หรือตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
๑.๔.๓ ระยะเวลาโครงการ : สิ้นสุดวันรับคำขอสินเชื่อภายในวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔
๑.๔.๔ คุณสมบัติผู้กู้ :
(๑) ผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่เป็นบุคคลธรรมดา
(ไม่จำกัดอายุ) หรือนิติบุคคล ที่มีบุคคลสัญชาติไทยถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๐ และ
(๒) มีสถานประกอบการตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย วาตภัย และ
โคลนถล่มในปี ๒๕๕๔ ตามประกาศของทางราชการ และได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยฯ
(๓) ไม่เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ถูกพิทักษ์ทรัพย์ ขายทอดตลาดทรัพย์ ล้มละลาย ยกเว้นคดีลหุโทษ
๑.๔.๕ วัตถุประสงค์การกู้ : เพื่อใช้ปรับปรุง ซ่อมแซม ฟื้นฟูกิจการ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน
๑.๔.๖ วงเงินสินเชื่อต่อราย : ตามความจำเป็นของกิจการ แต่ไม่เกิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทต่อราย การพิจารณาเป็นไปตามเกณฑ์ธนาคารกำหนด
๑.๔.๗ ประเภทสินเชื่อและระยะเวลากู้ยืม : เงินกู้ยืมแบบมีระยะเวลา (Term Loan) ระยะเวลาการกู้ยืมไม่เกิน ๖ ปี ระยะเวลาชำระเฉพาะดอกเบี้ยโดยไม่ต้องชำระเงินต้น(Grace Period)ไม่เกิน ๒ ปี
๑.๔.๘ อัตราดอกเบี้ย : ธนาคารคิดดอกเบี้ยในอัตราคงที่ร้อยละ ๖.๕๐ ต่อปี ตลอดอายุ
สัญญากู้
๑.๔.๙ ค่าธรรมเนียม :
(๑) ยกเว้นค่าธรรมเนียมวิเคราะห์โครงการ (ร้อยละ ๑ ของวงเงินกู้)
(๒) ยกเว้นค่าธรรมเนียมจัดทำสัญญาเงินกู้ (ร้อยละ ๐.๐๕ ของวงเงินสินเชื่อ
ที่ได้รับอนุมัติ)
(๓) ยกเว้นค่าธรรมเนียมชำระคืนเงินกู้ก่อนครบกำหนด (Prepayment Fee)
(ร้อยละ ๒ ของยอดเงินที่ชำระคืนเสร็จสิ้นก่อนกำหนด)
๑.๔.๑๐ หลักประกัน : ไม่มีหลักประกัน (Clean Loan)
๑.๔.๑๑ เงื่อนไขอื่น :
(๑) กรณีเป็นกิจการที่เกี่ยวข้องกัน หรือ กิจการที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกัน
ถ้าเป็นกิจการที่เข้าหลักเกณฑ์ของโครงการ แยก การดำเนินธุรกิจ และ/หรือ สถานประกอบการได้อย่างชัดเจน อนุโลมให้สามารถเข้าโครงการได้ โดยสามารถกู้สูงสุดกิจการละไม่เกินวงเงินสูงสุดตามหลักเกณฑ์ของโครงการได้
(๒) ยกเว้นการตรวจสอบประวัติทางการเงิน (Credit Bureau) และ
การประเมินความเสี่ยงลูกค้าสินเชื่อ (Credit Risk Rate : CRR)
๑.๕ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.)
