ตายเกลี้ยงแล้ว 4 โจทก์แม่เมาะชุดแรกหลังหอบสังขารเข้า รพ.นับสิบปี
รายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งว่า นางดิบ อินคำปา อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 523 หมู่ 5 ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เสียชีวิตลงอย่างสงบ หลังจากเข้า-ออก และรักษาอาการป่วยโรคระบบทางเดินหายใจมานาน และล่าสุด ได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาล เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทั่งเสียชีวิตดังกล่าว
นางนงค์ มิตตยา บุตรสาว เล่าว่า หลังจากปีที่แล้วบิดา คือ นายคำ ได้เสียชีวิตลงด้วยระบบทางเดินหายใจ ตนก็รับมารดามาอยู่ด้วย หลังจากนั้น มารดาก็เริ่มป่วยมากขึ้น จนกระทั่งเดือนที่ผ่านมาอาการเริ่มทรุดหนักและแพทย์ให้เข้ารับการรักษาอีก ครั้ง ซึ่งก็เป็นครั้งสุดท้ายที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นเวลาร่วม 20 วัน มารดาก็เสียชีวิต โดยที่ยังไม่ได้รับการดูแลหรือเยี่ยวยาจาก กฟผ.แต่อย่างใด แม้ศาลจะสั่งให้จ่ายค่ารักษาพยาบาลและชดเชย แต่ทั้งบิดาและมารดาของตนก็ไม่ใช้เงินจำนวนดังกล่าวมารักษาตัวเองเลย
นางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ เลขาธิการเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยอำเภอแม่เมาะ จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งเรื่องนี้จากสมาชิกเครือข่าย ขณะเข้าร่วมประชุมเครือข่ายกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองที่กรุงเทพฯ รู้สึกสะเทือนใจและเป็นข่าวเศร้ามากๆ สำหรับชีวิตของชาวบ้านใน อ.แม่เมาะ ที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง มานานกว่า 10 ปีแล้ว
นางมะลิวรรณ กล่าวว่านางดิบ อินคำปา คือ โจทก์ในกลุ่มแรก จำนวน 4 ราย ที่ยื่นฟ้อง กฟผ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในข้อหากระทำการละเมิดฯ โดยนางดิบ เป็นรายสุดท้ายของกลุ่มนี้ที่เสียชีวิต หลังจาก นายตัน วงศ์ใน เสียชีวิตเป็นรายแรก ต่อมาเป็น นายศรีบุตร วงศ์ชนะ และนายคำ อินคำปา สามีของนางดิบ
“ความจริงแล้วสมาชิกเครือข่ายสิทธิผู้ป่วย อ .แม่เมาะ จ.ลำปาง จำนวน 131 ราย ได้ยื่นฟ้อง กฟผ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกรณีนี้ และศาลปกครองเชียงใหม่ มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2552 ให้ กฟผ.ชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งคดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ของศาลปกครองสูงสุด เนื่องจาก กฟผ.ยื่นอุทธรณ์ โดยในระหว่างนี้ผู้ป่วยได้ทยอยเสียชีวิตไปเรื่อยๆ โดยที่ยังไม่รู้ผลของการต่อสู้เรียกร้องขอความเป็นธรรม และไม่อาจนำค่าชดเชยความเสียหายที่ว่านี้มาเพื่อดูแล รักษาชีวิตของตัวเอง ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องทยอยเสียชีวิตไปอีกกี่คน” นางมะลิวรรณ กล่าว.