“มีชัย” ปลุกพลังแห่งการให้อภัย ดับความร้อนรุ่มในสังคมไทย
อดีตปธ.วุฒิสภา ชี้เหตุจลาจลกลางกรุงที่ได้ยุติลง ไม่ได้แปลว่าความสงบ-สันติจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ หากทุกฝ่ายยังเก็บความแค้นใจเอาไว้ไม่ปล่อยวาง เชื่อวันหนึ่งอาจระเบิดขึ้นมาอีก แนะให้อภัยเครื่องมือดับความรุ่มร้อน และมองไปข้างหน้าอย่างมีเมตตาต่อกัน
วันนี้ (25 พ.ค.) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานวุฒิสภา และประธานรัฐสภา ตอบคำถาม ในคอลัมภ์ ถาม-ตอบกับมีชัย ในเว็บไซต์ www.meechaithailand.com กรณีการชุมชุนปิดเส้นทาง ปิดพื้นที่ ทำให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจ และความเสียโอกาสทางการค้า นอกจากรัฐต้องรับผิดชอบแล้ว ผู้ค้าสามารถฟ้องร้องทางแพ่งต่อแกนนำ นปช.ได้หรือไม่
นายมีชัย ระบุถึงเหตุการณ์จลาจลที่ได้ยุติลงนั้น ไม่ได้แปลว่าความสงบและความสันติจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ หากทุกฝ่ายยังเก็บความคับข้องใจหรือความคับแค้นใจเอาไว้ไม่ปล่อยวาง วันหนึ่งก็อาจระเบิดขึ้นมาได้อีก สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นพอจะเป็นบทเรียนได้ว่า หากแต่ละฝ่ายมุ่งมั่นจะให้ได้สิ่งที่ตนปรารถนาโดยไม่สนใจถึงผลที่จะเกิดขึ้น ในที่สุดก็หนีไม่พ้นความรุนแรงที่เสียหายถึงชีวิตและทรัพย์สิน และความเดือดร้อนก็ตกแก่ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย และในที่สุดสังคมทั้งสังคมย่อมได้รับผลร้ายด้วยกัน ผลร้ายนั้นนอกจากแต่ละคนที่ประสบกับเหตุการณ์จะต้องเผชิญแล้ว รัฐในฐานะเป็นองค์รวมก็ต้องร่วมได้รับผลกระทบ ต้องนำเงินภาษีอากรมาจุนเจือกันไปด้วย ซึ่งเป็นบทเรียนที่จะต้องช่วยกันจดจำและร่วมมือกันหาทางแก้ไข
การแก้ไขในส่วนของรัฐที่เกี่ยวกับการดำเนินการตามตัวบทกฎหมาย นายมีชัย กล่าวว่า ต้องปล่อยให้รัฐดำเนินการไป แต่ในส่วนของสังคมนั้น ต้องช่วยกันทำให้เย็นลง ถ้ายังเก็บความคุกรุ่นหรือความคับแค้นใจเอาไว้ สังคมก็จะไม่มีทางเย็นลงได้ ความสุขสงบอย่างถาวรอย่างที่เคยเป็นก็จะไม่เกิดขึ้น
“การให้อภัยในทางศาสนาพุทธนั้น มิได้มุ่งประโยชน์ให้เกิดแก่คนที่ได้รับการอภัยแต่เพียงถ่ายเดียว หากแต่มุ่งให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ให้อภัยอย่างเป็นสำคัญด้วย เพราะเป็นเครื่องมือในการทำให้ดับความรุ่มร้อน ความเครียดขึ้ง และเกิดความเย็นฉ่ำขึ้นในจิตใจได้ เป็นความสุขสงบอีกอย่างหนึ่ง”
นอกจากนี้ อดีตประธานวุฒิสภา ยังระบุถึงรายการทีวีรายการหนึ่งของทีวีไทย ที่ได้นำคนรุ่นใหม่มาออกรายการ เยาวชนคนหนึ่งพูดไว้น่าคิดทำนองว่า ทำไมเราจะมัวแต่พูดถึงสิ่งต่าง ๆ ในทางทำลายล้างกัน ทำไมไม่หันมาพูดถึงสิ่งสร้างสรรค์ ให้สังคมได้ฟื้นคืนสู่ความสุขสงบ ซึ่งเมื่อได้ฟังแล้วก็อุ่นใจว่าประเทศไทยยังมีความหวังที่จะรุ่งเรืองได้ ถ้าสังคมลุกขึ้นมาร่วมมือกันแก้ไข และมองไปข้างหน้าอย่างมีเมตตาต่อกัน ปัญหาที่ว่ายากก็อาจแก้ไขได้อย่างไม่นึกฝัน
ส่วนคำถามที่ถามมานั้น นายมีชัย แสดงความเห็นว่า ถ้าตอบไปตามลำดับคำถามตามตัวบทกฎหมาย นอกจากความสะใจแล้ว ก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะเป็นสิ่งที่คงไม่เกิดขึ้นจริง แต่กลับจะทำให้เกิดความรุ่มร้อนและแค้นใจมากยิ่งขึ้น