ธอท. มีการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประสบภัยภาคใต้ “โครงการสินเชื่อยิ้มสู้ฟื้นฟูอาชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัย” เพื่อฟื้นฟูสถานะทางการเงินและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติน้ำท่วม ดังนี้
๑.๕.๑ สำหรับลูกค้าเก่าที่ไม่ขอวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติม
(๑) ผ่อนปรนการชำระหนี้ทั้งส่วนเงินต้นและกำไร เป็นระยะเวลา ๓ เดือน และ เดือนที่ ๔–๒๔ ให้ชำระทั้งส่วนเงินต้นและกำไรโดยคิดอัตรากำไรต่ำกว่าสัญญาเดิม ๑% หลังจากนั้นคิดอัตรากำไรตามสัญญาเดิม หรือ
(๒) ชำระเฉพาะส่วนกำไร เป็นระยะเวลา ๑๒ เดือน เดือนที่ ๑๓–๒๔ ให้ชำระทั้งส่วนเงินต้นและกำไร โดยคิดอัตรากำไรต่ำกว่าสัญญาเดิม ๑% หลังจากนั้น คิดอัตรากำไรตามสัญญาเดิม
๑.๕.๒ สำหรับลูกค้าเก่าขอเพิ่มวงเงินสินเชื่อหรือลูกค้าใหม่ขอวงเงินสินเชื่อ
(๑) ให้ วงเงินสินเชื่อเพิ่มเติมสำหรับก่อสร้าง ซ่อมแซม/ต่อเติม ที่อยู่อาศัย และ/หรือสถานประกอบธุรกิจ ที่ได้รับความเสียหายตามความจำเป็น ให้สินเชื่อไม่เกิน ๑๐๐% ของราคาประเมินหลักประกันเดิม/หลักประกันอื่นเพิ่มเติม
(๒) ให้วงเงินสินเชื่อเพิ่มเติม สำหรับใช้หมุนเวียนในธุรกิจที่ขาดสภาพคล่องจากการได้รับผลกระทบทางอ้อม ให้สินเชื่อไม่เกิน ๑๐๐ % ของราคาประเมินหลักประกันเดิม
(๓) มาตรการทั้ง ๒ ข้อข้างต้น ธนาคารจะพิจารณาจากมูลค่าความเสียหายจริงเป็นหลักโดยไม่ได้กำหนดวงเงิน
๑.๕.๓ เงื่อนไขตามแต่ละประเภทสินเชื่อ สำหรับลูกค้าเก่าขอเพิ่มวงเงินสินเชื่อ
หรือลูกค้าใหม่ของวงเงินสินเชื่อ ที่ได้รับผลกระทบทางอ้อม
(๑) วงเงินสินเชื่อ : ธอท. พิจารณาจากมูลค่าความเสียหายจริงเป็นหลัก
หรือตามความจำเป็น
(๒) ระยะเวลาการผ่อนชำระ : - ระยะเวลาสูงสถดไม่เกิน ๗ ปี สำหรับสินเชื่อธุรกิจ และสินเชื่อเอนกประสงค์
- ระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน ๓๐ ปี สำหรับสินเชื่อเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และสถานประกอบการ
(๓) หลักประกัน : หลักทรัพย์ หรือบุคคลค้ำประกัน โดยให้วงเงินสินเชื่อไม่เกิน ๑๐๐% ของราคาประเมินหลักประกัน
(๔) อัตรากำไร :
(๔.๑) สินเชื่อเพื่อก่อสร้าง ซ่อมแซม/ต่อเติม ที่อยู่อาศัย และ/หรือ สถานประกอบธุรกิจ
เดือนที่ ๑-๓ เริ่มต้นที่ ๑.๐% สูงสุดไม่เกิน ๑.๗๕
เดือนที่ ๔-๒๔ เริ่มต้นที่ SPRL–๒.๕๐% สูงสุดไม่เกิน SPRL-๑.๕๐ %
ปีที่ ๓ เป็นต้นไป เริ่มต้นที่ SPRL–๑.๕๐% สูงสุดไม่เกิน SPRL-๐.๕๐ %
(๔.๒) สินเชื่อวงเงินทุนระยะยาว
ปีที่ ๑ เริ่มต้นที่ SPRL–๑.๗๕% สูงสุดไม่เกิน SPRL–๐.๒๕%
ปีที่ ๒ เริ่มต้นที่ SPRL–๑.๒๕% สูงสุดไม่เกิน SPRL
ปีที่ ๓ เป็นต้นไป SPRL
(๔.๓) สินเชื่อวงเงินทุนหมุนเวียน และวงเงินเบิกถอนเงินสด
ปีที่ ๑ เริ่มต้นที่ SPRR–๑.๗๕% สูงสุดไม่เกิน SPRR–๐.๒๕%
ปีถัดไป ให้พิจารณาตามความเหมาะสม
(๔.๔) สินเชื่อวงเงินเอนกประสงค์
เดือนที่ ๑-๓ เริ่มต้นที่ ๐.๗๕ % สูงสุดไม่เกิน ๒.๐๐%
เดือนที่ ๔-๒๔ SPRR+๖.๒๕%
ปีที่ ๓ เป็นต้นไป SPRR+๗.๒๕%
ทั้งนี้ อัตรากำไรข้างต้นเป็นไปตามประกาศของธนาคารในโครงการสินเชื่อยิ้มสู้ฟื้นฟูอาชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ปัจจุบัน SPRL = ๖.๗๕% SPR = ๗.๐% และ SPRR = ๗.๒๕% ตามประกาศ ณ วันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๒)
๑.๖ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.)
