เท 4.6 พันล้านให้ ธ.ก.ส.อุ้มเกษตรกรน้ำท่วม
นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษก ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการให้ช่วยเหลือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และอนุมัติงบประมาณเพื่อชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ของเกษตรกรให้แก่ ธ.ก.ส.ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ คือ 1.เห็นชอบให้ ธ.ก.ส.ยกหนี้หรือตัดหนี้สูญให้กับเกษตรกร 12 ราย ที่เสียชีวิตจากปัญหาน้ำท่วม โดย ธ.ก.ส.จะรับภาระหนี้เอง คิดเป็นวงเงินกู้และดอกเบี้ย 1.64 ล้านบาท
2.เห็นชอบให้ ธ.ก.ส.ผ่อนผันหนี้ให้แก่เกษตรกรที่ประสบปัญหาน้ำท่วมรุนแรง โดยกรณีลูกหนี้เดิมให้พิจารณาขยายเวลาการชำระหนี้งดคิดดอกเบี้ยออกไป 3 ปี จากปี 2553-2555 รวมทั้งพิจารณาให้เงินกู้ใหม่เพื่อฟื้นฟูการประกอบอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรเพิ่มเติมรายละไม่เกิน 1 แสนบาท ในอัตราดอกเบี้ยปีละ 3% เป็นเวลาไม่เกิน 3 ปี โดยให้ ธ.ก.ส.มาขอรับชดเชยดอกเบี้ย 3% จากรัฐบาลได้ หรือให้ ธ.ก.ส.พิจารณาการชำระตามความสามารถของลูกค้าเกษตรกร รวมถึงให้ลดหย่อนหลักประกันการกู้จากเกณฑ์ปกติได้
ทั้งนี้ ในการขอรับเงินงบประมาณเพื่อชดเชยดอกเบี้ยจากรัฐบาล ข้อมูล ณ วันที่ 10 พ.ย. 2553 ธ.ก.ส.ได้รับเงินงบประมาณชดเชยทั้งสิ้น 4,698 ล้านบาท
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า จากการรายงานการสำรวจความเสียหายจากปัญหาอุทกภัย พบว่ามีลูกค้าของธนาคารได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 5.37 แสนราย หรือคิดเป็นวงเงิน 4.86 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้มีลูกค้าที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง 2.5 แสนราย หรือคิดเป็นวงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท
นายลักษณ์ กล่าวด้วยว่า ในเบื้องต้นธนาคารได้ออกมาตรการให้ความช่วยเหลือโดยจะมีการพักชำระหนี้ให้เป็นเวลา 1 ปี โดยไม่คิดดอกเบี้ยเพิ่มสำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบไม่รุนแรง ในกรณีที่ลูกค้าได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง เช่นกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกยางพารา จะมีการพักชำระหนี้โดยไม่คิดอัตราดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 ปี ส่วนในกรณีที่ลูกค้าเสียชีวิตจะตัดหนี้เป็นศูนย์โดยทายาทไม่ต้องรับผิดชอบต่อหนี้สิน
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า จากการประเมิณเบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบประมาณราว 4 หมื่นล้านบาท ในการฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดจากอุทกภัยและวาตภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่หลายจังหวัด จากเดิมคาดว่าจะอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท