“พลังบวก” เปิดตัวโฆษณาชุดใหม่ ปลุก “พลังในตัวคุณ”
เครือข่ายพลังบวก ย้ำจุดยืนปลุกพลังบวกเปลี่ยนประเทศไทยให้น่าอยู่ รุกเปิดตัวโฆษณาชุดใหม่ “พลังในตัวคุณ” ออกอากาศ 14 ต.ค.นี้ พร้อมลุยเดินหน้าสำรวจ “โพล์เสียงประชาชน” หวังวัดภาพประเทศไทยที่คนไทยอยากเห็น
วันนี้ (13 ต.ค. 53) เครือข่ายพลังบวกสานต่อแนวทางขับเคลื่อนอุดมการณ์ “ปลุกพลังบวกเปลี่ยนประเทศไทย” เน้นทิศทางการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจและสร้างแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนอคติเป็นพลังบวก ด้วยการเปิดตัวโฆษณาชุดใหม่ “พลังในตัวคุณ” หลังจากได้เปิดตัวโฆษณาชุด “ขอโทษประเทศไทย” ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งโฆษณาชุดล่าสุดต้องการกระตุ้นคนไทยปรับทัศนคติ เปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสร้างสรรค์สังคมใหม่ให้ดีกว่าเดิม เผยเตรียมจับมือกลุ่มโพล์เครือข่ายเสียงประชาชน (we voice) ซึ่งเป็นสำนักโพล์และเครือข่ายนักวิชาการร่วมสำรวจความคิดเห็นประชาชน
นอกจากนี้ยังเปิดเวทีพูดปลุกพลังบวกหรืออิกไนท์ (ignite) ครั้งที่2 โดยระดมคนไทยหลากหลายอาชีพร่วมแบ่งปันความคิดบวก สร้างสรรค์ ปลุกพลังบวกเพื่อประเทศชาติ ณ หอประชุมใหญ่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีประชาชนกว่า 1,300 คนร่วมรับฟัง
นายภาณุ อิงคะวัต ประธานเครือข่ายพลังบวก กล่าวว่า จุดยืนสำคัญของเครือข่ายพลังบวก คือ การช่วยเยียวยาสังคมผ่านพ้นวิกฤติความแตกแยก กระตุ้นคนไทยเข้าใจปัญหาและเปลี่ยนอคติเป็นพลังบวก โดยอาศัยความถนัดทางวิชาชีพการสื่อสารของบุคคลในวงการโฆษณา โซเชี่ยลเน็ตเวิร์กและกลุ่มประชาสัมพันธ์เป็นแกนกลางในการขับเคลื่อนการรณรงค์การสื่อสารปลุกพลังบวก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ประชาชนทุกคนตระหนักถึงปัญหาและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ล่าสุดได้เตรียมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดล่าสุด เรื่อง พลังในตัวคุณ ซึ่งเป็นโฆษณาที่จะเชื่อมต่อสภาพปัญหาจากโฆษณาชุดแรก เรื่องขอโทษประเทศไทยไปสู่โฆษณาชุดถัดไปที่จะพูดถึงการลงมือทำสร้างการเปลี่ยนแปลง ซึ่งโฆษณาชุดล่าสุดนี้มีแนวคิดความต้องการปลุกพลังบวกที่มีอยู่ในตัวคนไทยทุกคนแล้วร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นทั้งในระดับบุคคล ชุมชนและสังคม
“คนส่วนใหญ่ทักคิดว่าตัวเองเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ในสังคม และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประเทศได้ เครือข่ายพลังบวกจึงต้องการแสดงให้เห็นว่า พลังของคนหนึ่งคนสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกของสังคมได้ ด้วยการเริ่มต้นที่ตัวเราแล้วค่อยขยายผลไปสู่คนรอบข้าง สังคม และประเทศชาติ เรื่องราวในโฆษณาชุดนี้จึงเป็นลักษณะการตั้งคำถามให้ผู้ชมคิดตามว่าคนหนึ่งคนสามารถทำอะไรได้บ้าง โดยนำเสนอความคิดเห็นจากผู้คนต่างเพศ วัย ต่างภูมิลำเนา ต่างอาชีพ ซึ่งเป็นส่วนเล็กๆ ที่มีพลังอันยิ่งใหญ่ เมื่อรวมกันแล้วจะสามารถเปลี่ยนประเทศให้น่าอยู่ได้ ซึ่งโฆษณาชุดนี้มีหลายชุดทั้งความยาว 120 วินาที 90 วินาที 45 วินาที 30 วินาที 15 วินาที กำกับโดยนายประณัศเดช ตันติพงศ์ ซึ่งจะออกอากาศในวันพรุ่งนี้ (14 ต.ค.)”