ธสน. ได้จัดทำมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจาก
อุทกภัยและวาตภัย ดังนี้
๑.๖.๑ สินเชื่อหมุนเวียนเพื่อการส่งออก
- กรณี Pre Shipment Financing เป็นการเบิกกู้เพื่อเตรียมการส่งออก คือ การส่งออกยังไม่เกิดขึ้น ผู้ส่งออกอาจไม่สามารถจัดเตรียมเอกสารหลักฐานจากผู้ซื้อมายืนยันระยะเวลาที่จำเป็นต้องขยายหรือความชัดเจนในการส่งออกได้ พิจารณาความช่วยเหลือ ดังนี้
(๑) ขยาย ระยะเวลาการรับชำระหนี้ หรือการต่อตั๋วเกินเทอม โดยพิจารณาขยายระยะเวลาตามผลกระทบที่ได้รับครั้งละไม่เกิน ๖๐ วัน เมื่อนับรวมอายุตั๋วเดิมแล้วไม่เกิน ๒๔๐ วัน ทั้งนี้ กรณีที่ไม่มีเอกสารทางการค้ามาแสดงประกอบการขอขยายระยะเวลา ลูกค้าจำเป็นต้องมีจดหมายแจ้งความประสงค์และเหตุผลในการขอขยายระยะเวลา ประกอบคำขอด้วย
(๒) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ๐.๕% ต่อปีจากอัตราดอกเบี้ยเดิมที่ได้รับ สำหรับภาระหนี้คงค้างในส่วนของระยะเวลาที่จำเป็นต้องต่อตั๋ว ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลงแล้วต้องไม่ต่ำกว่า Prime – ๒.๗๕% ต่อปี
- กรณี Post Shipment Financing เป็นการรับซื้อเอกสารส่งออก โดย ผลกระทบที่อาจได้รับเกิดขึ้นได้ทั้งในกรณีที่ส่งสินค้าออกไป โดยผู้ซื้อได้รับสินค้าแล้วแต่ยังไม่สามารถชำระเงินได้ หรือผู้ซื้อยังไม่ได้รับสินค้า ซึ่งจะมีผลให้ระยะเวลาของการรับชำระอาจยาวนานกว่ากรณีที่รับสินค้าแล้ว ให้กำหนดความช่วยเหลือ เป็นกรณีการรับชำระช้า (delayed payment) ระหว่างวันที่ ๘ – ๖๐ ให้คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราที่รับซื้อลดตั๋ว คือ Prime Rate ต่อปี โดยให้ชำระดอกเบี้ยในส่วนที่เกิดขึ้นนี้ในวันที่ได้รับชำระเงินค่าสินค้า ถ้าการรับชำระล่าช้านานเกิน ๖๐ วันให้พิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อไป
๑.๖.๒ สินเชื่อหมุนเวียนเพื่อการนำเข้า
(๑) ขยายระยะเวลาการกู้ Trust Receipt โดยพิจารณาขยายระยะเวลา
ตามผลกระทบที่ได้รับครั้งละไม่เกิน ๖๐ วัน เมื่อนับรวมอายุ Trust Receipt ทั้งหมดแล้วไม่เกิน ๒๔๐ วัน
(๒) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ๐.๕% ต่อปีจากอัตราดอกเบี้ยเดิมที่ได้รับ สำหรับภาระหนี้คงค้างในส่วนของระยะเวลาที่ได้รับการขยาย ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลงแล้วต้องไม่ต่ำกว่า Prime–๒.๗๕% ต่อปี
๑.๖.๓ สินเชื่อระยะยาว (กรณีวงเงินที่มีในปัจจุบัน)
(๑) พักการชำระหนี้ต้นเงินกู้และดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน ๒ เดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความเสียหายที่ได้รับ
