กระตุ้นนักสันติวิธีไทย ทำงานหนักอย่างพระพุทธเจ้า
นพ.สุภกร บัวสาย เชื่อคนไทยส่วนใหญ่รักความสงบ สันติ ส่วนตัวไม่ได้เกลียดชังกัน ยังคุยได้หมดทุกกลุ่ม หากยก “ทักษิณ” ออกไป แนะนักสันติวิธีไทยศึกษาข้อมูลให้เข้าใจเหตุความขัดแย้งก่อน จากนั้นชวนฝ่ายที่ขัดแย้งมาร่วมหาทางออก
วันนี้ (18 เม.ย.) นพ.สุภกร บัวสาย อดีตผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แสดงความเห็นไว้ในเว็บไซต์เฟชบุคของพระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ในหัวข้อ “ ศัตรูที่แท้จริง” โดยแสดงความเห็นถึงเหตุการณ์ร้ายแรงเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตบริเวณถนนราชดำเนินกลางว่า หากยกปัจจัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกไป เชื่อว่าคนไทยคุยกันได้หมดทุกกลุ่ม
“คนไทยส่วนใหญ่ไม่ปฏิเสธความสงบ สันติ ไม่มีใครอยากทำร้ายหรือทำรุนแรงกับคนไทยด้วยกันเอง แต่ความขัดแย้งมีขึ้นโดยที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้เกลียดชังกันโดยส่วนตัว ดังนั้นสาเหตุแห่งความขัดแย้งจึงสำคัญมาก หากไม่ขจัดออกไปก็ไม่อาจคลี่คลายลงได้” นพ.สุภกร ระบุ และเห็นว่า กลุ่มคนที่เรียกร้องสันติวิธีควรทำงานหนักมากกว่านี้ พร้อมยกให้เห็นกรณีมหาตมะ คานธี มาร์ติน ลูเธอร์ คิง เนลสัน เมนเดลลา ที่นำประชาชนสู้กับอีกข้างหนึ่ง แต่ฝ่ายของท่านหากสู้ด้วยกำลังก็ย่อมพ่ายแพ้ ท่านจึงใช้สันติวิธี (อหิงสา) เป็นวิธีการสู้เพื่อให้บรรลุผลที่ยิ่งใหญ่กว่า (เช่น เอกราชของอินเดีย)
นพ.สุภกร ระบุอีกว่า พระพุทธเจ้าทรงห้ามพระญาติทะเลาะกัน พระองค์ก็ทรงเริ่มด้วยสันติวิธี แต่ชวนให้ล้วงเข้าไปเข้าใจสาเหตุ มิฉะนั้นสันติก็เหมือนผ้าห่มมาคลุมกองไฟจะคลุมได้ก็ไม่นาน และหากนักสันติวิธีไทย ซึ่งเป็นฝ่ายที่ 3 จะมีบทบาทในขณะนี้ก็ควรจะทำงานหนักดังกรณีพระพุทธเจ้า เริ่มต้นศึกษาข้อมูลให้เข้าใจสาเหตุของความขัดแย้งด้วยตนเองก่อน จากนั้นจึงมีหลักที่จะชวนฝ่ายที่ขัดแย้งมาร่วมกันหาทางออก เชื่อว่า จะสามารถช่วยคลี่คลายปัญหาได้
“สันติวิธีเป็นเพียงธรรมระดับกิ่งแขนง เป็นวิธีการหนึ่งไม่ใช่เป้าหมายหรือหลักการใหญ่ ขณะที่ธรรมะที่เป็นรากแก้วของพุทธคือ "อริยสัจ 4" เริ่มต้นด้วยการเข้าใจทุกข์กับสาเหตุแห่งทุกข์ จึงจะมีปัญญานำไปสู่ทางพ้นทุกข์ได้”