ประธานเครือข่ายพลังบวก กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เครือข่ายมีความร่วมมือหลักจากสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย และมีพันธมิตร เช่น กลุ่มเคเบิ้ลทีวี กลุ่มเครือข่ายโพล์ ฯลฯ ซึ่งมี 3 แผนในการดำเนินงาน คือ 1.มุ่งปลุกให้คนตื่นจากปัญหา 2.มุ่งกระตุ้นให้คนรวมพลังสร้างกิจกรรมบวก หรือ Active Citizen และ 3.เครือข่ายจะมุ่งกระตุ้นให้คนไทยพูดบวก คิดบวก ฟังบวก และทำบวก
ส่วนนายชัยประนิน วิสุทธิผล รองประธานเครือข่ายพลังบวก กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานความร่วมมือกับเครือข่ายนักวิชาการที่ทำงานด้านโพล์จากหลายสถาบันร่วมกันตั้งเครือข่ายเสียงประชาชน (We voice) และได้เชิญสำนักโพล์ เช่น จากนิด้า มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ(เอแบค) และมหาวิทยาลัยศรีปทุม ซึ่งมีรศ.ดร.พาชิตชนัต ศิริพานิชและพล.ร.ต.ดร.วิโรจน์ พิมานมาศสุริยา เป็นรองประธานคณะทำงาน มาร่วมสำรวจความคิดเห็นคนไทยเพื่อร่วมกันนำประเด็นในแต่ละด้านของสังคมมาสร้างการรับรู้ สำรวจปัญหาและความต้องการที่แท้จริงของประชาชน เพื่อนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาสื่อสารให้กับประชาชน สังคม ภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ พร้อมนำไปพัฒนาแนวทางแก้ไขเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในสังคมไทย
“โพล์เสียงประชาชนเป็นอีกแนวทางสำคัญในการสะท้อนความต้องการแท้จริงของประชาชน เนื่องจากเป็นการทำงานที่มีอิสระผ่านคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กลุ่มนักวิชาการจากหลายสถาบัน มีหลายสำนักโพล์ที่ตอบรับและร่วมสำรวจความคิดเห็น ได้แก่ กรุงเทพโพล์ ธุรกิจบัณฑิตโพล์ นิด้าโพล์ รังสิตโพล์และศรีปทุมโพล์ ซึ่งร่วมกันกำหนดประเด็น วัตถุประสงค์ กลุ่มเป้าหมาย ระเบียบวิจัยและวิเคราะห์ผล ทำให้การสำรวจสามารถสะท้อนความเป็นจริง เป็นธรรมและเป็นกลาง ซึ่งจะเก็บข้อมูล 5 ครั้งกระจายในกรุงเทพปริมณฑล ภาคกลาง เหนือ ใต้ และอีสาน รวม 5,682 ตัวอย่าง แล้วนำมาวิเคราะห์เพื่อจัดลำดับความสำคัญของปัญหาและสรุปพื้นที่ที่มีปัญหาค่อนข้างชัดเจน เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขอย่างตรงประเด็น เช่น เปิดให้มีเวทีสาธารณะในท้องที่นั้นๆ ให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นและนำเสนอข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ ” นายชัยประนิน กล่าว และว่า นอกจากนี้ขณะนี้เครือข่ายพลังบวกยังให้สร้างพันธมิตรกับกลุ่มธนาคารต้นไม้และสมาคมโฆษณาแหง่ประเทศไทยในการปลุกพลังบวกแล้ว
ด้านนายปรเมศวร์ มินศิริ ผู้จัดการเครือข่ายพลังบวก ในฐานะผู้รับผิดชอบกิจกรรมเครือข่ายปลุกพลังบวก กล่าวว่า ได้เดินหน้าสานต่อกิจกรรมเวทีพูดปลุกพลังบวกหรืออิกไนท์ครั้งที่ 2 ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเชิญ 21 วิทยากรมาร่วมปลุกพลังบวก เช่น ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา,ดร.ประมวล เพ็งจันทร์, ดร.วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์, นายธนา เธียรอัจฉริยะ, นายสรกล อดุลยานนท์ หรือหนุ่มเมืองจันท์,นายเพชร โอสถานุเคราะห์,ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ ฯลฯ โดยยึดแนวคิดหลักคือเปิดโอกาสให้ประชาชนได้พูดและฟังกันมากขึ้น ซึ่งเป็นการฟังให้ได้ยิน พูดอย่างสร้างสรรค์ มุ่งเน้นจุดประเด็นให้เกิดแรงบันดาลใจที่เป็นประโยชน์ต่อการนำไปพัฒนาสังคมและประเทศชาติ ซึ่งล่าสุดได้มีแผนจะจัดกิจกรรมนี้ไปยังจังหวัดต่างๆ เช่น ในเดือนพ.ย.ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา, ม.ค.2554 จ.ขอนแก่น, มี.ค.2554 จ.ระยอง, เม.ย.2554 จ.สุราษฎร์ธานี และมิ.ย.2554 จ.อุบลราชธานีอีกด้วย