“ประธานครือข่ายพลังบวก” เผยเดือน ก.ย. นี้ เปิดตัว “โพล์ปชช."
สานต่อ เวที “อิกไนท์ ครั้งที่ 2” 31 ส.ค. ปลุกแรงบันดาลใจคนกรุง กลางสวนลุมฯ เผยเตรียมเข็นสปอตโฆษณาอีก 3 เรื่อง ภายใต้แคมเปญ “สร้างแรงบันดาลใจ-ปลุกพลังบวก” หลังสปอต “ขอโทษประเทศไทย” ดังเป็นพลุแตก
เมื่อเร็วๆ นี้ นายภาณุ อิงคะวัต ประธานเครือข่ายพลังบวก เปิดเผยกับศูนย์ข้อมูลข่าวสารปฏิรูปประเทศไทยถึงการแก้ไขสปอตโฆษณาชุด “ขอโทษประเทศไทย” ล่าสุดว่า ขณะนี้แก้ไขไป 2 ครั้ง โดยทางกลุ่มพยายามช่วยกันตรวจสอบ ซึ่งเห็นตรงกันว่า อาจจะไม่ผ่านการเซนเซอร์อยู่ดี แต่ก็จะพยายามออกอากาศให้ได้ หรือถ้าติดขัดออกอากาศไม่ได้ ก็จะหาช่องทางอื่นแทน ล่าสุดกลุ่มเครือข่ายพลังบวกกำลังทำภาพยนตร์โฆษณาเรื่องที่ 2 ,3, 4 ภายใต้แคมเปญสร้างแรงบันดาลใจปลุกพลังบวกต่อเนื่องจากเรื่องแรก ซึ่งมีกลุ่มผู้กำกับกลุ่มต่างๆ เสนอตัวเข้ามาช่วยทำจำนวนมาก
เมื่อถามถึงประเด็น ขณะนี้เครือข่ายพลังบวกยังเข้าถึงเพียงกลุ่มชนชั้นกลาง ชนชั้นนำในสังคมไทย ยังเข้าไม่ถึงชาวบ้านระดับรากหญ้าในต่างจังหวัด ดังนั้นกลุ่มพลังบวกจะมีแนวทางเข้าไปสร้างการมีส่วนร่วมในการปลุกพลังบวกได้อย่างไรนั้น ประธานเครือข่ายพลังบวก กล่าวว่า การเข้าถึงคนทุกกลุ่ม คงทำไม่ได้ภายในพริบตา หรือได้ทันที ซึ่งทางกลุ่มพลังบวกกำลังพยายามเริ่มเข้าไปตามหัวเมืองใหญ่ เช่น ในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือพยามยามเข้าไปในกลุ่มผู้นำความคิดของคนในสังคมก่อน ผ่านทางกิจกรรมเวทีอิกไนท์
ประธานเครือข่ายพลังบวก กล่าวอีกว่า หลังจากจัดเวทีอิกไนท์ครั้งแรกที่สวนลุมพินีในวันเปิดตัวเครือข่ายพลังบวกไปแล้วนั้น พบว่าการสื่อสารของกลุ่มเข้าถึงคนต่างจังหวัดได้ เห็นได้จากการที่ปราชญ์บ้านคนหนึ่งที่มาร่วมงานรีบนำสปอตขอโทษประเทศไทยไปขยายผลอัพโหลดขึ้นเว็บไซต์ชุมชน และได้กระแสตอบรับกลับมา จึงเห็นว่า การสื่อสารของกลุ่มเข้าถึงคนต่างจังหวัดได้ส่วนหนึ่ง แต่การเข้าถึง 60 ล้านนั้นต้องใช้เวลา
สำหรับตัวกิจกรรมที่จะมาเสริมการขับเคลื่อนงานของเครือข่ายพลังบวกนั้น นายภาณุ กล่าวว่า นอกจากสปอตโฆษณา กิจกรรมเวทีอิกไนท์ การทำโพล์ประชาชนเพื่อสำรวจความต้องการร่วมกันในการเปลี่ยนประเทศไทยแล้ว จะมีกิจกรรมขยายผลเนื้อหาจากบนเวทีอิกไนท์มาจัดทำเป็นคอลัมน์ลงหนังสือพิมพ์ เป็นรายการทีวี นำเทปออกอากาศ หรืออาจจะทำรายการทีวีนำคนมาพูดสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงการกระทำ รวมถึงจัดทำพ็อกเก็ตบุ๊ค ขยายผลในทุกแต่ละกิจกรรมที่ได้ทำออกไปด้วย ซึ่งเวทีอิกไนท์ครั้งที่ 2 นี้จะจัดขึ้นวันที่ 31 ส.ค.ที่ลุมพินีสถาน เป็นการพูดคุยเฉพาะประเด็นพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อน และคาดว่าภายใน 2 เดือนนี้จะได้ผลักเรื่องการทำโพล์ประชาชนทั้งประเทศออกมา ขณะนี้ได้ร่วมกับสำนักโพล์ดำเนินการแล้ว โดย 80% เป็นความร่วมมือจากสำนักโพล์ในกรุงเทพ
ประธานเครือข่ายพลังบวก กล่าวถึงความใหม่ของการสื่อสาร ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่คิดขึ้นมา เช่น ถ้าทำการสื่อสารให้กับโพล์ก็ต้องมากกว่าการสื่อสารที่สร้างแรงบันดาลใจ อาจจะต้องเข้าไปถึงเรื่องการจัดสภากาแฟ จัดชุมชนสัญจร ฯลฯ ที่จะสื่อสารทำให้คนเข้าใจบทบาทของโพล์ให้มากขึ้น อาจจะเกิดอิกไนท์รูปแบบใหม่ที่เกี่ยวกับโพล์ให้คนเข้าใจว่า บทบาทของโพล์สำคัญอย่างไร แล้วทุกคนจะต้องดูแลปกป้องโพล์นี้อย่างไร ต้องสื่อสารทำให้คนเข้าใจว่า โพล์ไม่ใช่แค่ความเห็น แต่รวมไปถึงการทำให้เกิดการกระทำด้วย
ส่วนบทบาทและทิศทางการทำงานของเครือข่ายพลังบวก ประธานเครือข่ายพลังบวก กล่าวว่า เครือข่ายมีทิศทางที่ชัดเจน คือ จะไม่ทำในสิ่งที่พวกเราไม่ถนัด ทำเท่าที่ช่วยได้ และจะไม่เข้าไปในแวดวงของการแบ่งกลุ่ม แบ่งสี การเมือง สิ่งเหล่านั้นจะไม่เข้าไปแตะเด็ดขาด เพราะกลุ่มต้องการเป็นส่วนหนึ่งในสังคม เป็นหนึ่งในประชาชน ต้องการสื่อสารเพื่อประชาชน สร้างแรงบันดาลใจเพื่อประชาชนจริงๆ
“เราก็อยากให้ประชาชนมาฟังเราในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ไม่ใช่ฟังในฐานะมาจากกลุ่มเหลือง กลุ่มแดง หรือกลุ่มสีต่างๆ”