(๒) เลื่อนกำหนดการผ่อนชำระหนี้ และ/หรือ ปรับเงื่อนไขในการผ่อนชำระหนี้ในส่วนของ ระยะเวลา และ/หรือ จำนวนเงิน โดยพิจารณาจากความเสียหายที่ได้รับ
(๓) ยก เว้นการคิดดอกเบี้ยในอัตราผิดนัดชำระ โดยให้คิดดอกเบี้ยในอัตราปกติที่ได้รับ สำหรับการปรับเปลี่ยนรายละเอียดการผ่อนชำระหนี้ตามแนวทางการช่วยเหลือข้าง ต้น
๑.๖.๔ สินเชื่อระยะยาว (กรณีของเงินกู้เพิ่มเติมเพื่อซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้น)
(๑) อัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำ ปีที่ ๑ และ ๒ = Prime– ๑.๗๕% ต่อปี
ปีที่ ๓ เป็นต้นไป = Prime Rate ต่อปี
(ปัจจุบันอัตรา Prime Rate = ๖.๒๕% ต่อปี)
(๒) ระยะเวลาการชำระคืน เงื่อนไขการผ่อนชำระ และเงื่อนไขอื่นๆ พิจารณาผ่อนปรนตามผลกระทบที่ผู้ประกอบการได้รับจากสถานการณ์
๑.๗ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)
บสย. ได้กำหนดมาตรการช่วยเหลือลูกค้าและ SMEs ที่ได้รับความเสียหายจาก
สถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ ดังนี้
๑.๗.๑ มาตรการ พักการชำระค่าธรรมเนียมค้ำประกัน เป็นระยะเวลา ๖ เดือน สำหรับลูกค้า บสย. ที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ ปี ๒๕๕๔ และถึงกำหนดชำระค่าธรรมเนียมต่ออายุการค้ำประกันตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ ถึง ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๕
- ลักษณะของลูกค้าที่อยู่ในข่ายให้การช่วยเหลือ มีดังนี้
(๑) เป็น ลูกค้า บสย. ที่มีสถานประกอบการตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดที่ประสบอุทกภัยฯ โดยเป็นจังหวัดที่มีชื่ออยู่ในประกาศสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ ปี ๒๕๕๔ ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย
(๒) กิจการ ของลูกค้าได้รับผลกระทบโดยตรงจากอุทกภัย ทำให้กิจการได้รับความเสียหายจนไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ หรือดำเนินงานได้เพียงบางส่วน โดยพิจารณาความเสียหายที่แท้จริง
- ขั้นตอนและวิธีปฏิบัติในการขอรับความช่วยเหลือ
(๑) สถาบัน การเงิน จะต้องดำเนินการตรวจสอบความเสียหายของลูกค้าที่ บสย. ให้การค้ำประกัน และรับรองความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยจัดทำรายงานการตรวจสอบความเสียหายตามแบบฟอร์มที่ บสย. กำหนด
(๒) ถ่ายภาพกิจการที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย และจัดส่งให้แก่ บสย.
