จี้รบ.เร่งฟื้นฟูจิตใจคนไทย นำพาชาติออกจากการโยนบาป
รศ.สุริชัย หวันแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาสันติภาพและความขัดแย้ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอดีตสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เปิดเผยกับศูนย์ข้อมูลข่าวสารปฏิรูปประเทศไทยถึงแนวทางการเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ ภายหลังเหตุการณ์จลาจลการเมืองว่า ขณะนี้คนไทยต้องก้าวข้ามให้พ้นช่วงร้อนลนนี้ให้ได้ก่อนซึ่งเป็นช่วงอันตราย ต้องเร่งฟื้นฟูจิตใจคนไทย รัฐบาลต้องทำให้ข้อมูลข่าวสารกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระบวนการดูแลและเยียวยาประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน ให้ประจักษ์สู่สาธารณชน โดยต้องเปิดให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะคนจน ชาวบ้านคนที่มาชุมนุมก็ต้องสามารถเข้าร่วมได้ด้วย
รศ.สุริชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้รัฐบาลต้องตระหนักในการนำพาชาติออกจากการโยนบาปให้ใครในสังคมที่ต้องรับผิดชอบแทน รัฐบาลต้องร่วมทุกข์กับชาวบ้าน ประชาชน ร่วมทุกข์กับสังคมให้มากกว่านี้ ต้องหยุดยั้งการสร้างความโกรธ เกลียดชังกัน ต้องสร้างความไว้วางใจ และมั่นใจของประชาชนให้เกิดขึ้นซึ่ง ต้องดูแล เยียวยาคนจน คนที่เดือดร้อนจากเหตุการณ์ ไม่ใช่แค่ภาคธุรกิจ สิ่งเหล่านี้รัฐบาลต้องทำให้สังคมประจักษ์และต้องรีบดำเนินการ ถ้าไม่รัฐบาลไม่ร่วมทุกข์กับชาวบ้านและสังคมก็ยากที่จะไปสู่ความปรองดองได้ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ
“เวลานี้ต้องช่วยสังคมแยกแยะเป้าทางอารมณ์ของคนในสังคมวงกว้างให้ออกเพื่อฟื้นฟู อารมณ์สังคมขณะนี้กำลังถามหาผู้รับผิดชอบความรุนแรงที่เกิดขึ้น ซึ่งชาวบ้านคนเสื้อแดงก็ถูกเหมารวมความผิดที่เกิดขึ้น และรัฐบาลต้องรับผิดชอบด้วย สังคมกำลังระบายโยนบาปใส่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างรุนแรง ดังนั้นรัฐบาลต้องดูแลสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ให้ดีเป็นกระบวนการอย่างดี”
ผอ.ศูนย์ศึกษาสันติภาพและความขัดแย้ง กล่าวว่า รัฐบาลและหน่วยงานภาคราชการที่เกี่ยวข้องต้องเปิดกระบวนการให้ทุกคนที่เป็นอิสระ ไม่ว่าชาวบ้านคนเสื้อแดงเองได้ร่วมรับรู้และเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ด้วย ต้องทำให้ประจักษ์ต่อสาธารณชนในความจริงใจของกระบวนการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจ ไว้ใจแก่ประชาชนให้ได้ ให้เกิดความไว้วางใจในข้อมูลข่าวสารโดยเร็วที่สุด ซึ่งเหล่านี้เป็นสภาพจิตวิทยาทางสังคมที่ต้องฟื้นฟู รัฐบาลต้องตั้งหลักเรื่องนี้ให้ได้ก่อนในเฉพาะหน้านี้
สำหรับแนวทางที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการต่อจากนี้ ผอ.ศูนย์ศึกษาสันติภาพและความขัดแย้ง กล่าวว่า รัฐบาลต้องเปิดให้ข้อมูลข่าวสารอย่างกว้างขวาง ควรเลิกให้ข้อมูลด้านเดียว เช่น ช่อง 11 ควรเปลี่ยนแปลง รัฐไม่ควรเพียงไล่ล่าฝ่ายใดกันทั้งเมืองอย่างเดียว ต้องแยกแยะระหว่างกระบวนการยุติธรรมกับการให้ข้อมูลข่าวสาร และควรยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ควรเปลี่ยนผ่านบทบาทของศอฉ.ให้กระทรวงหรือหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงภาคพลเรือนให้ได้มาร่วมรับช่วงต่อ ให้สังคมได้ร่วมพิสูจน์ไม่ใช่ให้โฆษกของรัฐออกมาพูดข้างเดียว
รศ.สุริชัย กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ขณะนี้เหมือนการไล่ล่าแม่มดในบ้านเมือง ซึ่งรัฐบาลต้องสร้างสมดุลในการใช้อำนาจ อย่าใช้อำนาจทหารมากเกินไปในกระบวนการของประชาธิปไตย กระแสการไลล่าต้องถูกจำกัดลง ไม่ใช้เพียงไม้แรงที่ใช้อยู่เพียงไม้เดียว ต้องเปิดให้ฝ่ายคนที่มีความอิสระได้ร่วมกระบวนการแก้ไขปัญหาด้วย และส่วนของกระบวนการยุติธรรม ดำเนินคดีเอาผิดผู้กระทำความผิดก็ต้องดำเนินการด้วยความจริงใจ แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีกระบวนการสร้างความเกลียดชังและความรุนแรงมาตลอด แต่ก็ไม่มีใครคาดว่าจะร้ายแรงขนาดนี้ สิ่งนี้ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู