ร่วมคืนพื้นที่บุญ ศาสนิกชนหลั่งไหลเปิด "สวนโมกข์ กรุงเทพ"

“ไพบูลย์” เชื่อสวนโมกข์กรุงเทพเป็นการคืนพท.บุญให้สังคม และเป็น “ศูนย์เรียนรู้และสถานบริการด้านศาสนธรรม” กลางกรุง “หมอประเวศ” ย้ำพื้นที่บาปต้องจำกัด พื้นที่บุญต้องขยาย หอฯพุทธทาส เหมาะสำหรับคนหิวกระหายธรรม ช่วยขยาย “จิตสำนึกใหม่” ให้คนไทย

วันนี้ (1ส.ค.)  มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาสอินทปัญโญ ร่วมกับพุทธศาสนิกชนและญาติธรรม จัดพิธีทำบุญเปิด “หอจดหมายเหตุพุทธทาสอินทปัญโญ”ณ สวนวชิรเบญจทัศ อุทยานจตุจักร (สวนรถไฟ) กรุงเทพฯ  โดยในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 07.00 น. พุทธศาสนิกชน และญาติธรรมร่วมกันทำบุญตักบาตรแบบครั้งพุทธกาล ณ ลานหินโค้งหน้าพระโพธิสัตว์และภาพปูนปั้นจำลองพุทธประวัติชุดแรกของโลกที่ท่านพุทธทาสทำไว้เมื่อหลายสิบปีก่อน และร่วมกันสวดมนต์ทำวัตรเช้าอย่างสงบ

จากนั้นนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม,คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม ประธานคณะกรรมการสนับสนุนการจัดตั้งหอจดหมายเหตุ ร่วมเป็นประธานเปิดห้องหนังสือและสื่อธรรม พร้อมรับมอบหนังสือธรรมจากพุทธศาสนิกที่ร่วมจัดทำและบริจาคให้หอจอหมายเหตุฯ จำนวน 12 เล่ม ดังนี้ หลักธรรมของพระพุทธองค์,หัวใจนิพพาน: ปาฐกถาชุดสุดท้ายของพุทธทาส, สาสน์สมเด็จฯกับพุทธทาสและดุลยพากย์สุวมัณฑ์, พุทธศาสนา เปิดสวนโมกข์กรุงเทพ,เที่ยวทั่วไทยให้ถึงธรรม,ธรรมะคู่ชีวิตกฎบัตรพุทธบริษัท,การ์ตูนเณรแก้วกับน้อยไชยา, สันติมรรคาเพื่อสันติประชาธิปไตย, สอนวาณิชให้เป็นเศรษฐี,คู่มือปฏิบัติอานาปานสติ 16 ขั้นของพุทธทาสภิกขุ,โลกมีสันติได้ด้วยทุกคนใช้ชีวิตนี้ให้เป็นประโยชน์ และพิศเจริญ

นายไพบูลย์ กล่าวว่า สวนโมกข์กรุงเทพแห่งนี้จะเป็นสถานที่บ่มเพาะความดีงามให้ผู้คนในสังคม เป็นการคืนพื้นที่แห่งบุญ พื้นที่แห่งคุณธรรมสู่กลางกรุงเทพฯ หอจดหมายเหตุพุทธทาสอินปัญโญแห่งนี้จะเป็นทั้งที่ศึกษา วิจัย ค้นคว้า พัฒนา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ศาสนาธรรมภายใต้ความถูกต้องดีงามอย่างรื่นรมย์ ที่นี่จะเป็นศูนย์เรียนรู้และสถานบริการด้านศาสนธรรม (Spiritual Fitness and Edutainment Center) และสอดคล้องกับการปฏิรูปประเทศไทยที่ต้องทำทั้งโครงสร้างวัฒนธรรม ค่านิยมความดีงาม คุณธรรมต่างๆ ให้เกิดขึ้นแก่ทุกคนในสังคม

กระทั่งเวลา 10.00น. นายอังคาร กัลยาณพงศ์ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ (กวีนิพนธ์) ปี 2532 ได้อ่านกวีนำการเสวนาธรรม “ร่วมคืนพื้นที่บุญให้สังคมไทย” โดยพระไพศาล วิสาโล ประธานเครือข่ายพุทธิกาและเจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต(วัดเอราวัณ) ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ และศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโสและประธานคณะสมัชชาปฏิรูป (คสป.) มีนายภิญโญ ไตรสุริยธรรม ดำเนินรายการ

พระไพศาล กล่าวถึงหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ว่า จะเป็นการขยายพื้นที่บุญให้กว้างขึ้นและสร้างกระบวนการจัดการความดีขึ้น เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่การทำบุญและการทำบุญของคนในสังคมถูกกระชับพื้นที่ให้คับแคบลงเฉพาะที่ในวัด การทำบุญใส่บาตรด้วยอำนาจแห่งทุน ผิดจากเดิมที่การทำบุญนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยทั่วไปทุกปริมณฑลในสังคมและไม่ตกภายใต้อำนาจทุน ซึ่งการทำบุญที่ถูกต้องทำแล้วเกิดความสงบเย็นและเป็นประโยชน์ในสังคมด้วย

ด้านศ.นพ.ประเวศ กล่าวว่า พื้นที่บาปต้องจำกัด พื้นที่บุญต้องขยาย สวนโมกข์กรุงเทพแห่งนี้ไม่ใช่การยกสวนโมกข์ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานีมาไว้ที่นี่ แต่เป็นการขยายพื้นที่บุญ ขยายพื้นที่บุญทางภูมิศาสตร์ ที่ในปัจจุบันนั้นถูกจำกัดมากขึ้น ให้กับคนที่หิวกระหายธรรมะ ซึ่งก็ไม่สำคัญเท่ากับขณะนี้ต้องขยายพื้นที่บุญในจิตใจของทุกคนในสังคม โดยใช้โลกุตรธรรมโอสถหรือสวนโมกข์แห่งนี้เป็นเครื่องมือ

"ต้องทำให้เกิดขบวนการจิตสำนึกใหม่ให้เกิดขึ้นแก่ทุกคนในสังคม ซึ่งขณะนี้กำลังจะกลายเป็นกระแสใหญ่ในการปฏิรูป เพราะการปฏิรูปที่สำคัญและใหญ่ที่สุดคือ การปฏิรูปจิตสำนึกคนในสังคม ซึ่งการปฏิรูปนี้เป็นการเปิด ทำนบ ศักยภาพของคนที่ต้องเปิดให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมคิดร่วมทำได้"

นอกจากนี้ช่วงบ่ายมีพิธีเปิดลานธรรม “ธรรมะในสวน” โดยมีนายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ (กวีนิพนธ์) ปี 2536 และนางจิระนันท์ พิตรปรีชา ร่วมลำนำกวีเปิดงาน พร้อมกับพิธีเปิดนิทรรศการภาพชุด “พิศเพลิน กตัญญูกตเวที 2 , ศรีพระศาสนาณและนิพพานชิมลอง” ณ ชั้น 2

ขณะเดียวกันบริเวณชั้น 1 มีการแสดงดนตรีธรรมะโดยนายศุ บุญเลี้ยง ต่อด้วยเวทีเสวนาแนะนำหนังสือ 12 เล่ม ในวาระเปิดหอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ และปัจฉิมเสวนาธรรม “ข้อคิดการคืนพื้นที่บุญให้สังคมไทย” กับพระไพศาล วิสาโล พระพยอม กัลยาโณ และพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ณ บริเวณโถงริมสระน้ำ

นพ.บัญชา พงษ์พานิช ผู้อำนวยการหอจดหมายเหตุพุทธทาสอินทปัญโญ กล่าวว่า หอจดหมายเหตุพุทธทาสอินทปัญโญแห่งนี้เป็นการร่วมคืนพื้นที่บุญให้สังคมไทย จะเป็นอีกพื้นที่บุญในสังคมไทยที่จะเป็นศูนย์เรียนรู้และสถานบริการด้านศาสนธรรม เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ วิจัย พัฒนาศาสนธรรมร่วมกันในสังคม ซึ่งหอจดหมายเหตุนี้เป็นแค่ส่วนเล็กๆหนึ่งในสังคม สถานที่อื่นทั่วประเทศก็สามารถจัดทำเป็นพื้นที่บุญเช่นนี้ได้

สำหรับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในสวนโมกข์กรุงเทพแห่งนี้ ผอ.หอจดหมายเหตุพุทธทาสอินทปัญโญ กล่าวว่า จะมีพื้นที่ให้ปฏิบัติธรรม บันเทิงธรรม มีหอหนังสือธรรมะ มีโรงภาพยนตร์ธรรมะห้องนิพพานชิมลอง และกิจกรรมอื่นๆ เช่น ทุกวันเวลา 17.30-19.00 น.จะเปิดให้พุทธศาสนิกชนร่วมสวดมนต์ปฏิบัติธรรมอานาปานสติ 16 ขั้นแบบพุทธทาส ส่วนทุกวันเสาร์ 14.00-16.00 น.จะมีเสวนาธรรม “สวนโมกข์เสวนา” ซึ่งระยะแรกนี้จะชวนเสวนาในหนังสือธรรมะทั้ง 12 เล่มในรายละเอียด โดยวันเสาร์ที่ 7 ส.ค.จะเสวนาเรื่อง “พิศเจริญ” โดยจิระนันท์ พิตรปรีชา และธีรภาพ โลหิตกุล

ทุกวันอาทิตย์มีกิจกรรมสอนสมาธิภาวนาอานาปานสติ เวลา 14.00-16.00น.และทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนมีกิจกรรมธรรมะในสวน ทำบุญใส่บาตร ปฏิบัติธรรม และฟังดนตรีธรรมร่วมกัน เวลา 09.00-15.00น. ส่วนสำนักงานจะเปิดทำการทุกวันตั้งแต่ 09.00-19.00 น. อีกทั้งทุกวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนจะมีกิจกรรมโยคะและทุกวันอาทิตย์ที่ 4 ของเดือนเป็นกิจกรรมไท่เก๊ก นอกจากนี้พื้นที่นี้จะเปิดให้ทุกคนสามารถเข้ามาเสพธรรมะ และช่วยสร้างสรรค์ธรรมะที่นี่ได้

ทั้งนี้หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ นี้ ตั้งอยู่บนสวนวชิรเบญจทัศ จัดสร้างถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสครบรอบพระบรมราชาภิเษกครบ 60 ปี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานอนุญาตให้จัดสร้าง โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อมิ.ย. 2552 ซึ่งเป็นอาคารปูน 3 ชั้นอยู่ริมสระน้ำและสวนกิจกรรมลานธรรมะ โดยชั้นล่างประกอบด้วยลานหินโค้งปฏิบัติธรรมหน้าพระโพธิ์สัตว์ซึ่งจำลองแนวคิดจากลานปฏิบัติธรรมสวนโมกขพลาราม วัดธารน้ำไหล อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี, ห้องหนังสือและสื่อธรรมะซึ่งจะเป็นแหล่งรวบรวมศึกษาธรรมะและผลงานของพุทธทาส ส่วนชั้น 2 มีห้องนิทรรศการนิพพานชิมลอง ห้องปฏิบัติสัทธรรมและประชุมสัมมนา และสวนปฏิจจสมุปบาท และชั้นบนสุดเป็นส่วนนิทรรศการแสดงผลงานท่านพุทธทาส

นอกจากนี้สวนโมกข์กรุงเทพแห่งนี้ยังมีสถาปัตยกรรมที่แฝงข้อคิดปริศนาธรรมต่างๆ อีก ซ่อนอยู่อีกมาก เช่น เสา5กับนกฮูกน้อยในลานสวนธรรมะ, ภาพปูนปั้นจำลองหินสลักพุทธประวัติชุดแรกของโลก,ห้องปฏิบัติสัทธรรม และนิทรรศการนิพพานชิมลอง ฯลฯ สามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ www.dhamma4u.com