ทุนมนุษย์ 2020 เก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีคุณธรรม-จริยธรรมด้วย

ดร.จีระ  ระบุพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อีก 10 ปีข้างหน้า ต้องปลูกฝังเด็ก คิดเป็น ต่อยอดเป็น ด้านเอกชน เปิดจุดอ่อน คนไทยอ่อนภาษาอังกฤษ หวั่นเปิดอาเซียน เสียโอกาส ไม่รู้ความต้องการผู้บริโภค

เมื่อเร็วๆ นี้ สถาบันทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดการเสวนา เรื่อง “Thailand Human Vision 2020 : ทิศทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในอีก 10 ปีข้างหน้า” โดย ศ.ดร.จีระ หงศ์ลดารมภ์  เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ กล่าวถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในปี 2020 ได้แก่ 1.แรงงานในเมืองไทยจะมีอายุมากขึ้น  2.ทุนที่สำคัญที่สุด คือ ทุนแห่งความสุข นั่นคือมีความสุขกับงานที่ทำ เพราะหากลักษณะงานไม่สอดคล้องกับลักษณะบุคลิกภาพ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งไทยต้องกลับมาดูว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ไปไม่ถึงเป้าหมาย ซึ่งในอนาคตคนไทยต้องพร้อมที่จะรับมือกับ 3 เรื่องที่จะมาถึง คือ ความเปลี่ยนแปลง ความไม่แน่นอน และสิ่งที่คาดไม่ถึง 

“ในระดับมหาภาค นักการเมืองและคนไทยควรต้องหันมาดูเรื่องการศึกษาอย่างแท้จริง มีนโยบายที่แน่นอน เพื่อที่จะสร้างทุนมนุษย์ให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ โดยเชื่อว่า ในอนาคต ความเป็นเลิศของมนุษย์จะอยู่ข้างใน ฉะนั้น ควรต้องมีการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก แต่ในขณะนี้เด็กที่ออกมาจากระบบการศึกษาเป็นเด็กที่คิดไม่เป็น และไม่มีการต่อยอด" เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ฯ กล่าว และว่า อยากให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้  มีเทคโนโลยีเข้าเป็นส่วนหนึ่งเพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะเดียวกัน  ธุรกิจขนาดใหญ๋ ก็ควรต้องช่วยกันอุ้มธุรกิจขนาดย่อย รวมถึงการหันมาให้ความสำคัญกับทรัพยากรมนุษย์ให้มากขึ้น จาก 25% เป็น 50% 

ศ.ดร.จีระ กล่าวถึงในส่วนของแรงงานเมื่อเปิดประตูสู่อาเซียนแล้ว วัฒนธรรมที่แตกต่างไหลเข้ามาอย่างมาก การที่จะต่อสู้ให้อยู่อย่างยั่งยืนได้นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับทักษะความเก่งเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีคุณธรรมและจริยธรรมด้วย

ขณะที่ นายสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทอินทัช กล่าวในฐานะของเอกชนว่า การจะอยู่รอดในสังคมปัจจุบัน สิ่งสำคัญคือต้องเรียนรู้ให้ได้ว่าทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง และเราเองต้องการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงนั้นให้ได้ เพื่อที่จะมากำหนดลักษณะของเราในอนาคตเพื่อให้อยู่รอดต่อไปได้ 

นายสมประสงค์ กล่าวถึงประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community : AEC) ด้วยว่า มีทั้งโอกาสและภัยคุกคาม ตลาดจะกว้างขวางมากขึ้น  เราสามารถสินค้าไปขายในตลาดได้มากขึ้น ในขณะเดียวกัน ตลาดแรงงานก็จะเปิดกว้างมากขึ้นด้วย ดังนั้นเงินทุนจำนวนมากก็จะไหลเข้ามาและไหลออกไปได้ด้วย ฉะนั้น การเตรียมตัวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ

“จุดอ่อนของคนไทย ขณะนี้คือเรื่องของภาษาอังกฤษที่เรายังไม่แข็งแรง ทั้งที่ความจริงเราไม่จำเป็นต้องพูดให้ชัดเจน เพราะสิ่งสำคัญอยู่ที่เนื้อหาที่เราต้องการจะสื่อสาร นอกจากนี้ การที่เราจะส่งสินค้าออกไปขายนั้น สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือ ความต้องการของผู้บริโภค ฉะนั้น สิ่งที่เราต้องหันมาให้ความสนใจให้มากขึ้น คือ วัฒนธรรมและภาษาของประเทศเพื่อนบ้าน” 

นายสมประสงค์ กล่าวด้วยว่า การเตรียมความพร้อมด้านทรัพยากรมนุษย์เพื่อให้สามารถออกไปแข่งขันได้ เป็นสิ่งสำคัญ เราต้องสร้างให้เด็ก 1.มีร่างกาย สุขภาพแข็งแรง 2.นิสัยใจคอ ที่ต้องมีความเมตตา เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ 3.มีความคิด และ 4.มีความรู้  ซึ่งที่ผ่านมาเราให้ความสำคัญเฉพาะความรู้เพียงอย่างเดียวมากเกินไป ทำให้ข้ออื่นๆถูกลดทอนความสำคัญลงไป