๑.๗.๒ มาตรการ ให้ความร่วมมือกับสถาบันการเงินที่ลูกค้าได้รับการค้ำประกันสินเชื่อจาก บสย. ในการผ่อนปรนเรื่องการพักชำระหนี้ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยรวมทั้งการปรับโครง สร้างหนี้เพื่อให้กิจการสามารถดำเนินต่อไปตามปกติ
วิธี ปฏิบัติ คือ ให้สถาบันการเงินมีหนังสือแจ้งการพักชำระหนี้หรือการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อขอความเห็นชอบจาก บสย. ตามวิธีปฏิบัติปกติสำหรับโครงการค้ำประกันสินเชื่อที่มิใช่การค้ำประกันใน ลักษณะ Portfolio Guarantee Scheme โดยสถาบันการเงินต้องจัดส่งเอกสารสำเนารายงานการพิจารณาของสถาบันการเงินให้แก่ บสย. ด้วย
๑.๘ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.)
บตท. ได้กำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือ ดังนี้
พิจารณา พักชำระหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน ๖ เดือน หรือปรับลดเงินงวด หรือขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ออกไปรวมไม่เกิน ๓๐ ปี และในกรณีที่ลูกค้ามีความประสงค์จะขอกู้เพิ่มเพื่อนำไปซ่อมแซมบ้านที่ได้รับ ความเสียหาย บตท. จะเป็นผู้ประสานงานกับสถาบันการเงินเพื่อให้กู้เพิ่มต่อไป โดยมาตรการดังกล่าวเป็นการให้ความช่วยเหลือลูกค้าของ บตท. ที่ได้รับความเสียหายจริงจากสถานการณ์อุทกภัยและได้มี
การ ติดต่อเพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ประสบภัยรวม ๘ จังหวัด หรือพื้นที่อื่นเพิ่มเติม (โดยอ้างอิงข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธาณภัย กระทรวงมหาดไทย และข้อมูลจากลูกค้าที่แจ้งมา)
๑.๙ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ. กรุงไทย)
บมจ. กรุงไทย มีมาตรการให้ความช่วยเหลือ ดังนี้
๑.๙.๑ เงินกู้กรุงไทยสู้อุทกภัย ให้วงเงินกู้ประจำ (T/L)
- วงเงินสูงสุด : ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง
- อัตราดอกเบี้ย : ปีที่ ๑ ร้อยละ MLR-๑ (MLR ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ
๖.๖๒๕ ต่อปี) ปีที่ ๒ เป็นต้นไป ร้อยละ MLR ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด ๕ ปี หลักประกันใช้หลักประกันเดิม
๑.๙.๒ เงินทุนหมุนเวียนกรุงไทยสู้อุทกภัย สำหรับเสริมสภาพคล่องให้ลูกค้าที่มี
ความจำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม ธนาคารจะพิจารณาให้ตามความเหมาะสม
๑.๙.๓ โครงการกรุงไทยสู้อุทกภัย สำหรับลูกค้าที่ได้รับความเสียหายแต่ไม่ประสงค์
กู้เพิ่ม โดยให้ปลอดชำระเงินต้น (Grace Period) ไม่เกิน ๖ เดือน ชำระดอกเบี้ยตามเงื่อนไข
๑.๙.๔ สินเชื่อที่อยู่อาศัยกรุงไทยสู้อุทกภัยภาคใต้
(๑) ผ่อนปรนเงือนไขการชำระหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัย สำหรับลูกค้าที่ได้รับความเสียหาย โดยให้ปลอดชำระเงินต้น (Grace Period) ไม่เกิน ๖ เดือน ชำระดอกเบี้ยตามเงื่อนไข
(๒) สำหรับลูกค้าที่มีการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับธนาคารอยู่แล้ว และได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัย ธนาคารจะมอบวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติมเต็มตามจำนวนเงินที่ได้ผ่อน
ชำระ กับธนาคาร เพื่อใช้ในการปรับปรุง ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย จัดหาเครื่องใช้ อุปกรณ์จำเป็นในการดำรงชีวิต หรือ เป็นค่าใช้จ่ายอเนกประสงค์
- อัตราดอกเบี้ย : ปีที่ ๑ ร้อยละ MRR-๑.๗๕ (MRR ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ
๗.๓๕๐ ต่อปี) ปีที่ ๒ เป็นต้นไป ร้อยละ MRR-๐.๕ ต่อปี
- ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด : ๖๐ งวด
๑.๙.๕ ธนาคารยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ธนาคาร ได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัยทุกบัญชี แล้ว โดยมีผลตั้งแต่เดือนมีนาคม ๒๕๕๔ ไปจนกว่าสถานการณ์อุทกภัยจะคลี่คลาย หรือ ธนาคารจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงต่อไป ดังนี้
