เปิดตัว “ไอเดียประเทศไทย” สร้าง "ตลาดความคิด" ดึงปชช.ร่วมพัฒนาชาติ
วันนี้ (4 ส.ค.) กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับสถาบันเช้นจ์ฟิวชั่น (Change Fusion) ,สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน บริษัท ไอ.เอ็น.เอ็น. เรดิโอ จำกัด, สำนักงานสำนึกรักบ้านเกิด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (ดีแทค), ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.),ศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชน และบริษัท พี ซี พี เอเซีย จำกัด ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “ไอเดียประเทศไทย (Ideas for Thailand)” ภายใต้แนวคิด "เมืองไทยเราสร้างได้" เพื่อสร้างความมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงพัฒนาสังคมไทยโดยระดมความคิดเห็นและความร่วมมือจากภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และคนไทยทั้งประเทศ ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยมีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
นายวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล กรรมการโครงการไอเดียประเทศไทย กล่าวว่า ความคิดมีพลังสามารถจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้ และยิ่งความคิดที่สร้างสรรค์ยิ่งมีพลังในการเปลี่ยนแปลงมาก ที่ผ่านมาสังคมไทยติดอยู่ที่ความคิดเชิงวิพากษ์ มักมองและฝากความหวังเรื่องการแก้ปัญหาและพัฒนาต่างๆ ไว้ที่รัฐบาล ทั้งที่ภาคเอกชน ภาคสังคมสามารถจะร่วมกันดำเนินการได้โดยไม่ต้องรอรัฐ ซึ่งโครงการนี้รัฐจะช่วยเป็นตัวกลางเชื่อมโยงความคิดดีๆ ของคนในสังคมมาช่วยพัฒนาประเทศ
“โครงการนี้เป็นการสร้างพื้นที่ให้ความคิดดีๆ ต่างๆ มารวมกันได้ เป็นตลาดความคิด พื้นที่ซื้อขายความคิดในการพัฒนาสังคม ไม่ว่ามิติด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีและสื่อสารสนเทศ ศิลปวัฒนธรรม และคุณภาพชีวิต”นายวรรณสิงห์ กล่าวและว่า ไอเดียประเทศไทยจะเปิดรับข้อเสนอความคิดจากทุกคนในสังคมทุกภาคส่วนในการร่วมพัฒนาสังคม โดยจะเปิดรับข้อเสนอจนนี้ถึง 31 ส.ค. จากนั้นจะคัดเลือกเหลือ 50 โครงการ ซึ่งภายในก.ย.นี้จะเกิดกิจกรรมเทศกาลความคิด (Ideas Festival) เพื่อนำเสนอความคิดเหล่านี้ และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะคัดเลือกให้เหลือเพียง 20 โครงการและนำมาให้ประชาชนร่วมโหวตเพื่อเลือก 5 โครงการสุดท้ายในการร่วมพัฒนาสังคมไทยและจะได้รับทุน 1 แสนบาท พร้อมการประสานความร่วมมือสนับสนุนทั้ง 5 โครงการให้เกิดผลรูปธรรมจริง และโครงการที่เสนอเข้ามาทั้งหมดหากโครงการใดสามารถทำได้จริงก็จะมีการผลักดันต่อไป โดยทั้งหมดจะมีการนำเสนอผ่านรายการไอเดียประเทศ ทางช่องสทท. (ช่อง11) ด้วย
จากนั้นมีเสวนา “แรงบันดาลใจและการก้าวมาสู่วิถีการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน” ซึ่งมีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี,นายชบ ยอดแก้ว ผู้ก่อตั้งกลุ่มสัจจะออมทรัพย์เพื่อจัดสวัสดิการชุมชน จ.สงขลา,นายทรงกลด บางยี่ขัน บรรณาธิการบริหารนิตยสารอะเดย์, นางสาวอภิรดี พรเลิศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัท ไอ.เอ็น.เอ็น. เรดิโอ จำกัด และนายพีระพงษ์ กลิ่นละออ ผู้อำนวยการสำนักงานสำนึกรักบ้านเกิด บริษัท โทเทิลแอ็คแซ็สคอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (ดีแทค) ร่วมเสวนา
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสังคมเราต่างคนต่างอยู่ ต่างคิดและทำแก้ปัญหา วันนี้ต้องเปลี่ยนความคิดแบบนี้ใหม่ ร่วมหาจุดแข็งของแต่ละคน แต่ละภาคส่วน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่และคนในพื้นที่ท้องถิ่นที่มีประสบการณ์ในพื้นที่มาช่วยกันแสดงความคิดและลงมือทำในการเปลี่ยนแปลงประเทศ
“เชื่อว่าอย่างน้อย 5-10 ปี จะเห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยได้ อยากเห็นคนไทยทุกคนเข้ามาร่วมกันปันความคิด เพราะทุกคนต่างมีศักยภาพในการช่วยคิดและทำ รวมถึงทุกคนสามารถมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศได้” ที่ปรึกษานายกกรัฐมนตรี กล่าว และว่า จากประสบการณ์ทำงานส่วนตัวนั้นภาคเอกชนก็สามารถเข้ามาช่วยทำกิจการและธุรกิจเพื่อสังคมได้ สามารถดึงนำพลังจากมหาวิทยาลัยต่างๆ พลังท้องถิ่นมาร่วมพัฒนาพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศอย่างยั่งยืนได้ สำหรับความคิดที่ตนอยากเสนอทำ คือ โครงการสร้างผลิตสินค้าวัฒนธรรมไทยแบบต้มยำกุ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะพัฒนาต่อยอดและยกระดับผลิตภันฑ์ชุมชนท้องถิ่นสู่สากล
