มท.เล็งกู้ 4.5 พัน ล. พัฒนาระบบข้อมูลที่ดิน
อธิบดีกรมที่ดิน ลุยทำแปลงที่ดินดิจิทัล 4 ล้านแปลง เริ่ม กทม. นนทบุรี ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม โอดโครงการล่าช้าเพราะไม่ได้งบไทยเข้มแข็ง ด้านชวรัตน์เล็งกู้ใหญ่ 4,500 ล้านบาท เพื่อเร่งโครงการฯ ให้เสร็จภายในปี 2555
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยกล่าวมอบนโยบายการทำงานให้ข้าราชการกรมที่ดิน (ทด.) ว่าต้องยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางเป็นหัวใจของการทำงาน เรื่องที่เร่งรัด คือ การออกโฉนดที่ดินให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ขอให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และลดปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินให้มากที่สุด
ด้านนายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลย์วุฒิ อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวต่อว่า งานสำคัญ คือการตั้งศูนย์ข้อมูลที่ดินและแผนที่แห่งชาติ ซึ่งเป็นการปรับปรุงระบบสารสนเทศในสำนักงานที่ดิน โครงการนี้ ถ้าจะทำทั่วประเทศต้องใช้งบประมาณถึง12,000 ล้านบาทและใช้เวลามาก แต่ได้ปรับงานบางส่วนออกและตั้งเป็นงบเพื่อพัฒนาระบบฐานข้อมูลทั่วประเทศ 4,500 ล้านบาท ซึ่งในปีงบประมาณ 2553 ของบไป 810 ล้านบาท แต่ได้รับ 192 ล้านบาท จึงดำเนินโครงการได้ใน 7 จังหวัด คือ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม จำนวน 4 ล้านแปลง โดยทำแผนที่ภาพแปลงดิจิทัล ถ้าสามารถทำศูนย์ได้เสร็จก่อนปี 2555 จะเก็บภาษีที่ดินเฉพาะ 10 จังหวัดได้ 2,000 ล้านบาทต่อปี
ขั้นต่อไปในปี 2555 จะเสนอของบสนับสนุนอีก 180 ล้านบาท เพื่อทำศูนย์อีก 3 จังหวัด หากเสร็จสิ้น 10 จังหวัด จะมีพื้นที่มากกว่า 6 ล้านแปลง และเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ จะสามารเก็บภาษีได้มากกว่าร้อยละ 40 ของภาษีที่ดินทั่วประเทศ ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลที่ดินจะต้องรวบรวมข้อมูลที่ดิน 32 ล้านแปลง แยกประเภทที่ดินให้ชัดเจน ทั้งโฉนด นส. 3 ก. หรือที่ดินอื่น อย่างที่ราชพัสดุ ซึ่งนอกจากจะช่วยในการจัดเก็บภาษีที่ดินได้เพิ่มมากขึ้น เพราะมีความชัดเจนในประเภทที่ดินแล้ว ข้อมูลยังใช้กับหน่วยงานอื่น เช่น กรมบังคับคดี ที่อายัตที่ดินได้แม่นยำขึ้นด้วย
“2 ปีที่ผ่านมาโครงการล่าช้าเพราะเราไม่ได้งบไทยเข้มแข็งมาช่วยตรงนี้ และเพดานเงินกู้ของ ทด.เต็มแล้ว ซึ่งนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ระบุว่ามีแนวทางขอให้รัฐวิสาหกิจ คือ ธนาคารกรุงไทย ลงทุน หรือให้แคนาดาเข้ามาช่วยดูแลระบบ ถ้าไม่มีเงินกู้ก็ยิ่งทำช้าและรายได้ยิ่งหาย ถ้าให้แคนาดาเข้ามาช่วยก็ต้องดูเงื่อนไขการทำสัญญากับต่างประเทศตามรัฐธรรมนูญ ม. 190 แต่ยืนยันว่า ถ้ากู้ได้แล้ว ศูนย์ข้อมูลสร้างเสร็จภายใน 3 ปี ก็คืนเงินกู้ได้หมด” อธิบดีกรมที่ดินระบุ
ขณะที่นายชวรัตน์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงเรื่องศูนย์ข้อมูลที่ดินว่า ระยะเวลาโครงการดังกล่าวทางสำนักงบจัดให้แค่ปีละ 3-4 จังหวัดจังล่าช้า ทั้งที่ศูนย์ข้อมูลจะทำให้รัฐสามารถเก็บภาษีเข้ารัฐได้ปีละเป็นแสนล้านบาท จึงน่าจะสนับสนุนเพื่อมีเครื่องมือมากขึ้น เพราะรายรับคุ้มค่ากับการลงทุน ดังนั้น จึงให้อธิบดีทำเรื่องเสนอมาเพื่อพิจารณาว่าจะกู้เงินจากรัฐวิสาหกิจหรือเจียดงบไทยเข้มแข็งมาช่วย โดยอยากให้กู้ทั้งก้อน 4,500 ล้านบาท เพื่อทำโครงการให้เสร็จเร็วที่สุด เมื่อมีข้อมูลที่ดินเพิ่มขึ้นเราก็ดูแลที่ดินเสียภาษีรัดกุมได้มากขึ้น และไม่ปล่อยให้หลุดไป.