- บัญชีที่มีวัตถุประสงค์เพื่อรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกบัญชี
- บัญชีลูกค้าที่ประสงค์จะโอนเงินเพื่อช่วยเหลือญาติพี่น้องที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัย
พิบัติ ตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย
๑.๙.๖ กรุงไทยจับคู่ธุรกิจสู้อุทกภัย โดยจัด Business Matching ระหว่างผู้ประกอบการ
ที่ ได้รับความเสียหาย กับ ผู้ประกอบการที่จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เครื่องจักรอุปกรณ์ และผู้รับเหมา เพื่อให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายสามารถปรับปรุงซ่อมแซมกิจการ หรือทดแทนและซ่อมบำรุงเครื่องจักร อุปกรณ์ ในสถานประกอบการที่ได้รับความเสียหายในราคาพิเศษ
๑.๙.๗ โครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด : ๖๐ งวด
- อัตราดอกเบี้ย : ๖ เดือนแรกอัตราคงที่ร้อยละ ๓ หลังจากนั้น เรียกเก็บดอกเบี้ย
ในอัตราเงินฝากประจำ ๖ เดือนบุคคลธรรมดา + ร้อยละ ๑.๒๕ ต่อปี ปลอดเงินต้น ๖ เดือน
ทั้ง นี้ ผู้ประสงค์ขอรับความช่วยเหลือ แจ้งความประสงค์กันธนาคารได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๔ ยกเว้นมาตรการที่ ๑.๙.๗ ให้ยื่นกู้ได้จนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔
๒. มาตรการด้านภาษี
เพื่อเป็นการบรรเทาภาระภาษีให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ (อุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย หรือภัยธรรมชาติอื่น) ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นต้นไป และเพื่อให้ผู้บริจาค
ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีกรณีบริจาคเงินและสิ่งของโดยมีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น
เป็นตัวแทนรับบริจาคเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติดังกล่าวกระทรวงการคลังจึงขอเสนอให้มีการดำเนินการ ดังนี้
๒.๑ ให้มีการยกเว้นภาษีประเภทต่างๆ โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
๒.๑.๑ ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ สำหรับเงินได้ที่ได้รับ
จากรัฐบาลเพื่อชดเชยความเสียหาย หรือที่ได้รับจากการบริจาคหรือช่วยเหลือเพื่อชดเชยความเสียหายในกรณีอื่น
ที่ไม่เกินกว่ามูลค่าความเสียหายที่ได้รับ
๒.๑.๒ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินค่าสินไหมทดแทนที่ได้รับจากบริษัทที่ประกอบธุรกิจประกันภัย เพื่อชดเชยความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ เฉพาะส่วนที่เกินมูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินที่เหลือจากการหักค่าสึกหรือและค่าเสื่อมราคา ตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร
๒.๑.๓ ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเท่าจำนวนเงินที่ได้บริจาคให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดย มีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น เป็นตัวแทนรับเงิน บริจาคเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าวแต่เมื่อรวมกับเงินบริจาคอื่น แล้วต้องไม่เกินร้อยละ ๑๐ ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
๒.๑.๔ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินได้เป็นจำนวนเงินหรือทรัพย์สินที่บริจาคให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยมีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นเป็นตัวแทนรับเงินหรือ
ทรัพย์สินที่บริจาคเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าว แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ตาม มาตรา ๖๕ ตรี (๓) แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ ๒ ของกำไรสุทธิ
