‘เครือข่ายอาสา’ ชี้สังคมทุกวันนี้ต้องการมากกว่าความดี
เครือข่ายอาสา ผุดตลาดนัดแห่งความสุขของการอาสา-การให้ เผยแพร่ผลงานสร้างแรงบันดาลใจ ‘สมบัติ บุญงามอนงค์’ เผยคนทำงานอาสา เหมือนมาบำบัดความเจ็บปวด ด้าน ‘วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล’ มองสังคมต้องการคนคิด ลงมือทำ มากกว่าหลงใหลความดี
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม เครือข่ายอาสา ร่วมกับ สถาบัน Chang Fusion, United Nations Volunteers, ทีวีไทย, หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, มูลนิธิซีเมนต์ไทย, มูลนิธิสยามกัมมาจล และ My Social Motion จัดงาน “Volunteer Street Fair” หรือ “โครงการตลาดนัดแห่งความสุขของการอาสาและการให้” ณ สวนเบญจสิริ กรุงเทพมหานคร เป็นวันที่สอง เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปทำความรู้จักรูปแบบงานอาสาสมัครที่หลากหลาย และสร้างแรงบันดาลใจในการเริ่มต้นเป็นอาสาสมัคร รวมถึงสร้างเครือข่ายด้านงานอาสาสมัครในประเทศไทยให้เป็นกิจกรรมต่อเนื่อง เพื่อการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนต่อไป
นายพิเชฐ ยิ่งเกียรติคุณ ผู้ประสานงานจากสถาบัน Chang Fusion กล่าวว่า งานอาสาสมัครเป็นส่วนหนึ่งของการลดความเหลื่อมล้ำ เพราะหากเราอยู่แต่ในพื้นที่ของตัวเองก็จะไม่มีทางทราบปัญหาความเดือดร้อนของคนที่อยู่ในพื้นที่อื่นๆ พร้อมอยากให้มองงานพัฒนาไม่ใช่เพียงงานสังคมสงเคราะห์
โดยในวันที่ 2 ของการจัดงาน มีการเสวนา เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจและแบ่งปันประสบการณ์อาสาสมัคร เริ่มจาก นายสมศักดิ์ ชลาชล ช่างผมชื่อดังและผู้ริเริ่มโครงการสมศักดิ์เพื่อสมศักดิ์ กล่าวถึงการให้ที่ไม่มีสิ้นสุด ว่า สิ่งที่สำคัญในการทำเรื่องดีๆ ต้องมาจากวัคซีนครอบครัว ที่ไม่บกพร่อง และต้องมีความเชื่อมั่นในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และเชื่อมั่นในประเทศไทย เพราะสิ่งสำคัญของมนุษย์เราคือความศรัทธา อันจะนำมาซึ่งความพยายามที่จะก่อให้เกิดสิ่งดีต่อไป
"ปัญหาที่ผ่านมาทั้งหมดล้วนเกิดจาก การขาดความศรัทธาทั้งตัวตน อาชีพ หรือสิ่งยึดเหนี่ยว ดังนั้นต้องหาความศรัทธา หาไอดอลของตัวเองให้เจอ ว่าเราอยากเป็นแบบไหน เป็นเหมือนใคร แล้วผลักดันตัวเองให้ไปถึงจุดนั้น ที่ผ่านมาจึงทำโครงการหลากหลาย และได้อะไรกลับมามาก แต่ไม่ได้กลับมาในรูปแบบของทรัพย์สิน เงินทอง สิ่งที่เราได้คือบันทึกอีกหน้าหนึ่งของชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องของความรู้สึกที่เงิน หาซื้อไม่ได้”
ด้าน พญ.ศรีประภา ชัยสินธพ อาสาสมัครโครงการสายสัมพันธ์ บ้านเด็กอ่อนปากเกร็ด กล่าวถึงการให้ เป็นสิ่งที่ท้าทาย แต่จะทำอย่างไรให้เด็กที่ถูกทอดทิ้งได้โตขึ้นมาแล้วรู้สึกว่าตัวเองมีค่า มีศักดิ์ศรี รักคนอื่น และคนอื่นก็รักเขา
“การเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานเป็นแม่อาสา ทำให้เรารู้จัดเขาใจคนอื่น-สังคมอื่นมากยิ่งขึ้น ใจเราจะเปิดกว้าง ยอมรับสิ่งใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะเกิดประโยชน์เป็นอย่างมากต่อสังคมไทย”
ส่วนนายสมบัติ บุญงามอนงค์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิกระจกเงา กล่าวถึงอาสาสมัครกับการจัดการภัยพิบัติว่า อาสาสมัครมีความจำเป็นเมื่อเกิดภัยพิบัติขนาดใหญ่ที่ต้องใช้กลไกภาคสังคมเข้าไปช่วยด้วย การทำงานอาสาเปรียบเสมือนวิธีการบำบัดความเจ็บปวดแบบหนึ่ง เป็นความรู้สึกที่ซับซ้อน เพราะคนไม่สามารถจะนั่งทนดูผู้ประสบภัยได้รับความเดือดร้อนได้อย่างเป็นสุข การก้าวออกมาจึงเป็นทางออกในการลดทอนความเจ็บปวดทางหนึ่ง
"สังคมไทยทุกวันนี้เป็นสังคมคิดดี แต่แค่คิดดีไม่เพียงพอ ต้องลงมือทำอย่างมีกระบวนการด้วย เพราะเราไม่ได้ขาดกำลัง แต่เราขาดระบบ ขาดองค์ความรู้ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เราต้องทำความเข้าใจว่าการเข้าไปทำงานอาสาในสถานการณ์ภัยพิบัติ เราก็เปรียบเสมือนผู้ประสบภัย และต้องทำลายอีโก้ตัวเองให้หมดสิ้นไปด้วย”
สำหรับนายวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล ผู้ประกอบการทางสังคม กล่าวว่า ทุกวันนี้สังคมไม่ได้ต้องการองค์กรใหญ่โตในการทำงานอาสา แต่เราต้องการเพียงใครสักคนที่จะมากระตุกเชือกแห่งการเริ่มต้น เพราะมนุษย์ทุกคนมีความต้องการที่จะอาสาช่วยเหลือผู้อื่นอยู่แล้ว ซึ่งการจะทำให้คนมองว่างานอาสาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ต้องทำความเข้าใจก่อนว่างานอาสามีหลากหลายรูปแบบทั้งลงแรง และลงความคิด
"การจะทำเพื่อสังคมไม่ใช่แค่การอาสา หรือหลงใหลในศีลธรรม ความดี แล้วจะเพียงพอ แต่ต้องออกแรงด้วย ต้องคิดและทำมันออกมา อย่าคิดแค่ว่าดี เพราะสังคมเราทุกวันนี้ต้องการอะไรมากกว่านั้น”
ทั้งนี้ ภายในงานจะประกอบไปด้วยการออกบูธของกลุ่ม-องค์กร ที่ทำงานด้านอาสาสมัครในมิติต่างๆ อาทิบ้านจิตอาสา, กลุ่มบ้านดินไทย, มูลนิธิกระจกเงา, บางกอกฟอรั่ม, ศูนย์อาสาสมัคร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, เครือข่ายเยาวชนแม่กลอง, มูลนิธิกระต่ายในดวงจันทร์, มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร, กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, Thai Yong Philanthopist Network (TYPN), BE Magazine และ ห้องสมุดนตาบอดฯ ที่สร้างสรรค์กิจกรรมทั้ง นิทานทำมือเพื่อเด็กๆ เย็บกระเป๋าผ้า และเย็บตุ๊กตามือ รับบริจาคหนังสือ ผลิตเสื้อ และเปเปอร์มาเช่ เพื่อนำรายได้ไปช่วยเหลือเด็กๆ ร่วมกับองค์กรสาธารณะกุศล ด้วยแนวคิดหลัก “ตลาดแห่งความสุขของการอาสาและการให้” หัวใจอาสาสมัครเกิดขึ้นได้ด้วยมือ ทุกที่ ทุกเวลา ร่วมสร้างความสุขให้สังคมไทยด้วยการให้และการอาสา