ด้านนายชบ กล่าวว่า ปัญหาทุกวันนี้ในสังคมเกิดขึ้นเพราะตัวคน ดังนั้นการแก้ปัญหาและการพัฒนาทุกอย่างต้องเริ่มต้นที่ตัวคน ซึ่งต้องเริ่มต้นจากที่ตัวเราทุกคนก่อน เช่น ความพยายามในโครงการฝึกฝนให้ชาวบ้านออมทรัพย์ตามโครงการสัจจะออมทรัพย์วันละบาทที่ตนทำ ลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ เป็นต้น
นายชบ กล่าวอีกว่า การพัฒนาคนจะต้องทำทั้งด้านร่างกาย ที่ต้องทำให้ทุกคนมีความแข็งแรงทางร่างกาย และมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันต้องพัฒนาด้านจิตใจคนในสังคมด้วย คือ ต้องสร้างคนด้วยการพัฒนาจิตใจคนให้มีจิตพึ่งพาตนเอง มีวินัย ขยัน อดออม ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีน้ำใจ เนื่องจากขณะนี้คนไทยขาดคุณธรรม 4 ข้อ คือ การรักษาสัตย์ การรู้จักข่มใจตนที่ไม่กระทำผิด ความอดทนอดกลั้น และการรู้จักระวางความชั่ว หากพัฒนาคนดังนี้ได้จะทำให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อประเทศไทย
ส่วนนายทรงกลด กล่าวว่า สิ่งแรกที่ต้องทำคือต้องทำให้ทุกคนตระหนักว่า มีคุณค่าสำคัญในการร่วมเปลี่ยนแปลงสังคม ทุกคนสามารถช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ในสังคมได้ โดยต้องเริ่มทำความเข้าใจใหม่ เราทุกคนต่างเป็นส่วนหนึ่งของทุกปัญหา จากนั้นจงเริ่มต้นที่ตัวเราในการแก้ปัญหานั้นๆ ซึ่งขณะนี้มีคนกลุ่มเล็กๆ จำนวนมากที่กำลังพยายามแก้ปัญหาต่างๆ ของประเทศอยู่ ฉะนั้นอย่าเพิ่งสิ้นหวัง เพราะเราร่วมกันแก้ปัญหาได้ โดยต้องพยายามใช้สื่อตัวบุคคล พลังตัวบุคคลในการช่วยกันสื่อสารร่วมสร้างความคิดและสิ่งดีๆ ต่อกัน
“ทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้ แต่ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าเราทุกคนต่างเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาเสมอ เพื่อจะได้รู้ว่าเราจะมีส่วนร่วมแก้ไขได้อย่างไร โดยที่เราต้องเริ่มจากการแก้ที่ตัวเองก่อนเสมอ”
นางสาวอภิรดี กล่าวว่า อยากให้ทุกคนร่วมกันส่งผ่านความคิดดีๆ ร่วมกันต่อไปเรื่อยๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ ได้ร่วมคิดและทำไปด้วยกัน เพื่อร่วมกันสร้างคลังสมองจากพื้นที่ต่างๆ ที่ขณะนี้มีความคิดดีๆ กระจายอยู่ทั่วประเทศจำนวนมาก ขณะนี้ใครสามารถคิดสิ่งใดได้ก็ควรมาร่วมกันทำ ไม่อยากให้ทุกคนเอาแต่บ่น แต่ว่ากล่าวกัน ทุกคนควรจะมาร่วมกันคิดและทำมากกว่า
นายพีระพงษ์ กล่าวถึงโครงการนี้จะเป็นการรวบความคิดที่กระจัดกระจายตามพื้นที่ต่างๆ มารวมกัน จะเป็นการเปิดโอกาสและเติมเต็มความร่วมมือทางความคิด ความร่วมมือในการทำ จนเกิดความยั่งยืน ซึ่งความคิดดีๆ เหล่านี้จะเป็นจริงได้ทุกคนก็ต้องร่วมมือกัน
สำหรับช่องทางในการเสนอความคิดโครงการ “ไอเดียประเทศไทย” เพื่อร่วมพัฒนาสังคมนั้น ผู้สนใจสามารถรับแบบฟอร์มข้อเสนอโครงการได้ที่ http://pm.go.th/ideasforthailand/ และสามารถส่งข้อเสนอโครงการผ่าน 5 ช่องทาง 1. http://pm.go.th/ideasforthailand/ และ www.ideas.in.th 2. ตู้ปณ 123 ปณศ จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 3. เครือข่ายสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน 4. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)ทุกสาขา และ 5. ศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชนที่ครอบคลุมทุกจังหวัด (www.thaitelecentre.org) ทั้งนี้สามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-938-2636
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะนี้มีโครงการดีๆ ที่น่าสนใจหลายโครงการจากคนดังในสังคม เช่น โครงการห้องสมอง ของนายสราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ (นิ้วกลม),โครงการประกวดสินค้าโอท็อป จากนางสาวณัฐฐาวีรนุช ทองมี นักแสดง, โครงการต้นทุนชีวิตเด็กไทย โดยนพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว และผู้จัดการแผนงานสุขภาวะเด็กและเยาวชน สสส. ฯลฯ