๒.๑.๕ ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการที่นำสินค้าไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยมีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น เป็นตัวแทนรับสินค้าที่บริจาคเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้น
๒.๑.๖ ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๕) (๖) (๗) หรือ (๘) แห่งประมวลรัษฎากร ของผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งได้มีการลงทะเบียนไว้กับศูนย์หรือหน่วยงานให้ความช่วยเหลือของทางราชการ เท่าจำนวนความเสียหาย โดยให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
๒.๒ ให้มีการขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีหรือนำส่งภาษี ดังต่อไปนี้
๒.๒.๑ ให้มีการขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีเงินได้
บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี ๒๕๕๓ ที่จะต้องยื่นรายการภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔ ออกไปเป็นวันที่
๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ทั้งนี้ เฉพาะผู้มีเงินได้พึงประเมินจากการทำงานหรือการประกอบกิจการในท้องที่
ที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในขณะนี้
๒.๒.๒ ให้มีการขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีหรือนำส่งภาษีให้
แก่ผู้ประกอบการที่อยู่ในท้องที่ที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในขณะนี้ สำหรับ การยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ (แต่ไม่รวมถึงกรณีการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร) และอากรแสตมป์ ที่จะต้องยื่นรายการและชำระภาษีในเดือนมีนาคมและเดือนเมษายน ๒๕๕๔ ออกไปเป็นภายในวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔
๒.๓ เนื่อง จากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่เป็นตัวแทนรับ บริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยระหว่างวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ แจ้งว่ายังมี
ยอดเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในครั้งดังกล่าวคงเหลือในบัญชีเดิมที่เปิดรับบริจาคในครั้งนั้น
ซึ่งตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๕๑๓) พ.ศ. ๒๕๕๓ กำหนดให้นำเงินบริจาคไปช่วยเหลือเฉพาะผู้ที่ประสบ
อุทกภัย ในครั้งดังกล่าว และให้ส่งมอบเงินที่เหลือให้แก่ส่วนราชการ หรือองค์การหรือสถานสาธารณกุศลตามมาตรา ๔๗ (๗) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ดังนั้น เพื่อให้
เกิดความคล่องตัวในการบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ กระทรวงการคลังจึงเห็นควร
เสนอให้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายฉบับเดิม (พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๕๑๓) พ.ศ. ๒๕๕๓) โดยให้ขยายเวลาและขอบเขตของการบริจาคเงินให้ครอบคลุมถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ในปี ๒๕๕๔ ด้วย
ทั้งนี้ การดำเนินการตาม ๒.๑ และ ๒.๓ สามารถดำเนินการได้โดยการตราพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... จำนวน ๒ ฉบับ และออกกฎกระทรวง
ฉบับ ที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๒๖ (พ.ศ. ๒๕๐๙) ออกตามความในประมวลรัษฎากร จำนวน ๑ ฉบับ สำหรับการดำเนินการตาม ๒.๒ สามารถดำเนินการโดยการอนุมัติของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และกรมสรรพากรจะมีการประกาศกำหนดเขตพื้นที่ที่ได้รับ สิทธิการขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีหรือนำส่งภาษี ตลอดจนหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในกรณีนี้ต่อไป
๓. ความช่วยเหลือของกรมบัญชีกลาง
กรม บัญชีกลางได้ขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรี ธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี ชุมพร ตรัง กระบี่ สงขลา และพังงา จังหวัดละ ๕๐ ล้านบาท
เป็นจังหวัดละ ๑๐๐ ล้าน